posttoday

‘รากฟันเทียม’ นวัตกรรมฝีมือคนไทยคนญี่ปุ่นสนใจ คนไทยใช้ฟรี

06 กรกฎาคม 2568

‘รากฟันเทียม’ นวัตกรรมฝีมือคนไทยที่คนญี่ปุ่นสนใจ คนไทยใช้ฟรี หนึ่งในนวัตกรรมที่ไทยมีเป็นประเทศที่ 2 ของโลก

KEY

POINTS

  • รากฟันเทียม หนึ่งนวัตกรรมฝีมือคนไทย ประเทศที่ 2 ของโลกที่ทำได้สำเร็จ

  • ที่มาของรากฟันเทียมจากรับสั่งของ ‘ร.9’

  • ทำไมผู้สูงอายุถึงต้องมีรากฟันเทียม?

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ออกมาเปิดเผยว่าได้ร่วมกันศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS จัดนิทรรศการแสดงผลงานนวัตกรรมการแพทย์ไทย 7 รายการที่ใช้ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง 30 บาท ในงาน World Expo 2025 โอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา

 

นิทรรศการนั้นเป็นการแสดงศักยภาพด้านนวัตกรรมเพื่อสุขภาพของคนไทย ที่ถูกนำมาใช้ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแล้ว กล่าวคือ ‘คนไทยใช้ฟรี’

 

ทั้งนี้ เลขาธิการสปสช. ยังเผยว่า มีผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นสนใจ ‘รากฟันเทียม’ ฝีมือคนไทย เพราะราคาไม่แพงแต่ได้รับมาตรฐานระดับสากล

 

รากฟันเทียม หนึ่งนวัตกรรมฝีมือคนไทย ประเทศที่ 2 ของโลกที่ทำได้สำเร็จ

 

รู้หรือไม่ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ที่สามารถผลิตรากฟันเทียมขึ้นมาได้

หลังจากประเทศเกาหลีใต้ และเป็นการผลิตตามลักษณะของฟันคนไทยโดยเฉพาะ!

 

โครงการนี้เกิดจากการที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเข้ารับการรักษาพระทนต์ (ฟัน) จากคณะทันตแพทย์ที่ถวายการรักษา กับ ศาสตราจารย์พิเศษ ทันตแพทย์หญิง ท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช พระองค์ทรงเลือกรักษาด้วยรากพระทนต์เทียม หรือ รากฟันเทียม ซึ่งขณะนั้นเป็นการรักษารูปแบบใหม่ที่ทันสมัยจากต่างประเทศ และในไทยยังมีทันตแพทย์แค่ไม่ถึง 30 คนที่สามารถรักษาได้

 

‘รากฟันเทียม’ นวัตกรรมฝีมือคนไทยคนญี่ปุ่นสนใจ คนไทยใช้ฟรี

 

หลังจากถวายการรักษาแล้ว พระองค์จึงทรงรับสั่งเกี่ยวกับประโยชน์ของรากฟันเทียมว่า ดีกว่าฟันจริงๆ และไม่ผุ สามารถเคี้ยวอาหารได้อร่อย ในสิทธิ 30 บาทนั้นจะสามารถรักษาได้หรือไม่

 

แต่เนื่องจากรากฟันเทียม ณ ขณะนั้นเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศจึงมีราคาแพง รวมแล้วจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1 แสนบาท ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงทรงรับสั่งว่าหากประเทศไทยสามารถผลิตรากฟันเทียมได้เอง น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้สูงอายุ

 

‘รากฟันเทียม’ นวัตกรรมฝีมือคนไทยคนญี่ปุ่นสนใจ คนไทยใช้ฟรี

 

