เริ่มแล้ว! 'ซื้อยานอกรพ.เอกชน' สังเกตสัญลักษณ์ตามร้านขายยา รัฐฯ หวังลดค่าครองชีพ 3 หมื่นล้าน
'นายกฯ' เซ็นต์ MOU เปิดตัว “สุขกาย สบายกระเป๋า” นโยบาย Quick big win ลดค่าครองชีพปชช. ด้วยการเพิ่มทางเลือกซื้อยานอกรพ.เอกชน หวังเซฟค่าใช้จ่ายได้ราว 3 หมื่นล้านบาท
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ณ บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี วันนี้ (4 พ.ย. 2568) โดยมีนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเป็นสักขีพยาน
สำหรับโคงการ "สุขกาย สบายกระเป๋า" เป็นหนึ่งในนโยบาย Quick Big Win ของทางรัฐบาล หวังช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อยา ภายนอกโรงพยาบาลเอกชนได้
นายอนุทิน กล่าวว่า โครงการ "สุขกายสบายกระเป๋า" จัดตั้งขึ้นมาขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจและด้านสุขภาพครั้งสำคัญของประเทศไทย ถือเป็นการปรับเปลี่ยนแนวทางการให้บริการทางการแพทย์ครั้งใหญ่และแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับงานด้านสาธารณสุขของประเทศ
ปัจจุบันโรงพยาบาลของรัฐมีผู้ป่วยรอรับการรักษาจำนวนมาก ในขณะที่การใช้บริการที่โรงพยาบาลเอกชนยังคงมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทั้งค่ายาและค่าเวชภัณฑ์เนื่องจากรัฐบาลได้ดำเนินนโยบายที่ต้องการลดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนในทุกมิติ จึงได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุข หาแนวทางแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ในเรื่องการรักษาพยาบาลโดยได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ในการขับเคลื่อนนโยบายร่วมกัน
MOU ดังกล่าวจะผลักดันให้เกิดความร่วมมือกันในการแสดงรายละเอียดใบสั่งยาของโรงพยาบาลเอกชนอย่างถูกต้องและครบถ้วน โดยแสดงรายการยาก็บ่งใช้ยา เพื่อให้ผู้รับบริการมีข้อมูลตัดสินใจในทางเลือกว่าจะซื้อยาในโรงพยาบาลเอกชนหรือจะนำใบสั่งยานี้ไปซื้อยาด้วยตนเองที่ร้านขายยานอกโรงพยาบาล
ประชาชนสามารถซื้อยาได้ผ่านช่องทางร้านขายยาที่มีสัญลักษณ์ สุขกายสบายกระเป๋า
นายอนุทินกล่าวอีกว่าในภาพรวมจะเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชน เข้าถึงโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งขณะนี้มีโรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมแล้วมากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการคัดเลือกร้านขายยาเข้าร่วมโครงการฯแล้วกกว่า 3,400 ร้าน
ประชาชนสามารถนำใบสั่งยาจาก โรงพยาบาลเอกชนไปซื้อยาที่ร้านขายยาที่ลงทะเบียนกับทาง อย. และมีตราสัญลักษณ์โครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” หรือผ่านช่องทาง Telepharmacy ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสภาเภสัชกรรม โดยสามารถปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับยาและราคายาได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าได้ซื้อยาจากร้านขายยาที่มีคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดค่าครองชีพได้ ไม่น้อยกว่า 32,000 ล้านบาทต่อปี
"รัฐบาลเชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐและสมาคมโรงพยาบาลเอกชนในครั้งนี้จะทำให้ระบบการสาธารณสุขของประเทศ ซึ่งเป็นระบบที่มีความเข้มแข็งมาโดยตลอดในระดับต้นๆของโลกเป็นการให้บริการที่เข้าถึงพี่น้องคนไทยทุกคน " นายกฯ กล่าว


