posttoday

น่าห่วง! เด็กไทยถูกกลั่นแกล้งออนไลน์กว่า 41% สูงกว่าชาติอื่น

17 กรกฎาคม 2568

น่าห่วง! สสส.เปิดสถิติ เด็กไทยถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์สูงกว่า 41% ซึ่งเป็นสถิติที่สูงกว่าชาติอื่น ซึ่งอยู่ที่ราว 39% เท่านั้น

นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการกองทุน สสส.  กล่าวในงานประกาศรางวัลดีเด่นด้านการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ และการรู้เท่าทันสื่อ ปี 2568 หรือ “MIDL Awards 2025” ที่ผ่านมาว่า 

 

ปัจจุบันแม้เด็กและเยาวชนจะอ่านออก เขียนได้ แต่ถ้าขาดทักษะรู้เท่าทันสื่อโลกออนไลน์ ไม่สามารถแยกแยะข้อมูลจริงและข้อมูลหลอกลวงที่ถูกปรับแต่งมา เพื่อหลอกล่ออารมณ์ ชักนำความคิด เด็กจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงภัยคุกคามและการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์

สอดคล้องกับรายงานผลการสำรวจดัชนีชี้วัดความปลอดภัยบนสื่อออนไลน์สำหรับเด็ก (COSI) ปี 2566 โดยสถาบันดีคิว (DQ Institute) พบเด็กและเยาวชนอายุ 8-18 ปี ทั่วโลกหรือกว่า 70% ต้องเผชิญกับความเสี่ยงทางไซเบอร์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ที่น่าสนใจ พบว่า เด็กไทย 41% ถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์ในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอื่นๆ  ซึ่งอยู่ที่ 39% เท่านั้น

 

 

ทั้งนี้ จากข้อมูลของสถาบันดีคิว (DQ Institute) ชี้ว่า เด็กและเยาวชนระดับโลก (อายุ 8–18 ปี) มากกว่า 70% เผชิญความเสี่ยงทางไซเบอร์อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง  โดย  50% ตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ (cyber‑bullying) 40% พบภัยคุกคามแบบทั่วไป (cyber threats) 25% เผชิญเนื้อหาความรุนแรงหรือทางเพศ และยังมีความเสี่ยงจากพฤติกรรมการเล่นเกมหรือโซเชียลมีเดียเกินขอบเขต

ส่วนเด็กไทยมีอัตราถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์ 41% ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยทั่วโลกที่ 39% ถูกจัดอยู่อันดับที่ 39 จาก 100 ประเทศในด้านความปลอดภัยออนไลน์ของเด็ก

สำหรับดัชนี COSI ใช้ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างเด็ก 351,376 คน ที่เก็บตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปัจจุบัน ในฉบับล่าสุด  ดัชนีได้แนะนำระบบการให้คะแนน 4 ระดับ พบว่าประเทศที่ทำได้ดีที่สุดในการดำเนินมาตรการปกป้องเด็กออนไลน์ ได้แก่ สหราชอาณาจักร เยอรมนี และจีน โดยในแต่ละมิติที่โดดเด่น ได้แก่

  • การใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัยของเด็ก (Children’s Safe Use of Technology) คือ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย
  • การสนับสนุนจากครอบครัว (Family Support) คือ อินเดีย และสิงคโปร์
  • การศึกษาความเป็นพลเมืองดิจิทัลในโรงเรียน (School Digital Citizenship Education) คือ  อิตาลี และไต้หวัน
  • ความรับผิดชอบของบริษัท ICT (ICT Company Responsibility) คือ เยอรมนี และฝรั่งเศส
  • นโยบายและกฎระเบียบของรัฐบาล (Government Policy and Regulations) คือ แคนาดา และฝรั่งเศส
  • โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี (Technology Infrastructure) คือ เกาหลีใต้ และจีน

 

ด้าน นายสุทธิพงษ์ วสุโสภาพล รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ภัยเร่งด่วนของสังคมไทยที่กำลังเผชิญคือ "ภัยออนไลน์" และการถูกคุกคามเพื่อแสวงหาประโยชน์”  จากการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการติดเกม ติดพนันออนไลน์ บุหรี่ไฟฟ้าที่โฆษณาในสื่อออนไลน์ ทำให้เด็กเข้าใจผิดและส่งผลกระทบสุขภาพกลายมิติ รวมถึงการนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว และสังคมโดยรวม

จากผลการสำรวจสถานภาพการรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศ ปี 2567 โดยกรมประชาสัมพันธ์  สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยเรามีโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่ดีมาก ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและเร็ว และสามารถสร้างหรือใช้ประโยชน์จากสื่อได้มากมาย แต่กลุ่มวัยที่สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงในการได้รับผลกระทบจากสื่อที่ไม่ปลอดภัย และผลกระทบต่อระบบสุขภาพ นั่นคือ กลุ่มเด็ก วัยรุ่น และผู้สูงวัย


“การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และรู้เท่าทันสื่อ ให้ประสบผลสำเร็จได้ในการแก้ไขปัญหานั้นคือ

  1. การสร้างความรอบรู้ เท่าทันข้อมูลและความสามารถด้านดิจิทัล หรือ Digital Literacy รวมถึงการสร้างเนื้อหาที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมสื่อสารเชิงบวก
  2. การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในการเสนอแนะนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม โดย สช. ได้มีการผลักดันมติที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของสื่อต่อเด็กและเยาวชน ผ่านกระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ พร้อมสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน
  3. การเสริมพลังความร่วมมือ สร้างความตระหนักรู้และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้เท่าทันสื่อ ไปพร้อมๆ กับการบังคับใช้กฎหมายที่ที่มีประสิทธิภาพ ร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่างๆ”  นายสุทธิพงษ์ กล่าว

ข่าวล่าสุด

“จุลพันธ์” ผนึกประชาชาติ ลุยหาดใหญ่ จวกรัฐบาลบริหารน้ำท่วมพลาด