พัฒนา "ทักษะแรงงานสร้างสรรค์" ไทยสู่เวทีโลก ทำได้อย่างไร?

ในยุคที่ "ความคิดสร้างสรรค์" ไม่ใช่เพียงทักษะพิเศษสำหรับบางสายอาชีพอีกต่อไป แต่กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างคุณค่าใหม่ให้กับสังคม การเตรียมพร้อมแรงงานรุ่นใหม่ให้มีศักยภาพในการใช้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ

 

ภายใต้แนวคิดดังกล่าว สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA จึงได้จับมือกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ทั้ง 9 แห่งทั่วประเทศ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อยกระดับการศึกษาด้านความคิดสร้างสรรค์และพัฒนา "แรงงานสร้างสรรค์" ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ของไทยในศตวรรษที่ 21

 

พิธีลงนามจัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 ณ ห้อง Virtual Media Lab (VML) ชั้น 4 อาคาร TCDC กรุงเทพฯ โดยมี ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการ CEA และ รองศาสตราจารย์ ดร. อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดี มทร. ทั้ง 9 แห่ง ร่วมเป็นสักขีพยานในความร่วมมือครั้งสำคัญ

 

 

การศึกษาไม่ควรอยู่เพียงในห้องเรียน

เป้าหมายของความร่วมมือระหว่าง CEA และ มทร. ทั้ง 9 แห่ง ไม่ใช่แค่การลงนามบนกระดาษ แต่คือการ "ลงมือทำจริง" เพื่อสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ที่เปิดกว้างและมีชีวิตชีวา ทั้งผ่าน miniTCDC ซึ่งเป็นเครือข่ายศูนย์สร้างสรรค์ที่ CEA กระจายไว้ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ไปจนถึงการพัฒนาหลักสูตรที่บูรณาการศาสตร์หลากหลายสาขาเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี การออกแบบ ธุรกิจ วัฒนธรรม หรือแม้แต่ภูมิปัญญาท้องถิ่น

 

แนวทางการเรียนรู้แบบใหม่นี้จะเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้ “ทดลองทำ” ผ่านการฝึกงานในภาคสนาม การร่วมสร้างสรรค์ผลงานจริงกับมืออาชีพ และการเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนระดับชาติและนานาชาติ เพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้จาก "โลกจริง" มากกว่าการเรียนรู้จากตำราเพียงอย่างเดียว

 

miniTCDC ศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ในท้องถิ่น

หนึ่งในหัวใจสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้คือการพัฒนาและขยายเครือข่าย miniTCDC ซึ่งไม่ใช่แค่ห้องสมุดหรือแหล่งรวบรวมข้อมูลเท่านั้น แต่เป็น "พื้นที่ทางปัญญา" ที่เปิดให้นักศึกษา ผู้ประกอบการ และชุมชน ได้เข้ามาใช้ทรัพยากรที่หลากหลาย ตั้งแต่ฐานข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับงานออกแบบและนวัตกรรม ไปจนถึงการจัดเวิร์กช็อป การฝึกอบรม และการพบปะกับนักสร้างสรรค์จากทั่วทุกมุมโลก

 

 

ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการ CEA กล่าวถึงความสำคัญของโครงการนี้ว่า

“CEA มุ่งหวังให้ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการพัฒนาทักษะ แต่คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านความคิดสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน ที่สามารถต่อยอดไปสู่การสร้างงาน สร้างนวัตกรรม และสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้กับประเทศ”

 

เชื่อมโยงท้องถิ่น สู่ระดับโลก

นอกจากจะเป็นความร่วมมือที่ส่งผลต่อระบบการศึกษาภายในประเทศ ความร่วมมือระหว่าง CEA และ มทร. ทั้ง 9 แห่ง ยังมุ่งเน้นการเชื่อมโยงกับเครือข่ายระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นผ่านการแลกเปลี่ยนนักศึกษา อาจารย์ หรือการจับมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ต่างประเทศ เพื่อเปิดพื้นที่ให้เยาวชนไทยได้สัมผัสกับโลกกว้าง เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ และนำความรู้กลับมาต่อยอดในบริบทของไทย

 

รองศาสตราจารย์ ดร. อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของความร่วมมือนี้ว่า

“มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลมีพันธกิจในการพัฒนาบุคลากรให้ตอบสนองต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและชุมชนท้องถิ่น และเรามองเห็นว่า CEA คือพันธมิตรที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือการยกระดับศักยภาพของคนไทยให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในประเทศและเวทีโลก”

 

เศรษฐกิจสร้างสรรค์ อนาคตของไทยที่ต้องลงมือสร้างวันนี้

ความร่วมมือระหว่าง CEA และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั้ง 9 แห่งในครั้งนี้ จึงไม่ได้เป็นเพียงการจับมือกันระหว่างภาครัฐและภาคการศึกษาเท่านั้น หากแต่เป็นการวางรากฐานให้แก่ “ระบบนิเวศเศรษฐกิจสร้างสรรค์” ที่จะช่วยยกระดับประเทศทั้งในมิติทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสังคม

 

อุตสาหกรรมดิจิทัลกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด การสร้างแรงงานที่ไม่เพียงแค่มีทักษะเชิงเทคนิค แต่ยังมี “หัวใจแห่งความคิดสร้างสรรค์” คือสิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยไม่เพียงแต่ตามทัน แต่สามารถ “นำหน้า” บนเวทีเศรษฐกิจโลกได้อย่างภาคภูมิ