posttoday

ญี่ปุ่นพัฒนา 'เลือดเทียมยูนิเวอร์แซล' เข้าได้กับทุกกรุ๊ปเลือด

18 มิถุนายน 2568

จุดเปลี่ยนการแพทย์ฉุกเฉิน! ญี่ปุ่นพัฒนา 'เลือดเทียมยูนิเวอร์แซล' หรือ เลือดที่สามารถใช้ได้กับทุกกรุ๊ปเลือด โดยไม่ต้องตรวจหาหมู่ก่อน และสามารถเก็บได้นานนับปี

ญี่ปุ่นเปิดตัวนวัตกรรม 'เลือดเทียมยูนิเวอร์แซล (universal artificial blood)' ผลงานวิจัยจาก มหาวิทยาลัยแพทย์นารา (Nara Medical University) นำโดย ศาสตราจารย์ฮิโรมิ ซาไก (Prof. Hiromi Sakai) ซึ่งคิดค้น “ถุงฮีโมโกลบินนาโน” หรือ hemoglobin vesicles (HbV) โดยนำฮีโมโกลบินจากเลือดผู้บริจาคที่หมดอายุมาเคลือบด้วยเยื่อไขมันขนาดนาโน สร้างเป็นเซลล์เลือดแดงสังเคราะห์ที่ไม่มีแอนติเจนหมู่เลือด จึงสามารถใช้ได้กับผู้ป่วยทุกรายโดยไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน  และสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 2 ปี!

 

ทำไมเลือดเทียมยูนิเวอร์แซลถึงจำเป็น?

หากคนไทย ใครยังจำได้ดีถึงข่าวการให้เลือดผิดหมู่แก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งกลายเป็นคดีความทางกฎหมาย นี่คือปัญหาอย่างหนึ่ง ซึ่งหาก 'เลือดเทียมยูนิเวอร์แซล' สามารถนำมาใช้งาน จะสามารถลดความผิดพลาดในทางการแพทย์ฉุกเฉินเช่นนี้ได้ เพราะเลือดเทียมสามารถเข้าได้กับเลือดทุกหมู่!

การใช้เลือดผิดหมู่ โดยเฉพาะกรณีที่หมู่เลือด ABO หรือ Rh ไม่ตรงกัน มีความเสี่ยงสูงดังนี้ อาทิ ผู้ป่วยอาจมีไข้ ปวดหลัง ช็อก หรือเสียชีวิตได้ หรืออาจเกิดปฏิกิริยาแพ้ หนาวสั่น หรือผื่นคันได้ แม้ในกรณีที่หมู่เลือดตรงกัน ในกรณีของประเทศญี่ปุ่นเคยเก็บสถิติข้อผิดพลาดการให้หมู่เลือดผิดในโรงพยาบาลในช่วงปี 1995-1999 พบว่าผิดกว่า 20% 

ข้อได้เปรียบต่อมาของเลือดเทียมยูนิเวอร์แซล คือ สามารถเก็บรักษาได้นานถึง 24 เดือนที่อุณหภูมิห้อง หรือยาวนานกว่านั้นหากแช่เย็น แตกต่างจากเลือดจริงที่หมดอายุภายใน 42 วันและต้องแช่เย็นตลอดเวลา ทำให้เหมาะกับการใช้ในพื้นที่ห่างไกล สถานการณ์ภัยพิบัติ หรือฉุกเฉินที่การเข้าถึงเลือดมีข้อจำกัด

 

ความคืบหน้างานวิจัย

งานวิจัยดังกล่าวประสบความสำเร็จในการทดลอง Phase 1 เมื่อมีนาคม 2025 ด้วยการฉีดเลือดเทียมขนาด 100–400 มล. ให้แก่ผู้เข้าร่วมทดลอง 16 คน และพบว่าไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง   นักวิจัยตั้งเป้าให้เลือดเทียมชนิดนี้สามารถผลิตเชิงพาณิชย์และนำไปใช้ในโรงพยาบาลได้ภายในปี 2030 โดยมีการวางแผนทดลองเฟสถัดไปเพื่อทดสอบประสิทธิภาพด้านการลำเลียงออกซิเจนในสถานการณ์จริง

คาดว่านวัตกรรมดังกล่าว หากสำเร็จจนสามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ จะสามารถช่วยพลิกโฉมการแพทย์ฉุกเฉินและลดปัญหาการขาดแคลนเลือด โดยเฉพาะในกลุ่มเลือดหายากอย่าง O-negative ที่มักประสบปัญหาขาดแคลนทั่วโลก

 

 

ทั้งนี้  ศาสตราจารย์ฮิโรมิ ซาไก (Prof. Hiromi Sakai) ได้รับปริญญาเอกด้านวิศวกรรมโพลิเมอร์ (D.Eng.) จาก มหาวิทยาลัยวาเสดะ (Waseda University) โตเกียว เมื่อปี 1994 โดยมีวิทยานิพนธ์เรื่อง “Hemoglobin‑vesicles (HbV) as a molecular assembly 

ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ด้านเคมี ที่ Nara Medical University, Japan และยังเป็นหัวหน้าโครงการวิจัย artificial red cells (HbV) ซึ่งได้รับทุนจาก Japan Agency for Medical Research and Development (AMED) ตั้งแต่ปี 2015  และยังดำรงตำแหน่ง ประธานสมาคม Society of Blood Substitutes, Japan ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปัจจุบัน

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ไบรท์ตัน พบ ซันเดอร์แลนด์ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 20 ธ.ค.68