posttoday

เทียบ ‘ธง’ หมอสุภัทร VS กระทรวงสาธารณสุข กรณีออกจากราชการเพราะจัดซื้อ ATK

18 สิงหาคม 2568

รวบใจความสำคัญ-เทียบ ‘ธง’ หมอสุภัทร VS กระทรวงสาธารณสุข กรณีความขัดแย้ง ประเด็นออกจากราชการเพราะจัดซื้อ ATK

KEY

POINTS

  • นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ถูกคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงมีมติให้ออกจากราชการ จากกรณีจัดซื้อชุดตรวจ ATK ในปี 2564 
  • นพ.สุภัทรชี้แจงว่าเป็นการจัดซื้อเร่งด่วนตามสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อประโยชน์ของประชาชน และเชื่อว่าการลงโทษเป็นผลมาจากการ "ตั้งธง" ของผู้บริหาร
  • รมว.สาธารณสุข  ระบุว่าแม้จะเข้าใจเจตนาดี แต่การกระทำผิดระเบียบราชการถือเป็นความผิดร้ายแรง แม้จะไม่มีเจตนาทุจริตก็ตาม
  • กระบวนการลงโทษยังไม่สิ้นสุด โดยเรื่องจะถูกเสนอต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) เพื่อพิจารณาในขั้นตอนต่อไป

จากกรณีที่หมอสุภัทร ฮาสุวรรณกิจ    อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่ามีคำสั่งให้ตนออกจากราชการ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2568 โดยมีการอ้างอิงว่าเป็นการตั้ง ’ธง‘ จาก  ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส ที่อยากให้ตนออกจากราชการ

 

นำไปสู่การตั้งตาการตอบคำถามสื่อมวลชนของปลัดโอภาส ซึ่งมีกำหนดการงาน 13:30 น. (วันที่ 18 สิงหาคม 2568 )

 

โพสต์ทูเดย์ ขอตั้งลำดับเหตุการณ์ และพาไปดู ’ธง‘ จากทั้งสองฝ่ายในบริบทเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น! 

 

ย้อนไปในปี 2564   เมื่อโควิด19 ระบาด ครั้งนั้นเกิดขบวนการแพทย์ชนบทบุกกรุง 

นพ.สุภัทร ในฐานะ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ และประธานชมรมแพทย์ชนบท ได้จัดซื้อชุดตรวจ ATK จำนวน 5 ครั้ง รวมเป็นเงิน 9,856,420 บาท ในช่วงโครงการ “แพทย์ชนบทบุกกรุง” ระหว่าง กรกฎาคม–สิงหาคม 2564 เพื่อนำไปใช้ตรวจโควิดในกรุงเทพ เมื่อรัฐยังไม่จัดหาให้ 

ต่อมาคณะกรรมการสอบสรุปว่าเป็นการ แบ่งซื้อแบ่งจ้าง ขัดต่อระเบียบกระทรวงการคลังและ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างปี 2560 โดยไม่ได้รวบซื้อเป็นงวดเดียว ทำให้เข้าข่ายผิดระเบียบ ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาวินัยร้ายแรง  

นพ.สุภัทร ชี้แจงว่าเป็นการจัดซื้อฉุกเฉินตามสถานการณ์จริง ขอให้พิจารณาเจตนาและความคุ้มค่าของราชการ เนื่องจากราคาซื้อเฉลี่ยเพียง 230 บาท/ชุด ต่ำกว่าเบิกของ สปสช. (450 บาท) และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อราชการ

 

ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ปรากฎในสื่อหลายสำนัก พบว่า

 

ตั้งแต่ปี 2566 นพ.สุภัทรถูกตั้งกรรมการสอบวินัยหลายประเด็น รวมกว่า 10 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ยุติไปโดยไม่พบความผิด หรือให้เพียงคำตักเตือนหรือภาคทัณฑ์

ยกเว้นกรณีการจัดซื้อชุดตรวจ ATK ที่กลายเป็นประเด็นหลักในการถูกตั้งมติให้ออกจากราชการ

 

ต่อมาเรื่องนี้กลับมาในความสนใจอีกครั้ง เมื่อนพ.สุภัทรโพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2568 ว่า

 

 “กำลังจะถูกให้ออกจากราชการ”

 

จากผลประเมินของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง (โดยมีนพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เป็นประธาน) 

 

นพ.สุภัทรตั้งข้อสังเกตว่า การลงโทษเช่นนี้อาจมาจาก “ธง” ที่ฝ่ายบริหารกระทรวงวาง เพื่อให้ทันช่วงก่อนปลัดฯ เกษียณ (คาดว่าจะเกษียณในวันที่ 30 กันยายน 2568)

 

