ถ้า ‘เจนนี่’ ไลฟ์สดขายได้วันละ 100 ล้าน แสดงว่าคนไทยมีเงิน?
โพสต์ทูเดย์ชวนคิด ถ้า ‘เจนนี่’ ไลฟ์สดขายได้วันละ 100 ล้าน แสดงว่าคนไทยมีเงินหรือไม่? หรือตัวเลขนี้จะสะท้อนอะไรกันแน่!
“เจนนี่ ไลฟ์ขายของวันละ 100 ล้าน!” เป็นไวรัลของตัวเลขที่สร้าง 'ไวรัล' และแรงกระเพื่อมทางสังคม และกลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของพลังการตลาดผ่านไลฟ์สดในในประเทศไทย
ใช่! เงินร้อยล้านในแต่ละวันนับว่าไม่น้อย
คำถามคือ กำลังซื้อมากขนาดนั้น แสดงว่าคนไทยมีเงินใช่หรือไม่? นี่คือสิ่งที่ โพสต์ทูเดย์ จะพาแกะ แคะ และตั้งคำถามต่อสังคมร่วมกัน ผ่านตัวเลขต่างๆ!
ตัวเลขที่ 1
หนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง แต่ยอดขายออนไลน์กลับโต
ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทยในปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 88–89% ของ GDP ซึ่งเป็นระดับสูงสุดแห่งหนึ่งในเอเชีย และยังเพิ่มต่อเนื่องในปี 2025 จนเป็นเหตุให้ภาครัฐต้องออกมาจัดการ และยอมรับว่าปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยเป็นปัญหาสำคัญ!
ในขณะเดียวกัน รายได้เฉลี่ยของแรงงานไทยอยู่ที่ประมาณ 15,000–18,000 บาทต่อเดือน และกว่า 60% ของแรงงานไม่มีเงินออมเกิน 10,000 บาท ตามรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่าคนส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาวะใช้เงินเดือนชนเดือน มากกว่าเป็นกลุ่มที่มีเงินเหลือจับจ่ายในระดับสูง
แต่สิ่งที่สวนทางคือ ตลาด e-commerce ไทย กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว มูลค่าตลาดปี 2025 ประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท โดยมีการเติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 10–15% และหนึ่งในช่องทางที่เติบโตเร็วที่สุดคือ 'การขายผ่านไลฟ์สด' ซึ่งโตปีละกว่า 30–40% โดยเฉพาะในแพลตฟอร์ม TikTok และ Facebook
ตัวเลขที่ 2
ไลฟ์ขายได้วันละ 100 ล้าน ต้องมีคนซื้อกี่คน?
ถ้าวิเคราะห์จากเคสเจนนี่ ซึ่งตามสื่อต่างๆ ได้ออกมาพาดหัวข่าวกับครึกครื้นว่า ขายได้ทะลุ '100 ล้านบาทต่อวัน' จะพบว่า
ถ้าซื้อ 10,000 บาทต่อคน เจนนี่ต้องขายได้ 10,000 คนต่อวัน
คิดเป็นสัดส่วนของประชากรไทย (71.6ล้านคน) เท่ากับ 0.014%
ถ้าซื้อ 2,000 บาทต่อคน เจนนี่ต้องขายได้ 50,000 คนต่อวัน
คิดเป็นสัดส่วนของประชากรไทย (71.6ล้านคน) เท่ากับ 0.07%
ถ้าซื้อ 1,000 บาทต่อคน เจนนี่ต้องขายได้ 100,000 คนต่อวัน
คิดเป็นสัดส่วนของประชากรไทย (71.6ล้านคน) เท่ากับ 0.14%
ถ้าซื้อ 500 บาทต่อคน เจนนี่ต้องขายได้ 200,000 คนต่อวัน
คิดเป็นสัดส่วนของประชากรไทย (71.6ล้านคน) เท่ากับ 0.28%
คิดง่ายๆ ก็คือ แม้ยอดขายจะดูเยอะ แต่อาจจะเกิดจากจำนวนประชากรไม่ถึง 0.3% ของประชากรทั้งหมดที่เป็นคนไทย
ตัวเลขที่ 3
แล้วใครคือผู้ซื้อ?
จากงานวิจัยของ KResearch และ Influencer Marketing Hub (2024–2025) พบว่า ผู้ซื้อผ่านไลฟ์ส่วนใหญ่คือคนในช่วงอายุ 25–44 ปี อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ มีรายได้ประจำ ใช้ e-wallet หรือบัตรเครดิต และมักซื้อด้วยแรงจูงใจทางอารมณ์ เช่น ความรู้สึกอยากสนับสนุนคนขาย หรือความสนุกจากการดูไลฟ์ มากกว่าความจำเป็นจริง (ซึ่งเป็นสิ่งที่พูดถึงไลฟ์ของเจนนี่ว่ามีความสนุก จนอยากทำให้ซื้อ!)
