posttoday

รวบชุดตรวจคัดกรองโรคร้ายที่ควรรู้ ทำได้ด้วยตัวเอง - ตรวจก่อนรักษาได้ไว!

10 กันยายน 2568

โพสต์ทูเดย์ รวบรวมชุดตรวจคัดกรองโรคร้ายที่คนไทยควรรู้ และสามารถทำได้ด้วยตัวเอง อีกวิธีที่จะช่วยให้รู้เท่าทันโรคระยุรุนแรง

หัวใจสำคัญของการป้องกันโรคร้าย นอกจากจะดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมความเสี่ยงต่างๆ แล้ว  ‘การคัดกรอง’ เบื้องต้นเป็นสิ่งสำคัญมาก

 

การคัดกรองจะทำให้รู้ระยะดำเนินการของโรคเร็วขึ้น และอาจนำไปสู่กระบวนการรักษาที่รวดเร็วและทันท่วงทีขึ้นด้วย  นอกจากนี้ บางโรคมักจะปรากฎอาการแค่ในระยะรุนแรงเท่านั้น เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ ฯลฯ

 

เพราะฉะนั้น ‘หากประชาชนรอจนกว่าจะปรากฎอาการ นึงเป็นการพลาดโอกาสทางการรักษามากขึ้น’

 

ทั้งนี้ ‘กระบวนการคัดกรอง’ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ผนวกกับนวัตกรรมการแพทย์ในปัจจุบัน การคัดกรองในรูปแบบของ ‘ชุดตรวจคัดกรอง’ ที่มีประสิทธิภาพและมีความแม่นยำสูง ได้ออกมาให้ประชาชนได้ใช้แล้ว อีกทั้งในบางโรคยังสามารถนำไปตรวจเองได้ที่บ้าน เพื่อความรวดเร็วไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาล และบางคนก็มีความเขินอายในการตรวจ 

โพสต์ทูเดย์ จะขอรวบรวมชุดตรวจคัดกรองโรค ที่สามารถคัดกรองได้ด้วยตัวเองที่บ้าน ดังนี้

 

1. ชุดเก็บสิ่งส่งตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง  (HPV self-sampling)

 

สำหรับชุดเก็บสิ่งส่งตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง หรือ HPV Self-Sampling จะช่วยหาเชื้อ HPV ในร่างกาย โดยปกติเชื้อ HPV จะหายไปได้เองด้วยกระบวนการกำจัดของร่างกาย แต่จะมีอยู่ราว 10-20% โดยเฉพาะเชื้อความเสี่ยงสูงอย่าง HPV 16 และ 18 ที่สามารถเจริญเติบโตกลายเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ในระยะเวลา 10-15 ปี!

 

ฉะนั้นการตรวจคัดกรองจึงสำคัญมาก เพราะถ้าเจอเชื้อได้เร็ว เท่ากับว่าจะสามารถกำจัดปัจจัยเสี่ยงการก่อโรคได้ล่วงหน้าหลายปี

 

สิทธิประโยชน์ : ผู้หญิงไทยที่มีอายุ 30-59 ปี และอายุ 15-29 ปีกรณีที่มีความเสี่ยงสูง สามารถเข้ารับบริการได้ฟรี 1 ครั้ง ทุกๆ 5 ปี

โดยสามารถไปรับ ชุดเก็บสิ่งส่งตรวจ ที่ ‘ร้านยาของฉัน ให้บริการสร้างเสริมสุขภาพ’ และคลินกเวชกรรม กับคลินิกเทคนิคการแพทย์ ที่เข้าร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่  โดยจะเป็นชุดเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเอง

 

2. ชุดตรวจปัสสาวะคัดกรองพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีด้วยตนเอง (OV-RDT)

 

