posttoday

โอภาสพงษ์ ทองนุช ทุ่มเท passion ให้ PIGER WORKS ถักทอสู่ PRIDE OF THAILAND

26 กุมภาพันธ์ 2567

โอภาสพงษ์ ทองนุช สร้างธุรกิจยีนส์แบรนด์ไทย PIGER WORKS ด้วยความหลงไหลและทุ่มเท มุ่งให้เป็น PRIDE OF THAILAND ตั้งเป้ากวาดยอดขายต่างแดน 50% ฉีกกรอบปักหมุดตลาด mass ด้วยแบรนด์น้องใหม่ที่ราคาจับต้องง่ายภายในสิ้นปีนี้

KEY

POINTS

  • PIGER WORKS เกิดจากความหลงไหลในกางเกงบลูยีนส์ไสตล์วินเทจของวิศวกร 2 คนคือ คงชัช วงศ์รักมิตร และ โอภาสพงษ์ ทองนุช ด้วยเงินทุนเริ่มต้นที่คนละ 120,000 บาท 
  • แบรนด์สร้างความแตกต่างด้วยวัสดุคุณภาพสินค้า การใส่ใจในรายละเอียดต่าง  ๆ ในการออกแบบและผลิต พร้อมทั้งงานตัดเย็บฝีมือคนไทย เพื่อมุ่งหวังให้เป็น PRIDE OF THAILAND
  • ตั้งเป้ามียอดขายจากลูกค้าต่างชาติไม่ต่ำกว่า 50% และปล่อยแบรนด์ใหม่ที่ราคาจับต้องได้สำหรับลูกค้ากลุ่ม mass ภายในปีนี้

ด้วยความหลงไหลในกางเกงบลูยีนส์ไสตล์วินเทจของวิศวกร 2 คนคือ คงชัช วงศ์รักมิตร และ โอภาสพงษ์ ทองนุช เป็นรากฐานสู่การก่อตั้งธุรกิจยีนส์แบรนด์ PIGER WORKS (ภายใต้ บริษัท นิว เจนเนอเรชั่น เดนิม จำกัด) ที่ส่งกางเกงยีนส์แนววินเทจที่ร่วมสมัยหรือ modern vintage ตัวแรกออกจากสายพานการผลิต เมื่อวันที่ 4 เมษายน ปี 2010 ด้วยเงินทุนเริ่มต้นที่คนละ 120,000 บาท จน ณ ปัจจุบันมีผ้าในสต็อกมากกว่า 10 ล้าน แล้ว

ผมและพี่ชัช (คงชัช) คุยกันที่ร้านกาแฟของผมว่า ทำไมเราไม่ทำกางเกงยีนส์ modern vintage ในแบบที่เราชอบและดีที่สุดขึ้นมาเอง คือยีนส์ที่ทรงสมัยใหม่แต่เป็นผ้ากลิ่นอายมีความวินเทจ ซึ่งใส่งานตัดเย็บฝีมือของคนไทยไปด้วย เช่น งานสอยซ่อนด้าย ในแบบที่ยังไม่มีใครทำ ณ ยุคนั้นจนถึงปัจจุบัน ต่อมาจึงเริ่มออกแบบและวางโครงสร้างธุรกิจประมาณปี 2009 หรือก่อนหน้าผลิตตัวแรกประมาณหนึ่งปี

แต่จุดเริ่มที่ทำให้ผู้ก่อตั้งทั้งสองเห็นแววและมั่นใจว่ากิจการค้ากางเกงยีนส์ในแบบที่พวกเขาหลงไหลและชื่นชอบน่าจะไปรอด ที่นับได้ว่าเป็นบ้านหลังแรกของ PIGER WORKS  คือชุมชนออนไลน์สำหรับผู้รักนาฬิกาอย่างเว็บบอร์ด "สยามนาฬิกา" ตามที่โอภาสพงษ์เล่าว่าเป็นกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับนาฬิกาที่ตัวเขาเองก็ชื่นชอบอยู่แล้ว ด้วยก่อนที่เขาจะเริ่มธุรกิจของตัวเองก็ได้มีโอกาสให้คำแนะนำและตอบคำถามเรื่องกางเกงยีนส์มาก่อน ทำให้สมาชิกในสยามนาฬิกาคุ้นเคยกับความหลงใหลและความเชี่ยวชาญด้านกางเกงยีนส์ของเขา ดังนั้นหลังเปิดให้จองออเดอร์แรกเพียง 75 ตัวในราคาตัวละ 5,950 บาท ก็สามารถขายหมดภายใน 1 ชั่วโมง 

