posttoday

คมนาคมขับเคลื่อนนครพนมสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์ภาคอีสานตอนบน

18 กุมภาพันธ์ 2567

กระทรวงคมนาคมลงพื้นที่จังหวัดนครพนม ติดตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ เดินหน้าสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์ภาคอีสานตอนบนเชื่อมโยงสู่ระดับภูมิภาค

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงผลการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดนครพนมร่วมคณะกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพันธ์ คุณากรวงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมว่

ทางคณะฯ มีการติดตามการดำเนินการของด่านศุลกากรจังหวัดนครพนม และการพัฒนาพื้นที่ อาทิ สถานการณ์การนำเข้า - ส่งออกสินค้าผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 การพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนม โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม และถนนสายเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน - ศูนย์กลางการค้าส่งชายแดน บริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 - ถนนเชื่อมทางหลวงแผ่นดินหมายเลย 212 อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พร้อมทั้งประชุมหารือแผนพัฒนาและแก้ไขปัญหาของจังหวัดนครพนม ร่วมงานนมัสการพระธาตุพนมวรมหาวิหาร และพบประชาชน

โดยสืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญ ในการให้บริการและกำกับดูแลโครงข่ายคมนาคมในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความปลอดภัย ส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และความมั่นคงของประเทศ โดยกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินโครงการสำคัญในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดนครพนม

ประกอบด้วย ศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2568 เส้นทางถนนเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน - ศูนย์กลางการค้าส่งชายแดนบริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 - ถนนเชื่อมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2568 และเส้นทางรถไฟ บ้านไผ่ – มุกดาหาร - นครพนม กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2570

 

อีกทั้งได้ให้มหาวิทยาลัยนครพนมทำโครงการจัดตั้ง Medical & Wellness Hub เพื่อรองรับการเป็นเมืองพักผ่อน และรองรับสังคมผู้สูงวัย ซึ่งโครงการดังกล่าวทั้งหมดนี้จะสามารถต่อยอดเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนม สร้างความเจริญให้เกิดขึ้นในพื้นที่ เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และทำให้จังหวัดนครพนมสามารถพัฒนาผลักดันจากเมืองรองเป็นเมืองหลัก เป็นศูนย์กลางทางโลจิสติกส์ของอีสานตอนบน ยกระดับโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงสู่ภูมิภาค ส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