posttoday

"อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์" ดันเครื่องนุ่งห่ม-สิ่งทอ ส่งออกชิงตลาด 5.6 หมื่นล.

10 มิถุนายน 2567

"อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์" ดันเครื่องนุ่งห่ม-สิ่งทอส่งออกชิงตลาด 5.6 หมื่นล. เดินหน้าจัดงาน GFT 2024 สร้างโอกาสทางธุรกิจ SME ส่งออก จีน อินเดีย ผ่านเทคโนโลยีและเครื่องจักรทันสมัยจากทั้งใน และต่างประเทศ

นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีโอกาสและแนวโน้มที่จะขยายตลาดเสื้อผ้าและสิ่งทอไปได้อีก โดยการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ และการพัฒนาเส้นใยเพื่อให้ตอบโจทย์การสวมใส่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้มีโอกาสขยายตลาดไปได้เพิ่มมากขึ้น 

ทั้งนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้ระบุไว้ว่า ในไตรมาส 1/67 มูลค่าการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยมีมูลค่า 1,529.4 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 56,000 ล้านบาท โดยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

โดยไทยเป็นประเทศที่มีความสามารถในการผลิตสิ่งทอและเครื่องแต่งกายที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ได้อย่างครบวงจร ซึ่งที่ผ่านมาไทยยังได้ทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้าสำคัญที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย อาทิ อินเดีย จีน และญี่ปุ่น (ข้อมูลจากกรมเจรจาการค้า) นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีแบรนด์เสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมหลายแบรนด์ในตลาดต่างประเทศหลายแห่ง 

จากความสำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ สำหรับการเพิ่มโอกาส เสริมจุดแข็ง และส่งเสริมให้มีการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ จึงได้จัดงาน จีเอฟที (GFT 2024) ซึ่งเป็นงานแสดงเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอที่ครอบคลุมที่สุดในอาเซียน 

ภายใต้แนวคิด The Right Match ถักทอธุรกิจกับพันธมิตรที่ใช่ เพื่อส่งมอบโอกาสทางธุรกิจที่สมบูรณ์แบบผ่านเทคโนโลยีและเครื่องจักรทันสมัย จากทั้งในและต่างประเทศ ครอบคลุมตั้งแต่จักรปัก จักรเย็บ เครื่องพิมพ์ลาย ผ้าคุณสมบัติพิเศษ อุปกรณ์เสริม ซอฟต์แวร์ ระบบอัตโนมัติและ AI ไปจนถึงผู้รับผลิตเสื้อผ้า

สำหรับเจ้าของแบรนด์แฟชั่น และผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ รวมทั้งฝ่ายจัดซื้อที่กำลังมองหาชุดยูนิฟอร์มสำหรับองค์กร และลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจากหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ ผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ของขวัญ ยานยนต์  และเกษตรกรรม เพื่อส่งเสริมให้ผู้ผลิตพร้อมสำหรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต โดยคาดว่าจะมีผู้มาร่วมงานนี้กว่า 10,000 ราย

นางวราภรณ์ กล่าวอีกว่า งานจีเอฟทีจะเป็นฐานข้อมูลลูกค้าที่ช่วยให้ผู้แสดงสินค้าและซัพพลายเออร์สามารถสร้างคอนเนคชั่นใหม่ พบปะว่าที่ลูกค้ากลุ่มใหม่ หรือแม้แต่ได้คอนเนคชั่นจากซัพพลายเออร์ด้วยกันเอง ซึ่งอาจนำไปสู่ความร่วมมือเพื่อพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้นและเจาะตลาดได้กว้างขวางขึ้น 

นอกจากนี้ จีเอฟที ยังมีผู้ร่วมงานจากหลากหลายเชื้อชาติ เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฝรั่งเศส อิตาลี อเมริกา ที่จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาร่วมงาน ทั้งผู้ผลิตที่อยู่ในอุตสาหกรรมมานาน ดีไซเนอร์หรือเจ้าของแบรนด์รุ่นใหม่จะได้พบกับเทคโนโลยี โซลูชั่นหรือซัพพลายเออร์ที่จะช่วยทำให้ความฝันเป็นจริงได้ง่ายขึ้น เพราะคนไทยมีความครีเอทีฟในการคิดค้นสินค้า และมีความสนใจในการส่งเสริมความยั่งยืน ดังนั้นการได้พบปะพูดคุยและเห็นศักยภาพของเทคโนโลยีและเครื่องจักรต่าง ๆ โดยตรงย่อมทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนกว่าการดูและพูดคุยทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นวันที่ 26-29 มิ.ย. 67 ที่ไบเทค บางนา