“พิพัฒน์” หนุนพัฒนาแอปพลิเคชัน “การเดินทาง” อำนวยความสะดวกผู้พิการ
“พิพัฒน์ รัชกิจประการ” มอบหน่วยงานคมนาคมร่วมสนับสนุนพัฒนาแอปพลิเคชัน “การเดินทาง” อำนวยความสะดวกผู้พิการ เล็งตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาผู้พิการ ชูศักยภาพ ความรู้ความสามารถผู้พิการ
KEY
POINTS
- “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” มอบหน่วยงานคมนาคมร่วมสนับสนุนพัฒนาแอปพลิเคชัน “การเดินทาง” อำนวยความสะดวกผู้พิการ
- เล็งตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาผู้พิการ ชูศักยภาพ ความรู้ความสามารถผู้พิการ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้นายสุภธรรม มงคลสวัสดิ์ เลขาธิการมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ (Active Wheelchair User) เข้าพบเพื่อหารือถึงการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล (อินเตอร์เน็ต/อุปกรณ์)
การพัฒนาแอปพลิเคชัน “การเดินทาง” สำหรับคนพิการ ซึ่งจะมีการทดลองนำร่องในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในโหมดการขนส่งทางบกและทางราง
พร้อมทั้งขอรับการสนับสนุนพิจารณารับคนพิการเข้าทำงาน การขับเคลื่อนการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และกฎกระทรวงคมนาคมว่าด้วยการจัดสิ่งอำนวยความสะดวก
โดยมี นายปัญญา ชูพานิช รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายจิรโรจน์ ศุกลรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้แทนกรมเจ้าท่า และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ร่วมหารือ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม
กระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญและมีภารกิจในการขับเคลื่อน เพื่อสนับสนุนแนวคิดการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถเข้าถึงได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ซึ่งกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานในสังกัดได้ดำเนินงานที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการเดินทางอย่างเสมอภาคของคนพิการ ดังนี้
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้พัฒนาแอปฯ “นำทาง” เพื่อให้ข้อมูลด้านการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะทางบก ทางราง ทางน้ำ (รถโดยสารประจำทาง เรือโดยสาร รถไฟ รถไฟฟ้า) รวมทั้งแจ้งข้อมูลจราจรหรือข่าวสารที่จำเป็นสำหรับผู้เดินทางทุกคน ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานของคนตาบอดได้ และได้พัฒนาประสิทธิภาพมาตลอดและจะขยายการให้บริการให้ครอบคลุมในเมืองภูมิภาคต่อไป
นอกจากนี้ สนข. อยู่ระหว่างการศึกษาและผลักดันในการนำเทคโนโลยีเพื่อให้ข้อมูลด้านการเดินทางหรือการบอกเส้นทางในสถานีขนส่งหรือจุดเชื่อมต่อการเดินทางเพื่อรองรับคนตาบอดให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและเท่าเทียมโดยเฉพาะ โดยจะมีการพัฒนาระบบ Wayfinding สำหรับคนตาบอด เช่น ระบบ Navilens มาทดลองในพื้นที่นำร่อง เช่น ท่าอากาศยาน สถานีรถไฟฟ้าหรือจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆในกรุงเทพฯ โดยจะทดลองใช้ภายในปี 2569
กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ขอความร่วมมือให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับโอนภารกิจดำเนินการสถานีขนส่งผู้โดยสาร จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วประเทศ 123 แห่ง กำหนดให้ผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง เส้นทางหมวด 1 กรุงเทพฯ จัดให้มีรถชานต่ำเพื่อรองรับการใช้งานของผู้พิการ (รถเข็น)
กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เปิดโอกาสให้ผู้พิการที่มีคุณสมบัติตามที่กองทุนฯ กำหนด สามารถยื่นคำขอเพื่อรับจัดสรรเงินเป็นค่าอปุกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน บริษัท ขนส่ง จำกัด และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จัดเก็บค่าโดยสารในอัตราพิเศษสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ
กรมเจ้าท่า (จท.) พัฒนาท่าเรือโดยสารและระบบอำนวยความปลอดภัยเพื่อรองรับการให้บริการแก่ผู้สูงอายุและคนพิการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มก่อสร้างและปรับปรุงตั้งแต่ปีงบประมาณ 25563 ถึงปัจจุบัน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จครบถ้วนในปี 2574 โดยยึดตามมาตรฐานเพื่อให้สอดคล้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ประเมินคุณภาพสถานีขนส่งทางรางทั้งสถานีรถไฟ และสถานีรถไฟฟ้า โดยประสานหน่วยงานผู้ให้บริการระบบขนส่งทางรางทุกระบบ เพื่อตรวจประเมินคุณภาพสถานีและความพร้อมในการให้บริการ และจัดทำข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพสถานีให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และกฎหมายไทยที่เกี่ยวข้อง และเพิ่มคุณภาพการให้บริการในระบบขนส่งทางราง ฝึกอบรมหลักสูตร “ทักษะการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารในระบบขนส่งทางราง เพื่อส่งเสริมการเดินทางที่เท่าเทียม” ให้ผู้แทนหน่วยงานผู้ให้บริการระบบขนส่งทางรางทุกระบบ ตั้งแต่ปี 2567 เพื่อพัฒนาทักษะและสร้างองค์ความรู้แก่บุคลากรผู้ให้บริการระบบขนส่งทางราง ส่งเสริมการให้บริการสู่ความเป็นเลิศ
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ดำเนินการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเดินอากาศ พ.ศ. 2497 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ. การเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562 กำหนดหลักการว่า สายการบินจะปฏิเสธการรับขนผู้โดยสารไม่ได้ เว้นแต่เพื่อประโยชน์แห่งความปลอดภัยหรือ การรักษาความปลอดภัย หรือเป็นกรณีที่กำหนดในข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน…” ซึ่งเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัย โดยกำหนดเหตุเพิ่มไว้ในข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือนข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน
นอกจากนี้ ได้ออกข้อกำหนดว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่ผู้ดำเนินการต้องจัดไว้บริการผู้โดยสารที่เป็นบุคคลผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ เพื่อเป็นการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนพิการ เด็ก และคนชราให้มีโอกาสได้เข้าถึงการเดินทางทางอากาศได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติของสายการบินและจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ และคนทุกคนตามข้อกำหนดฯ โดยอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง
นายพิพัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า ได้มอบให้ทุกหน่วยงานในสังกัดพิจารณารับผู้พิการเข้าทำงานตามที่กฎหมายกำหนดหรือมากกว่า เพื่อส่งเสริมให้ผู้พิการได้ใช้ความรู้ความสามารถและได้แสดงออกถึงศักยภาพในการทำงาน สร้างความภาคภูมิใจว่าเป็นบุคคลที่มีคุณค่าและมีศักยภาพ
พร้อมทั้งให้ทุกหน่วยงานวางแผนการอำนวยความสะดวกในการเดินทางเพื่อให้ผู้พิการสามารถเข้าถึงบริการระบบคมนาคมขนส่งได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม นอกจากนี้ ได้มอบให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ประสานงานกับมูลนิธิฯ เพื่อสนับสนุนข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาแอปฯ “การเดินทาง” ต่อไป
“ฝากกระทรวงคมนาคมพิจารณาจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนา วิจัย เรื่อง การสืบค้นความสามารถพิเศษของผู้พิการ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพผู้พิการให้ได้รับสิทธิความเท่าเทียมกับคนไทยทุกคน ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่ากระทรวงคมนาคมไม่ได้ละเลยหรือทิ้งใครไว้ข้างหลัง และคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากหน่วยงานพันธมิตร”นายพิพัฒน์ กล่าว


