posttoday

ผลสำรวจเผย 'นักเรียน LGBTQI+ ในกทม.' ร้อยละ 26 เคยคิดฆ่าตัวตาย

12 กันยายน 2568

โครงการลูกแก้วเผยผลสำรวจเผยนักเรียน LGBTQI+ ในโรงเรียนนำร่องกว่า 10 แห่งในกทม. พบกว่าร้อยละ 26 เคยคิดฆ่าตัวตาย เหตุจากอัตลักษณ์ทางเพศ

KEY

POINTS

  • ผลสำรวจนักเรียน LGBTQI+ ในกรุงเทพฯ พบว่า 26% เคยมีความคิดฆ่าตัวตาย และ 13.6% เคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว
  • สาเหตุสำคัญมาจากความรุนแรงและการกลั่นแกล้ง โดยกว่า 15% เคยถูกทำร้ายร่างกาย และ 38% ถูกล่วงละเมิดทางวาจาหรือจิตใจเพราะอัตลักษณ์ทางเพศ
  • นักเรียนเกือบครึ่ง (49%) เคยเผชิญกับการตีตราและเลือกปฏิบัติ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพจิต ทำให้เกิดภาวะวิตกกังวล (23.8%) และซึมเศร้า (20%)

โครงการลูกแก้ว ภายใต้การผนึกกำลังของมูลนิธิเอ็มพลัส และ สสส. เผยผลการสำรวจ ‘งานวิจัยเพื่อศึกษาสถานการณ์ด้านสุขภาพจิตและจิตสังคมในเด็กและเยาวชนหลากหลายทางเพศในเขตกรุงเทพมหานคร’ เมื่อวานนี้ (11 กันยายน 2568) ซึ่งเป็นการรวบรวมการศึกษานักเรียน LGBTQI+ จำนวน 509 คนใน 10 โรงเรียนนำร่องในเขตกรุงเทพมหานคร

 

ผลสำรวจเผย \'นักเรียน LGBTQI+ ในกทม.\' ร้อยละ 26 เคยคิดฆ่าตัวตาย

 

 

ผลการสำรวจเผยให้เห็นสถิติที่น่าสนใจ ดังนี้

 

ด้านความรุนแรงและการกลั่นแกล้ง

  • นักเรียน LGBTQI+ กว่า 15%  รายงานว่าเคยถูกทำร้ายร่างกาย โดยครึ่งหนึ่งมีสาเหตุมาจากอัตลักษณ์ทางเพศ และถูกเพื่อนกระทำมากที่สุด
  • นอกจากนี้ยังเคยถูกคุกคาม ถึงขั้นแตะต้องทางร่างกายหรือล่วงละเมิดทางเพศเนื่องจากอัตลักษณ์ทางเพศของตนเองกว่า 13%  โดยผู้ที่กระทำคือเพื่อนกว่าครึ่งหนึ่ง และพบได้มากที่สุดในโรงเรียน (49%) รองลงมาคือออนไลน์ (32.8%)  และในที่สาธารณะ (32.6%)
  • 38% รายงานว่าถูกกลั่นแกล้ง ล่วงละเมิดทางวาจาหรือจิตใจจากอัตลักษณ์ทางเพศ ส่วนใหญ่เกิดจากเพื่อนและในโรงเรียน

 

การตีตราและเลือกปฏิบัติ 

  • พบว่าเกือบครึ่งหนึ่ง (49%) รายงานว่าเคยประสบกับการตีตราและการเลือกปฏิบัติเพราะอัตลักษณ์ทางเพศของพวกเขา (44%) ก่อให้เกิดความรู้สึกอับอาย (31%) การตีตราดังกล่าวยังทำให้พวกเขาถูกเพื่อปฏิเสธ (19%) และพยายามปิดบังอัตลักษณ์ทางเพศของตนเอง (35%)

 

ผลกระทบต่อสุขภาพจิต

  • สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบด้านสุขภาพจิต โดยเกิดความรู้สึกวิตกกังวล (23.8%) และภาวะซึมเศร้า (20%)  ประมาณ 1 ใน 5 ของเด็กนักเรียนในกลุ่มนี้รู้สึกโดดเดี่ยว (18.4%) และไม่มีความสุข (22%)
  • นอกจากนี้หนึ่งในสี่ของผู้ตอบแบบสถอบถามเคยรายงานว่าเคยทำร้ายตัวเอง นำไปสู่การคิดฆ่าตัวตาย (26%) และเคยพยายามฆ่าตัวตายแล้วครึ่งหนึ่งของการคิด คือ 13.6%

 

งานวิจัยดังกล่าวสะท้อนถึงปัญหาที่พบในเด็กและเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่ยังคงต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้ง เลือกปฏิบัติ และความรุนแรงในหลายรูปแบบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

 

ผลสำรวจเผย \'นักเรียน LGBTQI+ ในกทม.\' ร้อยละ 26 เคยคิดฆ่าตัวตาย

 

ทั้งนี้ โครงการลูกแก้วได้สรุปข้อเสนอแนะเพื่อการดำเนินงานในอนาคต ได้แก่

  1. ความตระหนักในเรื่องสุขภาพจิตและสุขภาวะ โดยเยาวชน LGBTQI+ ควรได้รับควารู้และการสนับสนุนให้ได้รับโอกาสในการสร้างความตระหนักในเรื่องสุขภาพจิตและสุขภาวะของตนเอง
  2. บทบาทของโรงเรียนและครอบครัว ที่ต้องสนับสนุนสุขภาพจิตที่ดีและป้องกันความรุนแรงในรุปแบบต่างๆ รวมถึงการทำร้ายตัวเองและฆ่าตัวตาย
  3. การสนับสนุนจากเพื่อน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยเปิดเผยอัตลักษณ์ของ LGBTQI+ ลดความรุนแรงและสามารถดูแลซึ่งกันและกันได้
  4. กิจกรรมเชิงบวกและการดูแลทางจิตใจ จากโรงเรียนและครอบครัว
  5. การพัฒนาทักษะและความสามารถของบุคลากรในโรงเรียน ทั้งเจ้าหน้าที่ ฝ่ายบริหาร ครูและนักจิตวิทยา
  6. การมีส่วนร่วมในชุมชนและครอบครัว
  7. การเพิ่มการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิต

 

การแถลงข่าวงานวิจัยฯซึ่งจัดขึ้นวานนี้

 

ข่าวล่าสุด

คลังชง ครม.สัปดาห์หน้า เคาะอัปสกิลร้านค้า คนละครึ่งพลัส 4 แสนราย วงเงิน 800 ล้าน