ย้อนประวัติศาสตร์ครอบรอบ 15 ปี ‘สตีฟ จอบส์’ ทำให้โลกได้รู้จัก iPad

ประวัติศาสตร์ได้เริ่มต้นขึ้น ในวันที่ 27 มกราคม ค.ศ.2010

 

สตีฟ จอบส์ ผู้ก่อตั้ง Apple ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีแห่งหนึ่งของโลก ขึ้นกล่าวบนเวทีโชว์เคสที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ขณะที่ผู้คนต่างจับจ้องไปที่เขา

 

‘เราคิดว่าเรามีบางสิ่งบางอย่างที่จะโชว์ให้พวกคุณได้เห็นเป็นครั้งแรก’ สตีฟ จอบส์ เกริ่นนำ

‘… และพวกเราเรียกสิ่งนี้ว่า iPad’

 

จากนั้นเขาได้หยิบเอา iPad ที่วางไว้ง่ายๆ บนเก้าอี้ขึ้นมาโชว์ให้กับทุกคนได้เห็นเป็นครั้งแรก พร้อมกับสายตานับล้านคู่ที่จับจ้องกับนวัตกรรมชิ้นใหม่ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้

 

นั่นคือวันแรกที่โลกได้รู้จัก iPad

 

 

iPad เจนแรกของโลก

แม้ว่าจะเปิดตัวหลัง iPhone แต่จริงๆ แล้ว iPad เป็นโครงการวิจัยและพัฒนาของ Apple ที่มีมาก่อนหน้า iPhone โดยต้นแบบของ iPad มีมาตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งในช่วงเวลานั้น Apple กำลังพยายามพัฒนาเทคโนโลยีมัลติทัชสำหรับโครงการที่ในที่สุดได้กลายมาเป็น iPhone และพวกเขาตัดสินใจเปิดตัว iPhone ก่อนเนื่องจากเห็นศักยภาพทางการตลาด

สตีฟ จอบส์ เองก็ปฏิเสธการสร้างแท็บเล็ตมาก่อนหน้านี้ เพราะที่จริงแล้ว Apple เคยเปิดตัวแท้บเล็ตรุ่นแรกในชื่อ Newton MessagePad แม้ว่าจอบส์จะไม่ได้อยู่ในบริษัทขณะนั้น เมื่อเขากลับมาเขาก็สั่งยกเลิกสายการผลิต MessagePad ทั้งหมด จนกระทั่งในเดือนมีนาคม 2004 บริษัทได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรการออกแบบสำหรับ ‘อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์’ ที่มีลักษณะคล้ายเจ้า iPad ขึ้นมาโดยมีชื่อของ สตีฟ จอบส์ เป็นหนึ่งในผู้คิดค้น

 

 

แนวคิดของ iPad มาจากความพยายามสร้างอุปกรณ์ที่อยู่ระหว่าง iPhone และ MacBook ซึ่งสามารถให้ประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหลและพกพาสะดวก ถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายๆ สำหรับการอ่านหนังสือ ทำงานเอกสาร ดูวิดิโอ เล่นเกม และท่องอินเทอร์เนต มีความมินิมอล บางและเบามากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับ iPad เจนแรกของโลกมีความหนาราว 0.5 นิ้ว มีน้ำหนักราวครึ่งกิโล มาพร้อมหน้าจอขนาด 9.7 นิ้วและชิปประมวลผล Apple A4 ความเร็ว 1GHz โดยมีตัวเลือกความจุหน่วยความจำแบบแฟลชตั้งแต่ 16GB ถึง 64GB และไม่มีการติดตั้งกล้อง สนนราคาที่ 499 ดอลลาร์สหรัฐ

 

สตีฟ จอบส์พูดถึง iPad ของเขาไว้ว่า ‘เป็นอุปกรณ์ที่มหัศจรรย์และปