posttoday

มจธ. จับมือตำรวจไซเบอร์ ปั้นทัพ สร้างเครือข่าย “Cyber Eyes”

24 กรกฎาคม 2568

มจธ. จับมือ “ตำรวจไซเบอร์” สร้างกองทัพ Cyber Security ไทย เปิดตัว “Cyber Eyes” พร้อมประกาศผล Cyber Warrior Hackathon 2025

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จับมือกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ “ตำรวจไซเบอร์” เร่งปั้นเครือข่ายคนรุ่นใหม่ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เดินหน้าโครงการ Cyber Warrior Hackathon 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 มิ.ย. – 21 ก.ค. 2568 เพื่อเฟ้นหานักพัฒนานวัตกรรมช่วยปราบอาชญากรรมไซเบอร์ตัวจริง ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 250,000 บาท พร้อมโอกาสเข้าร่วมฝึกงานกับตำรวจไซเบอร์ และได้รับประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

ประกาศผลสุดยอด “นักรบไซเบอร์” รุ่นใหม่

ในวันปิดกิจกรรม 21 ก.ค. ที่ผ่านมา มีการจัด Final Pitch & Award Ceremony เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมที่สามารถคิดค้นนวัตกรรมแก้โจทย์จริงจากตำรวจไซเบอร์ได้สำเร็จ โดยผลการแข่งขันมีดังนี้:

• ทีมชนะเลิศ: “fight for นาย ช.” จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับผลงาน FakeSense ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท

• รองชนะเลิศอันดับ 1: “Brute Force” จาก มจธ. กับผลงาน Sidekick — ผู้ช่วย AI สำหรับตำรวจวิเคราะห์หลักฐาน-เชื่อมคดี-ออกเอกสารราชการอัตโนมัติ ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท

• รองชนะเลิศอันดับ 2: “SoftShells” จาก ม.สงขลานครินทร์ กับผลงาน TATHIP ระบบวิเคราะห์ข้อมูลดิจิทัลอัตโนมัติสำหรับงานสืบสวนไซเบอร์ ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท

 

มจธ. จับมือตำรวจไซเบอร์ ปั้นทัพ สร้างเครือข่าย “Cyber Eyes”

ในพิธีมอบรางวัลได้รับเกียรติจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เป็นประธาน พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู และ รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ.

 

จาก Hackathon สู่เครือข่าย “Cyber Eyes”

รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย กล่าวว่า โครงการนี้ไม่ใช่เพียงเวทีแข่งขัน แต่คือจุดเริ่มต้นของการสร้าง “กำลังคนไซเบอร์คุณภาพสูง” และเชื่อมโยงสู่เครือข่าย Human Resource Community ที่จะช่วยตำรวจทำงานจริง โดยไม่ผูกติดกับเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่ง


โครงการนี้มีความโดดเด่นเนื่องจากเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมเพื่อช่วยตำรวจทำงานโดยตรง ไม่ได้จำกัดเครื่องมือหรือยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง และไม่เน้นการใช้งานของประชาชนโดยตรง อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่แค่การแข่งขัน Hackathon เพราะเป้าหมายสูงสุดหลังจากนี้คือผู้เข้าร่วมทั้งหมด 540 คน จะถูกรวมอยู่ใน community หรือระบบเครือข่ายโปรแกรมเมอร์ ภายใต้ “Hub of Knowledge" ซึ่งเป็นศูนย์กลางความรู้ที่บช.สอท. และ มจธ. ร่วมกันก่อตั้งขึ้น โดยจะเรียกกลุ่มนี้ว่า "Cyber Eyes" ทำหน้าที่เป็น “อาสาเตือนภัย ในโลกไซเบอร์” และภายหลังจากนี้เรายังมีการต่อยอดไปสู่โครงการอื่นๆ โดยมี มจธ. เป็นที่ปรึกษา

 

“ซึ่งนอกเหนือจากการแข่งขันแล้ว ทีมที่ชนะยังได้รับโอกาสเข้าร่วมฝึกประสบการณ์ทำงานปราบโจรออนไลน์กับตำรวจไซเบอร์และได้รับประกาศนียบัตร Non-Degree ของหลักสูตร Cyber Warrior โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” อธิการบดี มจธ. กล่าว

 

มจธ. จับมือตำรวจไซเบอร์ ปั้นทัพ สร้างเครือข่าย “Cyber Eyes”

 

ปั้นนักรบไซเบอร์ ด้วยภารกิจ “โจทย์จริง – ปัญหาจริง”

ผศ.ดร.สันติธรรม พรหมอ่อน หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และหัวหน้าโครงการ Hackathon ระบุว่า การแข่งขันปีนี้ได้รับการตอบรับล้นหลามจากเยาวชนทั่วประเทศ โดยมีผู้สมัครกว่า 104 ทีม รวม 540 คน คัดเลือกจนเหลือ 20 ทีมเข้าสู่ Hackathon และ 10 ทีมสุดท้ายสู่รอบ Pitching

 

โจทย์การแข่งขันที่ท้าทายและสมจริง มีทั้งหมด 8 หัวข้อ ซึ่งได้รับมาจากตำรวจไซเบอร์โดยตรง เช่น

1. TPO: Thai Police Online

2. ถอดโค้ดโจร กับแผนประทุษกรรม

3. ไขรหัสพยานดิจิทัล

4. Breaking the Signal: ถอดรหัสทุกช่องทางสื่อสาร

5. Money Trail: จากเงินสดถึงบล็อกเชน

6. ไซเบอร์คือสมรภูมิใหม่

7. Digital Detective

8. สอบสวนดิจิทัล: จากเบาะแสถึงศาล

 

กระบวนการตัดสินดำเนินอย่างเป็นกลาง โดยไม่เปิดเผยชื่อสถาบันของผู้เข้าแข่งขัน เพื่อให้ประเมินกันตามผลงานจริง พร้อมพิจารณาทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ควบคู่กับความเป็นไปได้ในการใช้งานจริงและการต่อยอด

 

มจธ. จับมือตำรวจไซเบอร์ ปั้นทัพ สร้างเครือข่าย “Cyber Eyes”

 

เป้าหมายสูงสุด สร้างภูมิคุ้มกันไซเบอร์ให้สังคมไทย

ผศ.ดร.สันติธรรม เน้นว่า Cyber Warrior Hackathon 2025 มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับสังคม โดยมี 3 เป้าหมายหลัก คือ

1. พัฒนานวัตกรรมที่ใช้งานได้จริงจากโจทย์จริง

2. ส่งต่อความรู้ไซเบอร์จากภาคสนามสู่ห้องเรียน

3. สร้างความตระหนักรู้ (Awareness) ให้กับเยาวชนและสังคม

 

“ภัยไซเบอร์อย่างบัญชีม้า หรือการหลอกโอนเงิน กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น โครงการนี้จึงเป็นทั้งเวทีสร้างคน และแพลตฟอร์มส่งต่อความรู้จากนักศึกษาสู่ครอบครัวและสังคม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศไทย”

 

เขาทิ้งท้ายว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของภารกิจใหญ่ ที่จะนำความรู้ทางวิชาการมาผสานกับการแก้ปัญหาในชีวิตจริง และเปลี่ยนแปลงสังคมไทยให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นในโลกดิจิทัล

 

รู้จักเครือข่าย “Cyber Eyes”

คือระบบเครือข่ายอาสาสมัครไซเบอร์ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดยมีจุดเริ่มต้นจากโครงการ Cyber Warrior Hackathon 2025 ที่คัดเลือกนักศึกษาและบุคลากรที่มีความสามารถด้าน Cybersecurity จากทั่วประเทศ

 

วัตถุประสงค์ของเครือข่าย Cyber Eyes

สร้างกำลังคนคุณภาพในด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์โดยรวบรวมผู้เข้าร่วมโครงการ Cyber Warrior Hackathon ทั้ง 540 คน ไว้ในเครือข่ายเดียวกัน เพื่อเป็น “นักรบไซเบอร์” รุ่นใหม่ของประเทศไทย เป็นอาสาเตือนภัยในโลกไซเบอร์ (Cyber Threat Volunteer) โดยสมาชิกในเครือข่ายจะมีบทบาทในการเฝ้าระวัง วิเคราะห์ แจ้งเตือนภัย และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ให้กับสังคม

 

สร้าง “Community of Practice” ด้าน Cybersecurity
เพราะเครือข่ายนี้ไม่ใช่เพียงกลุ่มผู้เข้าแข่งขันเท่านั้น แต่คือ “Hub of Knowledge” ที่จะต่อยอดไปสู่การสร้างองค์ความรู้ แบ่งปันเทคนิคการรับมือภัยไซเบอร์ และพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลเพื่อช่วยเหลือการทำงานของตำรวจไซเบอร์ในอนาคต

 

ส่งเสริมจิตอาสาและความร่วมมือแบบภาคประชาชน
Cyber Eyes คือแนวคิดใหม่ที่ผสานการมีส่วนร่วมของประชาชน (Citizen Engagement) เข้ากับงานความมั่นคงไซเบอร์ เพื่อให้การป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

จุดเด่นของเครือข่าย Cyber Eyes

เป็นการรวมตัวของคนรุ่นใหม่ที่มี Hard Skills เช่น Coding, Network Security, Blockchain, AI และ Soft Skills เช่น การวิเคราะห์ การทำงานเป็นทีม และการสื่อสาร

ได้รับการสนับสนุนด้านองค์ความรู้และเทคนิคจาก มจธ. และตำรวจไซเบอร์

เป็นต้นแบบของการสร้าง “Cybersecurity Workforce Pipeline” ที่เน้นการเรียนรู้จากโจทย์จริงในสังคม

 

เป้าหมายระยะยาว

การพัฒนาเครือข่าย Cyber Eyes ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์ในระดับบุคคลหรือองค์กร แต่คือการปูพื้นฐานสำหรับ “ความมั่นคงทางไซเบอร์ระดับประเทศ” ผ่านการพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพและจิตสำนึกสาธารณะในการรับมือกับภัยคุกคามทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

หากเปรียบเทียบในมุมภาพใหญ่ Cyber Eyes ก็คือ “ดวงตาเฝ้าระวังของประเทศในโลกดิจิทัล” ที่มีเป้าหมายเพื่อให้คนรุ่นใหม่ไม่ใช่เพียงผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต แต่เป็น “แนวหน้า” ของการปกป้องสังคมจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา