posttoday

NIAพร้อมภาคเอกชนและม.มหิดลเข้าร่วมSPACE-Fหนุนฟู้ดเทคและสตาร์ทอัพ

14 กุมภาพันธ์ 2567

กระทรวงอว. โดย NIA พร้อมด้วย เนสท์เล่ ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป และ ม.มหิดล ปูทางอนาคตอุตสาหกรรมอาหารไทย ผ่านโครงการ SPACE-F สนับสนุนนวัตกรรมฟู้ดเทคและสตาร์ทอัพ

โครงการ SPACE-F เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป และมหาวิทยาลัยมหิดล โดยให้เป็นโครงการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตทางธุรกิจเทคโนโลยีอาหารระดับโลกโครงการแรกของประเทศไทย มุ่งเน้นให้สตาร์ทอัพในธุรกิจเทคโนโลยีอาหาร (ฟู้ดเทค) ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรม รองรับกับความท้าทายในปัจจุบันและอนาคตที่ต้องเผชิญในอุตสาหกรรม โดยสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมจะได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเครือข่ายและแหล่งเงินทุนเพื่อการ เติบโตของธุรกิจต่อไป

โดยล่าสุดนางสาวศุภมาศ อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รมว.อว. และ นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. ร่วมกันแถลงข่าวโครงการ SPACE-F หนุนนวัตกรรมฟู้ดเทคและสตาร์ทอัพ โดยมี ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ศ.นพ.บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล และ นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า ให้การต้อนรับ ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพมหานคร

นางสาวศุภมาส กล่าวว่า หนึ่งในเป้าหมายของกระทรวง อว. คือการมุ่งเน้นส่งเสริมการใช้องค์ความรู้ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจฐานคุณค่า ด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG และอุตสาหกรรมอาหารเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ โดยประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารอันดับที่ 12 ของโลก คาดว่าจะมีมูลค่าการส่งออกในปี 2566 กว่า 1.5 ล้านล้านบาท มีสถานประกอบการกว่า 1.36 แสนราย และก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 9.73 แสนตำแหน่ง

รมว.อว. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โครงการ SPACE-F จึงเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของกระทรวง อว. ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของสตาร์ทอัพ ด้านเทคโนโลยีอาหาร ให้สามารถเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่เรียกได้ว่า “ชาตินวัตกรรม” และสามารถก้าวสู่อันดับที่ 30 ของดัชนีนวัตกรรมโลก ภายในปี 2573 ตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ต่อไป

ด้านดร.กริชผกา กล่าวว่า NIA มีเป้าหมายในการยกระดับระบบนวัตกรรมของประเทศ โดยอุตสาหกรรมอาหารเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สำคัญ โดยผลการจัดอันดับดัชนีระบบนิเวศสตาร์ทอัพ (Global Startup Ecosystem Index) โดย StartupBlink พบว่า ระบบนิเวศสตาร์ทอัพของประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมาก ปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 52 ของโลก อันดับที่ 11 ของเอเชียแปซิฟิก และอันดับที่ 4 ของอาเซียน

“โครงการ SPACE-F จะมีส่วนช่วยส่งเสริมความเป็นผู้ประกอบการที่เปลี่ยนด้วยนวัตกรรม มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมที่สอดคล้องกับเทรนด์ใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรม สามารถเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ให้เป็นผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในระดับสากลได้” ผู้อำนวยการ NIA กล่าว

ด้าน ศ.นพ.บรรจง กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหิดลมีความพร้อมในด้านการศึกษาเชิงวิชาการ องค์ความรู้ สิ่งอำนวยความสะดวกในด้านอุปกรณ์และเครื่องมือทางงานวิจัยรวมถึงผู้เชี่ยวชาญในด้านสาขาวิชาต่าง ๆ จึงมีความพร้อมเพื่อรองรับและช่วยส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาของผู้ประกอบการด้านอาหาร/สตาร์ทอัพ ในโครงการ SPACE-F ที่มุ่งเน้นสู่การพัฒนาประเทศไทยเพื่อเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารและนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตของเอเชีย

ทั้งนี้ โครงการ SPACE-F ได้เปิดรับสมัครสตาร์ทอัพ รุ่นที่ 5 ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.space-f.co หรือ Facebook : SPACE-F

ข่าวล่าสุด

Awakening Bangkok 2025 กลับมาแล้ว! ปลุกรักทั่วพระนครด้วยธีม “LOVEVERCITY”