เนื่องจากการสะสมของพยาธิในท่อน้ำดีนั้น ผู้ป่วยจะไม่มีอาการผิดปกติแสดงออกมา อาจมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อเป็นครั้งคราว อาการร้อนท้อง เท่านั้น เมื่อมีอาการเช่น อาการตัวเหลือง ตาเหลือง ตับโต มีไข้ และน้ำหนักลด นั่นก็เป็นสัญญาณของภาวะอักเสบและมะเร็งท่อน้ำดีที่ลุกลามได้ ซึ่งประเทศไทยมีผู้ที่เป็นโรคพยาธิใบไม้ในตับกว่า 10 ล้านค้น

 

นวัตกรรมทางการแพทย์ที่คิดค้นโดยสถาบันมะเร็งท่อน้ำดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น  เพียงนำตัวอย่างปัสสาวะหยดลงบนชุดตรวจ รอผล 5–10 นาที ผลจะบ่งบอกได้ว่าในร่างกายมีพยาธิใบไม้ตับอยู่หรือไม่ หากขึ้น 2 ขีด แสดงว่ามีเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ต้องทานยาถ่ายเพื่อกำจัดออกจากร่างกาย แต่หากมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ตัวเหลือง เจ็บท้อง น้ำหนักลด จำเป็นต้องตรวจซ้ำเพื่อยืนยันว่าเป็นมะเร็งท่อน้ำดีหรือไม่ และเข้าสู่การรักษาต่อไป

 

สิทธิประโยชน์ : ประชาชนทุกสิทธิการรักษา มีอายุ 15 ปีขึ้นไปและมีประวัติเสี่ยง คือ ประวัติการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ หรือเคยกินยาถ่ายพยาธิใบไม้ตับ หรือมีประวัติกินปลาน้ำจืดสุก ๆ ดิบ ๆ โดยเจ้าหน้าที่จะประเมินความเสี่ยง และใช้สิทธิรับบริการได้ปีละ 1 ครั้ง

 

สามารถเข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการนวัตกรรม คือ ร้านยาที่มีตราสัญลักษณ์ “ร้านยาของฉันให้บริการสร้างเสริมสุขภาพ” คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น และคลินิกเทคนิคการแพทย์ ศักยภาพ Lab Anywhere

 

 

3. ชุดตรวจคัดกรองเอชไอวีด้วยตนเอง  (HIV Self-Screening Test)

 

สำหรับการตรวจคัดกรองเอชไอวีด้วยตนเอง มี 2 ชนิด คือ การเก็บตัวอย่างเลือดด้วยการเจาะปลายนิ้ว หรือการเก็บตัวอย่างสารน้ำในช่องปาก นำมาทดสอบบนชุดตรวจและอ่านผลได้ที่ 15-20 นาที

 

ในการอ่านผลหากชุดตรวจแสดงผล 2 ขีด ที่ตัวอักษร C และที่ตัวอักษร T หมายความว่ามีการติดเชื้อเอชไอวี ควรไปสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลเพื่อตรวจยืนยันผลและเข้าสู่กระบวนการรักษาทันที แต่หากไม่พบการติดเชื้อสามารถตรวจซ้ำได้ที่ 90 วันเป็นต้นไป

 

สิทธิประโยชน์ :  ทุกสิทธิการรักษา   โดยให้สิทธิการตรวจ 1 ครั้งต่อวัน ส่วนใหญ่เฉลี่ยจะตรวจกันทุกๆ 1 - 3 เดือนต่อครั้ง  เมื่อตรวจแล้วขึ้น 2 ขีดจะต้องไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาล

ประชาชนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี สามารถขอรับชุดตรวจคัดกรองเอชไอวีด้วยตนเอง ได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือหน่วยบริการนวัตกรรม ทั้งที่ร้านยาที่มีตราสัญลักษณ์ “ร้านยาของฉันให้บริการสร้างเสริมสุขภาพ” และคลินิกเวชกรรม

หรือสามารถหาซื้อได้เองตามที่กรมควบคุมโรคแนะนำ https://hivsst.ddc.moph.go.th/

 

 

4. ชุดคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่

 

  • FIT Test   FIT Test เป็นการตรวจเลือดแฝงในอุจจาระที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า โดยการตรวจนี้จะสามารถบ่งบอกถึงการมีเลือดออกจากลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก ซึ่งเป็นสัญญาณหนึ่งของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ เลือดที่ออกมาอาจเกิดจากเนื้องอกหรือติ่งเนื้อในลำไส้ที่มีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้ในอนาคต