พูดอีกแบบ คนที่ทำให้ยอดขายวันละ 100 ล้านเกิดขึ้น หากจะอ้างอิงจากวิจัยชิ้นนี้ ก็คือกลุ่ม ชนชั้นกลางบนในเมือง ที่ยังมีรายได้พอจับจ่ายเพื่อความบันเทิง (โดยเฉพาะในช่วงกลางเดือนแบบนี้!) ขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศยังคงรับมือกับราคาสินค้าที่สูงขึ้น หนี้สินที่เพิ่มขึ้น และรายได้ที่ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ
อย่างไรก็ตาม ในไลฟ์ของเจนนี่ มีคนไทยในชนชั้นต่างๆ หลากหลาย
ถ้าคิดว่า เป็นแรงงานไทยมีรายได้เฉลี่ย 15,000 บาทต่อเดือน การซื้อสินค้าราคา 2,000 บาทเพียงครั้งเดียว เท่ากับใช้เงินไปแล้วเกือบ 13% ของรายได้ทั้งเดือน ถึงตรงนี้คนอาจจะบอกว่าซื้อไม่ถึง 2,000 หรอก แค่หลักร้อย ... ถ้าคิดที่ 500 ก็อาจจะแค่ 3% ของเงินเดือน 15,000 บาท
ขณะที่ข้อมูลหนี้ครัวเรือนของไทยเพิ่มสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะหนี้เพื่อการบริโภค เช่น บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งสะท้อนว่าพฤติกรรม “ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง” กลายเป็นบรรทัดฐานของผู้บริโภคบางกลุ่มไปแล้ว
แต่..
ที่สำคัญคือ ประมาณ 2 ใน 3 ของบัญชีหนี้ครัวเรือนทั้งหมดของไทยเป็นสินเชื่อที่ไม่สร้างรายได้ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต นั่นเอง
ขอเปิดอีกหนึ่งตัวเลขแล้วกันคือ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เปิดผลสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย ปี 2568 พบครัวเรือนไทยส่วนใหญ่ 95.1% มีหนี้ โดยมีภาระหนี้เฉลี่ยสูงถึง 740,596 บาท/ครัวเรือน ต้องผ่อนชำระเดือนละ 22,022 บาท
ตัวเลขที่ 4
ความสำคัญของเงิน 100 ล้านต่อวัน
หากเชื่องานวิจัยที่บอกว่าใครอยู่ในตลาดดิจิทัล ข้อสรุปของ 100 ล้านต่อวันของเจนนี่ อาจจะพอบอกได้ว่า
ยอดขายระดับ 100 ล้านบาทต่อวัน เป็นภาพสะท้อนของ 'พลังของคนในโลกเศรษฐกิจดิจิทัล' มากกว่าจะเป็นหลักฐานว่า 'คนไทย' ในภาพรวมมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น
มันคือ 'กำลังซื้อ' จาก คนกลุ่มเล็กที่มีอิทธิพลสูง คล้ายกับตลาด Luxury ที่ยอดขายเพิ่มทุกปีแม้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว เพราะกลุ่มลูกค้าเดิมมีกำลังซื้อมากขึ้น ขณะที่คนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าถึงได้
'ยอดขายวันละ 100 ล้าน' อาจเป็นความตื่นตาตื่นใจในตลาดดิจิทัล แต่ในเชิงเศรษฐกิจ มันสะท้อนความไม่เท่ากัน และความเหลื่อมล้ำอยู่มาก
เพราะเมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ย หนี้ครัวเรือน และสัดส่วนผู้ซื้อจริงแล้ว จะเห็นว่า คนที่มีกำลังซื้อในโลกออนไลน์เป็นเพียงกลุ่มเล็ก ๆ ในสังคม ไม่ถึง 1% ของประเทศด้วยซ้ำ
ดังนั้น ถ้ามองจากตัวเลขเพียว ๆ คำตอบชัดเจน
'ยอดขายวันละ 100 ล้าน ไม่ได้หมายความว่าคนไทยรวยขึ้นแต่อย่างใด'
....
อีกด้านหนึ่งที่จะขอติ่งไว้เสียหน่อย เมื่อเป็นไลฟ์ของ 'เจนนี่' ที่มีแฟนคลับซึ่งมีฐานะและที่มาที่หลากหลาย!
ความจริงอีกด้าน ที่ต้องพูดถึงคือ งานวิจัยที่มีอาจใช้ไม่ได้เลยกับปรากฏการณ์นี้ เพราะ กลุ่มผู้ซื้ออาจไม่ใช่กลุ่มที่คาดการณ์ไว้เลยก็ได้
และนั่นน่ากลัวกว่ามาก
เพราะย่อมหมายถึง 'การซื้อเกินตัว' 'การเป็นหนี้ที่ต้องผ่อน' (ย้อนกลับไปดูตัวเลขหนี้ครัวเรือจากบัตรเครดิตอีกครั้ง) และกลายเป็นหนี้ ที่รัฐฯ ต้องเข้ามาแก้ไข ทบต้นทบดอก ทบไปทบมาสาละวน ไม่หลุดจากบ่วงเสียที!
พฤติกรรมการบริโภคทุกวันนี้ ผลักดันให้ผู้บริโภคซื้อไว จากการไลฟ์สด นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นและ '100 ล้าน' ของเจนนี่คือหลักฐานชั้นดี
สื่อและแพลตฟอร์มในทุกวันนี้ กระตุ้นให้เราบริโภค บริโภค และบริโภค
เพราะนั่นย่อมหมายถึง 'เงิน' และเป็น 'การเติบโตทางเศรษฐกิจ' (ก็แน่ล่ะเราอยู่ในโลกทุนนิยม)
แต่ในฐานะคนจ่าย สิ่งที่ควรมีคือ 'การบริโภคต้องสมดุลกับความจำเป็น' ด้วยเช่นกัน
เพราะการซื้อของออนไลน์จากไลฟ์นั้นสนุก แต่การซื้อของที่ 'พอดี' กับตัวเองนั้นจะสนุกในระยะยาวมากกว่า
...
และนี่คือความสำคัญของปรากฎการณ์ 'ไลฟ์ได้ 100 ล้านต่อวัน' ในอีกมุมหนึ่งก็เท่านั้นเอง.