โอภาสพงษ์ ทองนุช ทุ่มเท passion ให้ PIGER WORKS ถักทอสู่ PRIDE OF THAILAND

สำหรับเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์แบรนด์ PIGER WORKS คือการใช้วัสดุคุณภาพสูง ผ่านแนวคิดการออกแบบที่ใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งการย้อมสีผ้า การทอผ้า การตัดเย็บ การทำกระดุม ฯลฯ ก่อนที่จะผลิตออกมาเป็นยีนส์แต่ละรุ่นแต่ละแบบ ดังเช่นนำกระดุมที่ผลิตจากเนื้อเงินแท้ Silver 925 มาใช้ในปี 2010 หรือแม้แต่การผลิตกระดุมทองเหลืองด้วยกรรมวิธีการกลึง ที่เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2012 ทว่าอีกจุดเด่นสำคัญคือจะไม่มีการลดราคาสินค้าให้แก่ลูกค้ารายใดทั้งสิ้น พร้อมบริการหลังการขายแบบไม่มีวันหมดอายุ

เช่นเดียวกับวิธีการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อสร้างความภักดีต่อแบรนด์ ที่โอภาสพงษ์วางแนวทางไว้ว่าอยากให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงกระบวนการผลิตที่ใส่ใจทุกขั้นตอน เสมือนร้านอาหารที่ทำครัวแบบเปิดให้ลูกค้าได้เห็นขั้นตอนการทำงานของเชฟ และเป็นโอกาสได้ต้อนรับลูกค้าเหมือนแขกที่มาเยือนโรงงานหรือถ้ำหมูเสือ (ตั้งอยู่บนที่ดินของครอบครัวย่านนนทบุรีที่เคยเป็นสวนทุเรียนมาก่อน)  รวมถึงยังได้รับบริการอื่น ๆ เช่นการตัดขากางเกง การปรับขนาดขา กางเกง และยังมีโอกาสได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้แก่ เสื้อยืด เสื้อฮาวาย รองเท้าผ้าใบ เข็มขัด กระเป๋าเงิน ฯลฯ ที่นอกเหนือจากกางเกงยีนส์ด้วย

ลูกค้าของ PIGER WORKS เกินกว่า 50% จะมาซื้อซ้ำตัวที่สอง  และบางรายซื้อแล้วก็ไม่ไปใช้แบรนด์ไหนอีกเลย เพราะเห็นแล้วว่าแบบนี้ที่อื่นไม่มี เช่น บริการที่ดูแลตลอดอายุการใช้งาน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลิตภัณฑ์ของ  PIGER WORKS มีระดับราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับแบรนด์เสื้อผ้าของไทยส่วนใหญ่ ซึ่งสำหรับกางเกงยีนส์รุ่นที่วางจำหน่ายปกติก็ราคาเกือบ 10,000 บาท แต่ด้วยความเชื่อและความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สินเค้าที่คุณภาพดี มีรายละเอียดและแนวคิดการออกแบบที่แตกต่าง และนำเสนอสิ่งใหม่อยู่เสมอ  ที่เน้นเจาะฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่รักการสวมใส่สินค้าในแบบของแบรนด์จริง ๆ และมีการแนะนำต่อหลังจากได้ใช้แล้วชื่นชอบ ก็เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้แบรนด์สามารถปลดล็อกกับดักราคาสูงได้ 

positioning ของเราไม่ได้อยากเป็น mass เราเป็น niche market ที่ต้องรักษาฐานลูกค้าให้เหนียวแน่นกับเรา ด้วยเรื่องของคุณภาพสินค้า กับ customer experience ที่อยากให้ลูกค้าเข้ามาที่โรงงานและได้เสพสิ่งที่ดีจริง ๆ นะครับ