 

สามารถทำได้เองที่บ้าน  และไม่ต้องการการเตรียมตัวมากเท่ากับการตรวจส่องกล้อง (colonoscopy) นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ค่อนข้างแม่นยำในการตรวจหามะเร็งในระยะแรก ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่มีโอกาสรักษาหายสูงที่สุด

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การตรวจนี้ไม่สามารถบ่งบอกถึงติ่งเนื้อที่ไม่มีเลือดออกได้ และหากพบผลผิดปกติ อาจจำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การส่องกล้องลำไส้ใหญ่

 

  • Multi-target stool DNA test   ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยการตรวจหาความผิดปกติระดับดีเอ็นเอเมทิลเลชั่นของเซลล์ในลำไส้จากตัวอย่างอุจจาระ สามารถเก็บตัวอย่างได้เอง ใช้งานง่าย สะดวก ไม่ต้องงดอาหารหรือยาก่อนเก็บอุจจาระ ควรตรวจซ้ำทุก ๆ 2-3 ปีต่อครั้ง ตามคำแนะนำของสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา

 

การตรวจคัดกรองด้วยวิธีนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ไม่รุกล้ำ ลดความยุ่งยากและโอกาสเกิดผลลวงจากการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ (FIT test)

 

ทั้งสองวิธี ประชาชนสามารถติดต่อได้ที่โรงพยาบาล และนำตัวอย่างอุจจาระมาส่งคืนให้โรงพยาบาลเพื่อวินิจฉัยต่อได้

 

 

 

5. ชุดตรวจคัดกรองไต

 

โรคไตมักไม่แสดงอาการในระยะแรก จึงขาดโอกาสที่จะเข้ารับการรักษาเพื่อชะลออาการไตเสื่อม จนกระทั่งไตเสียหายไปมาก รายงานกรมควบคุมโรค พบว่า ในปี 2566 พบผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง 1,062,756 คน  และหากหากดูงบ สปสช.ที่จัดสรรเฉพาะให้กับโรคไตย้อนหลัง 5 ปีนั้น พบว่า เพิ่มขึ้นสูงถึง 38.96% ตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน

 

สำหรับชุดตรวจคัดกรองไตนี้ ผู้ใช้งานสามารถใช้ชุดตรวจได้ด้วยตนเองเพียงหยดปัสสาวะที่เก็บใหม่ ลงในช่องที่กำหนดของชุดตรวจคัดกรอง จากนั้นอ่านผลจากแถบสีที่ปรากฏ ซึ่งจะคล้ายกับการใช้ชุดตรวจคัดกรองโรคโควิด-19

ทั้งนี้ ชุดตรวจจะอาศัยการวิเคราะห์ปริมาณอัลบูมินในปัสสาวะ หากพบว่า มีอัลบูมินเจือปนอยู่ในปัสสาวะเกินกว่า 20 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ชุดตรวจจะแสดงผลด้วยแถบสี 1 ขีด

 

อย่างไรก็ตาม การพบแถบตรวจไม่ได้หมายความว่าจะเป็นโรคไต แต่แนะนำให้ผู้ที่ได้รับผลตรวจแบบนี้ ควรเข้ารับการตรวจโดยละเอียดที่สถานพยาบาล เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยความผิดปกติของร่างกายต่อไป

 

สิทธิประโยชน์ : โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในจ.ขอนแก่น ทั้ง 248 แห่ง มีการใช้ชุดตรวจแล้ว และคาดว่าจะขยายผลสู่ระดับประเทศในปี 2571

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการวางจำหน่ายชุดตรวจคัดกรองไตเช่นกัน (แนะนำให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือก่อนซื้อ)

ข่าวล่าสุด

กต.ชี้ กัมพูชาปิดด่านห้ามคนไทยกลับประเทศขัดกฎหมายระหว่างประเทศ