ทำไม? สูงวัยต้องระวัง ‘อากาศหนาว’ เป็นพิเศษ!
กรมการแพทย์ เผยสาเหตุทำไม ‘สูงวัย’ ต้องระวังอากาศหนาวเป็นพิเศษ พร้อมเผยโรคที่มากับหน้าหนาวและวิธีการดูแลทั้งกายและใจ
KEY
POINTS
- อากาศหนาวทำให้ผู้สูงอายุเสี่ยงต่อภาวะอุณหภูมิกายต่ำ (Hypothermia) และโรคหัวใจและหลอดเลือดกำเริบ เนื่องจากกลไกควบคุมอุณหภูมิร่างกายทำงานลดลงและหลอดเลือดหดตัว
- ภูมิคุ้มกันที่ต่ำลงทำให้เสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบได้ง่ายขึ้น
- การอยู่บ้านนานขึ้นและกลางคืนที่ยาวนานในช่วงฤดูหนาว อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตใจ ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและความเหงาได้ง่าย
ฤดูหนาว ไม่ได้มีเพียงแค่อุณหภูมิที่ลดลงมากเป็นพิเศษเท่านั้น แต่ความชื้นในอากาศ และความยาวของแสงอาทิตย์กลางวันกลางคืนมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สามารถส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะกับ ‘ผู้สูงอายุ’
นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า
“ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูงต่อ ภาวะอุณหภูมิกายต่ำ (Hypothermia) และ โรคระบบหัวใจและหลอดเลือดกำเริบ (เช่น หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หลอดเลือดสมองตีบ)
เนื่องจากกลไกควบคุมอุณหภูมิร่างกายทำงานลดลง ทำให้สูญเสียความร้อนได้ง่าย
ประกอบกับความเย็นที่กระตุ้นให้หลอดเลือดหดตัวจนความดันโลหิตสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบ เพราะภูมิคุ้มกันต่ำและการรวมตัวกันในที่ปิด”
ด้านแพทย์หญิงบุษกร โลหารชุน ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ ได้กล่าวเสริมอีกว่า
“นอกจากความเสี่ยงทางกายแล้ว สุขภาพจิตใจและสังคม ในช่วงฤดูหนาวก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
เนื่องจากอากาศเย็นการอยู่บ้านนานขึ้น และกลางคืนที่ยาวนาน อาจนำไปสู่ ภาวะซึมเศร้าและความเหงาได้ง่าย“
โดยสรุปแล้ว ภาวะที่ควรระวังสำหรับ ‘สูงวัย’ ในหน้าหนาว ได้แก่
- โรคติดต่อทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ และโรคไวรัสทางเดินหายใจอื่นๆ
- โรคข้อ
- ความเสี่ยงต่อโรคเกี่ยวกับการไหลเวียนโลหิต เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น
- ความเสี่ยงในการหกล้ม เนื่องจากเคลื่อนไหวช้าลง
- ภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำจากความเย็น
- ผิวแห้ง
- ภาวะเหงาหรือซึมเศร้า
- ภาวะวิตกกังวล
วิธี ‘สูงวัย’ รับมือความเปลี่ยนแปลง ‘หน้าหนาว’
กรมการแพทย์ได้แนะนำวิธีการดูแลตัวเองดังนี้
- รักษาร่างกายให้อบอุ่น สวมใส่เสื้อผ้าที่พอเหมาะ
- ออกกำลังกายเบาๆ สม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและมวลกล้ามเนื้อ
- บริโภคอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามิน
- พบปะพูดคุยกับครอบครัวและเพื่อน ทำกิจกรรมกลางแจ้งบ้าง เพื่อบรรเทาความเหงาและเสริมสร้างกำลังใจ
- พักผ่อนให้เพียงพอและทำกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียด เช่น ฝึกสมาธิ หรืออ่านหนังสือ