โอภาสพงษ์ ทองนุช ทุ่มเท passion ให้ PIGER WORKS ถักทอสู่ PRIDE OF THAILAND

เก็บยอดขาย 50% จากต่างแดน

การขยายธุรกิจไปสู่ตลาดต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเติบโตธุรกิจ หลังก่อตั้งกิจการครบ 10 ปี ดังนั้นชื่อเสียงของแบรนด์จึงเริ่มเป็นที่รู้จักของลูกค้าชาวต่างชาติตั้งแต่เมื่อปี 2020 หลังจากเก็บฐานแฟนคลับในเมืองไทยได้ประมาณหนึ่งแล้ว แต่ขณะเดียวกันก็เป็นช่วงที่เกิดโควิดระบาดเช่นกัน แม้จะโชคดีที่มียอดจองมาก่อนแล้วประมาณ 500 ตัว  จากระหว่างที่โอภาสพงษ์เดินทางไปติดต่องานที่ญี่ปุ่น แล้วตัดสินใจโพสต์ขายกางเกงยีนส์รุ่น limited edtion เนื่องในโอกาสครอบรอบ 10 ปีที่ตั้งราคาไว้ 8,950 บาท บนช่องทางออนไลน์ แต่ก็ต้องพับแผนบุกต่างประเทศไปชั่วคราว

กระทั่งในปีที่ผ่านมา บริษัทเริ่มนำแผนรุกตลาดลูกค้าต่างชาติกลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง โดยล่าสุดเริ่มส่งทีมงานไปร่วมประกวดปั้นเฟดยีนส์ของกลุ่ม Indigo Invitational ที่เป็นกลุ่มรวมของคนเล่นยีนส์ทั่วโลก  รวมถึงมีลงข้อมูลผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ใน Instragram มากขึ้น เพราะเป็นช่องทางที่ต่างชาตินิยมในการหาข้อมูลสินค้าแฟชั่นเป็นหลัก 

ทั้งนี้อย่างน้อยที่สุดโอภาสพงษ์หวังให้สามารถสร้าง loyalty กับลูกค้าต่างประเทศก่อน โดยพยายามให้กระบวนการขายสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและพยายามดูแลไม่ให้เกิดปัญหาเกี่ยวสินค้า แต่หากมีปัญหาเกิดขึ้นก็จะเน้นให้บริการเหนือกว่าที่ลูกค้าคาดหวังให้มากที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้ภายในปีนี้สามารถทำยอดขายจากตลาดนอกได้ราว 50% จากทั้งหมด ซึ่งเติบโตจากก่อนนี้ที่ราว 10% ตลอดจนมองว่าหลังจากผ่านโควิดมาธุรกิจยีนส์เริ่มดีขึ้นแล้ว จึงวางเป้าหมายการเติบโตภาพรวมตั้งแต่ปีนี้ไปที่ 20% ต่อปี

ส่งแบรนด์ใหม่เจาะตลาด mass

นอกจากแผนงานใหญ่สำหรับแบรนด์ PIGER WORKS แล้ว บริษัท นิว เจนเนอเรชั่น เดนิม จำกัดที่อยู่ภายใต้การดูแลของโอภาสพงษ์ ได้เริ่มปล่อยแบรนด์ใหม่มาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว นั่นคือ "OPASPONG'S PROJECT" (โอภาสพงษ์โปรเจกต์) ที่จะเป็นผลิตภัณฑ์รุ่น limited ซึ่งใส่รายละเอียดและความประณีตยิ่งกว่าเดิม และต้องการสื่อความเป็นสยามประเทศออกไปทั่วโลก โดยใช้เวลาออกแบบและผลิตยาวนานกว่า 2 ปี จึงมีระดับราคาสูงกว่า PIGER WORKS 

OPASPONG'S PROJECT 1 ได้รับความนิยมมาก ๆ เพราะใช้ผ้าที่ไมมีใครทำ โดยปั่นเส้นด้ายที่ญี่ปุ่น แล้วส่งมาย้อมครามและทอมือที่ไทย เปิดให้จอง 50 ตัวในราคาตัวละ 20,000 บาท ก็หมดภายในเวลา 2 ชั่วโมง