‘รากฟันเทียม’ ของไทยสำเร็จราว 2 ปี หลังจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงรับสั่ง แม้ว่าจะเจอปัญหาเรื่องการผลิต เนื่องจากหลายแหล่งผลิตไม่มั่นใจและกังวลเรื่องความเสี่ยง โครงการฯ จึงตัดสินใจสร้างโรงงานผลิตขึ้นเองที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และนำมาสู่การผลิตชิ้นแรกของประเทศไทยในปี 2550 งานฝีมือคนไทยชิ้นนี้ สร้างชื่อด้วยการได้รับรองคุณภาพจากทั่วโลก

รากฟันเทียมรุ่นแรกซึ่งมีชื่อว่า ‘ข้าวอร่อย’ และถูกนำไปรักษาผ่าน ‘โครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550’

 

คนไทยใช้ฟรี

 

หลังจากนั้นอีกหลายปี โครงการรากฟันเทียมฯ ยังคงอยู่ในลักษณะของโครงการเฉลิมพระเกียรติ และได้รับการอนุมัติเป็นโครงการๆ แต่ไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในหลักประกันสุขภาพอย่างชัดเจน จนกระทั่ง สปสช. ได้ลงมือศึกษาการผลักดันเรื่องรากฟันเทียมอย่างจริงจัง

 

15 ปีต่อมา รากฟันเทียม จึงสามารถถูกบรรจุอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์บัตรทองในปี 2565 โดยใช้รากฟันเทียมจากฝีมือคนไทย

 

สำหรับรากฟันเทียมรุ่นล่าสุดมีชื่อว่า PRK ที่มาจากคำว่า พระรามเก้า ตั้งเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในหลวง รัชกาลที่ 9 ทำให้รากฟันเทียมฝีมือคนไทยถูกนำไปรักษาแล้วกว่า 1.2 แสนราก รวมถึงจำหน่ายให้ต่างประเทศในรูปแบบโครงการระหว่างรัฐต่อรัฐ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งรากฟันเทียมของไทยมีราคาถูกกว่าประเทศอื่น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศเกาหลีใต้ซึ่งเป็นประเทศแรกของโลกที่สามารถผลิตได้ก่อนไทยราว 15 ปี โดยมีราคาถูกกว่าราว 4 เท่าสำหรับราคาส่งออก

 

ในงาน World Expo ที่ผ่านมา

 

 

สถิติสูงอายุไทยไร้ฟัน

 

สำหรับสถิติของผู้สูงอายุในไทยเกี่ยวกับสุขภาพฟัน ทางกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เคยมีการสำรวจเมื่อปี 2560-2561 พบว่า

 

ผู้สูงอายุไทยอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่มีฟันเหลือเลย ราวร้อยละ 10  หากแยกตามอายุจะพบว่า อายุ 60-69 ปี ไม่มีฟันทั้งปากราว 5-7% ในขณะที่ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป สัดส่วนเพิ่มเป็น 15-20%  โดยรวมแล้วผู้สูงอายุในไทยกว่า 80% มีปัญหาสูญเสียฟันบางส่วน ซึ่งจะกระทบกับการบดเคี้ยวและเกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต ‘หากกินไม่ได้ ก็กระทบต่อสุขภาพตามมา’

 

ทั้งนี้ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับ ‘ไม่มีฟัน สาเหตุหลักทำผู้สูงอายุขาดสารอาหาร’ ไว้ว่า ผลกระทบจากการสูญเสียฟันของผู้สูงอายุนั้น จะทำให้เคี้ยวอาหารบางประเภทไม่ได้ โดยเฉพาะอาหารที่มีลักษณะเหนียว เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรือเคี้ยวอาหารได้ยากลำบาก บางรายใช้ฟันที่เหลืออยู่เคี้ยวอาหารให้อ่อนลงและใช้เหงือกบดอาหารต่อ หรือหลีกเลี่ยงการทานอาหารบางชนิด ทำให้ได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และเกิดภาวะขาดอาหารในที่สุด

ข่าวล่าสุด

ครบรอบ 20 ปี National ITMX "กระดูกสันหลัง" แห่งระบบนิเวศการเงินไทย สู่อนาคตดิจิทัลไร้พรมแดน