แม่ทัพเติ่ง- ผบ.ภพ ผบ กกล.สุรนารี ร่วมสั่งการ เผด็จศึกเนิน350
แม่ทัพภาค 2 เผยยึดเนิน 350 ได้แล้ว หลังประสานสั่งการร่วมผบ.กกล.สุรนารี ยันต้องปฏิบัติการอย่างรอบคอบ รัดกุม เพราะฝ่ายกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา วางทุ่นระเบิดเต็มพื้นที่
พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ภายใต้การบัญชาการรบของ พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี สามารถเข้าควบคุมและสถาปนา “เนิน 350” พื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญบริเวณปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ได้เป็นผลสำเร็จ หลังการปะทะอย่างรุนแรงกับกองกำลังฝ่ายกัมพูชา
แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า การปฏิบัติการดังกล่าวดำเนินไปด้วยความรอบคอบและรัดกุม เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาได้ละเมิด “อนุสัญญาออตตาวา” โดยลอบวางทุ่นระเบิดไว้ทั่วพื้นที่ ทำให้ทุกขั้นตอนต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการครั้งนี้ได้นำมาซึ่งความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ เมื่อ **จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน** ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ปืนเล็ก และ **พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา** ตำแหน่งพลยิงปืนกล ทั้งคู่สังกัด **ร้อย.อวบ.ร.23 พัน.3** ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ เสียสละชีวิตของตนเองเพื่อเปิดทางให้กำลังพลส่วนใหญ่ปลอดภัย
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 10.10 น. ระหว่างที่หน่วยได้รับภารกิจเข้าตีต่อที่หมาย “เนิน 350” ฝ่ายตรงข้ามได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุนและอาวุธเล็งตรงโจมตีอย่างต่อเนื่อง ขณะนั้น จ.ส.อ.สำเริง และ พลฯ ภานุพัฒน์ ได้ตัดสินใจยืนหยัดเป็น “ชุดยิงคุ้มครอง” ปักหลักต่อสู้กับข้าศึกจนวาระสุดท้าย เพื่อให้เพื่อนร่วมรบปลอดภัย
ภายหลังการตรวจสอบพื้นที่พบว่า ทั้งสองนายได้เสียชีวิตในสนามรบอย่างสมศักดิ์ศรีของทหารกล้า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตลงจากพื้นที่การรบ โดยใช้มาตรการระมัดระวังสูงสุด เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากทุ่นระเบิดและระเบิดแสวงเครื่องในบริเวณดังกล่าว
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวยกย่องว่า “การเสียสละของทั้งสองนายเป็นแบบอย่างแห่งความกล้าหาญ สมกับคำว่า ‘ทหารอาชีพ’ ที่ยืนหยัดเพื่อแผ่นดินไทยจนลมหายใจสุดท้าย”
ชัยชนะในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการยืนยันถึงความมั่นคงของอธิปไตยไทยในพื้นที่ชายแดนเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติและศักดิ์ศรีของกองทัพไทย ที่ยังคงมีลูกหลานพร้อมยืนหยัดปกป้องผืนแผ่นดินไทยด้วยชีวิต
“ชื่อของพวกเขา — จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา — จะจารึกไว้ในประวัติศาสตร์กองทัพไทย และอยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดไป”