โอภาสพงษ์ ทองนุช ทุ่มเท passion ให้ PIGER WORKS ถักทอสู่ PRIDE OF THAILAND

แม้จุดยืนที่ผ่านมาของ PIGER WORKS คือไม่เน้นการตลาดแบบ mass แต่ออกแบบและผลิตเพื่อกลุ่มคนที่รักในยีนส์ modern vintage เป็นหลัก แต่โอภาสพงษ์ก็ไม่ละทิ้งโอกาสที่จะกระจายชื่อเสียงเรื่องการผลิตกางเกงยีนส์คุณภาพสูงของบริษัท นิว เจนเนอเรชั่น เดนิม ฯ ออกไปวงกว้างมากขึ้น และหวังให้เป็นช่องทางสร้างฐานแฟนประจำให้ PIGER WORKS มากขึ้นด้วย

ดังนั้นหลังจากเตรียมความพร้อมในเรื่องต่าง ๆ มาระยะหนึ่งแล้ว จึงวางแผนที่จะเปิดตัวแบรนด์ใหม่ (ที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อแบรนด์ในขณะนี้) ภายในปลายปี 2567 ที่เน้นทำตลาดกับกลุ่มลูกค้าวงกว้างและวางช่วงราคาไว้ที่ตัวละ 1,000 - 2,000 บาท ที่วางจำหน่ายทั้งภายในห้างสรรพสินค้าและช่องทางออนไลน์ด้วย

ทั้งนี้โอภาสพงษ์เปิดใจถึงความคาดวังต่อแบรนด์ใหม่ว่า มีความตั้งใจทำให้ดีที่สุด แต่ด้วยยังมีประสบการณ์ในตลาด mass ไม่มากนัก จึงมองว่าอย่างน้อยก็ให้สินค้าภายใต้แบรนด์ใหม่ สามารถกระจายตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ และทางออนไลน์แล้วก็มีออนไลน์ได้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

เมื่อถามถึงโอกาสที่จะขยายการเติบโตของกิจการไปจนถึงขั้นใช้คำนำหน้าว่ามหาชนหรือไม่นั้น โอภาสพงษ์บอกว่า จากประสบการณ์ที่เคยขายหุ้นให้นักลงทุนไปได้ 2 เดือนก็ตัดสินใจขอซื้อหุ้นคืนกลับมาแล้ว เพราะค้นพบว่าแนวทางการทำธุรกิจที่มีระบบต้นทุนและตัวเลขมาเกี่ยวข้องมาก ๆ ไม่ใช่จุดยืนที่ต้องการ เพราะทำให้เกิดการหลงลืมไปว่าต้องการให้แบรนด์เป็นไปอย่างไรและไม่ใส่ความสุขในการทำธุรกิจอย่างที่ตัวเองต้องการ

ทั้งนี้โอภาสพงษ์ได้ฝากถึงผู้ประกอบการ SME และผู้ที่มีฝันอยากสร้างธุรกิจของตัวเองว่า จุดสำคัญที่จะทำให้กิจการเดินหน้าต่อได้ยั่งยืน คือสร้างธุรกิจจากสิ่งที่เราชอบหรือรักแล้วจะมีความสุข เพราะจะมี passion ตลอดเวลา พร้อมทุ่มเทและไม่รู้สึกยอมแพ้ง่าย ๆ แม้ในช่วงเวลาที่ต้องเจออุปสรรค

ตราบใดที่เรายังมีความหลงใหลหรือ passion ในสิ่งนั้นอยู่จะไม่มีวันตัน จึงเห็นว่า PIGER WORKS มักเริ่มสิ่งใหม่ ๆ ออกมาในตลาดตลอดเวลา โดยกำไรที่ได้แน่นอนคือความสุข ที่สำคัญคืออะไรที่เราทำได้ดี ทำทุกวันซ้ำ ๆ อย่างนี้ไป ก็จะมีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักเอง 

ข่าวล่าสุด

“สีหศักดิ์” เตรียมประชุมอาเซียนนัดพิเศษที่มาเลเซีย ถกปมกัมพูชา 22 ธ.ค.นี้