posttoday

JST ERP บุกตลาดไทย ติดปีก SME ออนไลน์ รับอีคอมเมิร์ซโต

08 มกราคม 2567

ชูจุดเด่นระบบจัดการธุรกิจออนไลน์ครบวงจร ตั้งแต่เริ่มธุรกิจจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ ลดต้นทุนและเวลาการทำงานลง 20-30 % เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น 3 เท่า

นายอลิค เจียง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจเอสที อีอาร์พี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า JST ERP เป็นผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการธุรกิจออนไลน์ครบวงจร (E-Commerce SaaS ERP) ตลอดจน Ecosystem ของธุรกิจออนไลน์ชั้นนำของประเทศจีนที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 10 ปี เป็นระบบ ERP อันดับหนึ่งในประเทศจีน 4 ปีซ้อน มีลูกค้าใช้บริการอาทิ Alibaba, Taobao, Tmall, JD, Douyin(TikTok), PDD, Red, Dewu และอีคอมเมิร์ซมาร์เกตเพลสอีกมากมาย ซึ่งมีความเสถียรภาพสูง วางระบบบนอาลีบาบาคลาวน์ สำรองข้อมูลแบบเรียลไทม์ มีความมั่นคงและปลอดภัย พร้อมประสิทธิภาพสูงรองรับจนมีแผนขยายตลาดออกไปทุกภูมิภาคทั่วโลก ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดกว่า 6,000 nล้านหยวน หรือ 30,000 ล้านบาท รวมถึงภูมิภาคอาเซียนที่ตลาดอีคอมเมิร์ซกำลังเติบโต โดยเฉพาะประเทศไทย

จึงได้ก่อตั้งบริษัท เจเอสที (ประเทศไทย) เพื่อทำตลาดในประเทศไทยเต็มรูปแบบ ด้วยเป็นประเทศที่มีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และยังเป็นฮับด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาค บริษัทได้วางแผนใช้สำนักงานใหญ่ในไทยเป็นฮับบุกขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว 

ทั้งนี้ JST ERP มองตลาดอีคอมเมิร์ซประเทศไทยมีศักยภาพสูงในภูมิภาคนี้ เนื่องจากตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเติบโตเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องได้ในระยะยาว เนื่องจากคนไทยเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ที่สามารถปรับตัวสู่การขายของออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา มีความพร้อมด้านการขนส่ง และระบบการจ่ายเงินแบบไร้เงินสด ส่งผลให้กลุ่มแม่ค้าออนไลน์ ไลฟ์สดขายสินค้าออนไลน์ และแบรนด์ขนาดใหญ่ที่ผันตัวเองมาขายสินค้าออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้มีความต้องการนำระบบร้านค้าออนไลน์เข้ามาช่วยบริหารจัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพร้านค้าเพื่อให้ทันต่อการเติบโตของธุรกิจและขยายธุรกิจได้ในระยะยาว ซึ่งตัวระบบ JST ERP เข้ามาตอบโจทย์ช่วยลดต้นทุนและเวลาการทำงานลงถึง 20-30 % และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้นถึง 3 เท่าขึ้นไป

JST มองเห็นศักยภาพด้านตลาดอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากธุรกิจออนไลน์ไทยมีจุดแข็งด้านโซเซียลคอมเมนท์ไลฟ์สด ขายสินค้าผ่าน Facebook ,TikTok และ IG เนื่องจากถนัดสร้างตัวตนและมีฐานแฟนที่เหนียวแน่น แต่ยังติดข้อจำกัด การเข้าถึงระบบบริหารจัดการร้านที่มีบริการเกี่ยวกับการขายแบบครบวงจร ตั้งแต่ระบบจัดการออเดอร์คำสั่งซื้อจากทุกช่องทางแบบเรียลไทม์ จัดการสต๊อก คลังสินค้า การจัดการขนส่งโลจิสติกส์ และระบบบัญชีหลังบ้าน มีประสิทธิภาพจัดการได้แบบเรียลไทม์ เพราะคนกลุ่มนี้ขายความน่าเชื่อถือ หากระบบมีปัญหา จัดส่งสินค้าไม่ตรงกำหนดหรือส่งสินค้าผิด จะทำลูกค้าขาดความเชื่อมั่นในทันที 

หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบผลสำเร็จเติบโตในระยะยาวและมีความยั่งยืน จะต้องมีการนำระบบจัดการธุรกิจออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในตลาดอีคอมเมิร์ซเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ที่สามารถช่วยลดต้นทุน และลดเวลาการทำงาน รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นการทำงาน สามารถปรับปรุงอัปเกรดรองรับเทคโนโลยี หรือช่องทางขายใหม่ ๆ ซึ่งระบบสำหรับตลาดประเทศไทย บริษัทแนะ 4 แพคเกจ เหมาะกับธุรกิจทุกขนาดตั้งแต่เริ่มต้นไปจนกลายเป็นธุรกิจออนไลน์ขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ไทยเติบโตบนโมเดลธุรกิจของตัวเองในระยะยาว ได้แก่

แพคเกจที่ 1 Just Shop ระบบดูดไลฟ์ สำหรับพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ ตัวช่วยให้สามารถดูไลฟ์และจัดการคำสั่งซื้อได้สะดวกและแม่นยำจากทุกช่องทางขายผ่านไลฟ์สด

แพคเกจที่ 2 OMS Lite ระบบไลฟ์สด จัดการออเดอร์บนโซเซียลคอมเมิร์ซ สำหรับร้านค้าขนาดกลางที่มีช่องทางขายหลากหลายช่องทางทั้งบน Facebook, TikTok, Instagram ที่ต้องการตัวช่วยจัดการออเดอร์ รวมออเดอร์ และการรวมแชทจากทุกช่องทางขาย

แพคเกจที่ 3 OMS Pro ระบบจัดการออเดอร์บนโซเชียลคอมเมิร์ซ และอี-มาร์เกตเพลสที่ต้องการจัดการสต๊อกสินค้าอย่างละเอียด และเชื่อมโยงสต๊อกบนโซเชียลคอมเมิร์ซ และอี-มาร์เกตเพลส จับกลุ่มลูกค้าขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่

แพคเกจที่ 4 WMS ระบบจัดการคลังสินค้าบนโซเชียลคอมเมิร์ซ เหมาะสำหรับร้านค้าขนาดใหญ่และมีคลังสินค้าเป็นของตัวเอง พร้อมการจัดการคลังสินค้าครบวงจร เหมาะกับร้านขนาดใหญ่ที่มีคลังสินค้าเป็นของตัวเอง