นพ.สุภัทรกล่าวว่า การต่อต้านหรือวิพากษ์นโยบายของกระทรวง เช่น โครงการอุตสาหกรรมในภาคใต้ หรือการจัดซื้อวัคซีนของจีน อาจถูกมองว่าเป็น “เสี้ยนหนาม” ที่ต้องถูกจัดการออกจากราชการ

 

ดูสัญญาณ หัวเรือใหญ่ สธ. ตอบ พร้อมให้ความเป็นธรรมแต่ต้องเป็นไปตามระบบราชการ

ขณะเดียวกัน วันนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข  ตอบกระทู้ถามสดของนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว.กรณีนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ดังนี้

 

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปี 2564 แต่ถูกตรวจสอบปี 2566 พบความบกพร่องในการบริหาร นพ.สุภัทร ฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาล  คือ 

 

  • การจัดซื้อจัดจ้าง เอทีเค ซึ่งพบว่ามีการอนุมัติแบ่งซื้อแบ่งจ้าง

 

  • กรณีการเดินทางมาที่กทม. เพื่อทำกิจกรรม แพทย์ชนบทบุกกรุง

 

  • สร้างอาคาร8ชั้นที่เปลี่ยนแปลงแบบไม่แก้ไขสัญญา 

 

  • เรื่องปลีกย่อยทางการจัดซื้อพัสดุ แปลงสภาพรถราชการ

 

”ทั้งนี้ ในการตรวจสอบพบการเปลี่ยนแปลงกรรมการ 3 ครั้ง โดยครั้งแรกเพราะถูกร้องเรียนว่าไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ครั้งที่สอง เพราะเปลี่ยนตัวเลขานุการ และครั้งที่สาม ซึ่งมีผลตรวจสอบและมติ เมื่อ 15 ส.ค. ซึ่งมติดังกล่าวเป็นความลับ ตนไม่ทราบว่ามติเป็นอย่างไร“

 

 

นายสมศักดิ์กล่าวว่าหลังจากนี้ กระบวนการจะเข้าสู่ การเสนอปลัดกระทรวงสาธารณสุข  และต้องเข้าที่ประชุมอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ในเดือน ก.ย. นี้ โดยคณะกรรมการดังกล่าวตนเป็นประธาน ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมดีที่สุด

 

“ในใจผมเข้าใจการจัดซื้อจัดจ้าง เอทีเค จำเป็นเร่งด่วน เพื่อบริการประชาชน  แต่เรื่องดังกล่าวมีระเบียบราชการ ผมเข้าใจ ผมเคยตระหนักและขอร้องให้ราชการพยายามร่างกฎหมาย ของคนที่ไม่ตั้งใจทำผิดแต่ผิดระเบียบ ซึ่งราชการมองว่าคือ การทำผิดระเบียบราชการ คือ การทุจริตประเภทหนึ่ง ดังนั้นเป็นหน้าที่ที่ราชการทำให้ถูกระเบียบ” นายสมศักดิ์ ชี้แจง

 

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กรณีที่ตั้งข้อสังเกตว่าได้ตรวจสอบกรณีเดียวกันของนพ.สุภัทรของโรงพยาบาลแห่งอื่นหรือไม่นั้น  หากสว.อยากให้ตรวจสอบโรงพยาบาลใด จะทำหนังสือร้องเรียนว่าโรงพยาบาลที่ต้องการตรวจสอบนั้นมีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นอย่างไรก็สามารถทำได้

 

ต่อมาเวลา 13:30 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์  เดินทางมาถึงกระทรวงสาธารณสุข และได้กล่าวเพิ่มเติมต่อผู้สื่อข่าว พร้อมย้ำ 'ธง' เดิม ว่า

 

“บางทีเราไม่ได้โกง ไม่ได้ทุจริต แต่ผิดระเบียบ ทางราชการก็ถือว่าผิด ซึ่งได้ยกตัวอย่างให้สภาฟังว่า เคยให้หน่วยงานกระทรวงฯ หนึ่งเขียนเรื่องว่า อะไรที่ไม่ก่อประโยชน์ส่วนตัว แต่ก่อประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ได้ขอระเบียบครบถ้วนก็จะมีความผิด ตรงนี้ก็มีความพยายามจัดทำระเบียบเพื่อให้เอื้อคนทำงาน แต่ร่างยังไม่เสร็จ เรื่องยังไม่จบ มีความเห็นหลากหลาย ความเห็นคนเดียวจะชี้ถูกผิดไม่ได้ จึงต้องเลือกตามกฎหมายที่ตราไว้อย่างไร ก็เป็นแบบนั้น” นายสมศักดิ์ กล่าว

ส่วนปลัดกระทรวงสาธารณสุข ‘ปฏิเสธ’ การตอบคำถามสื่อมวลชน.

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68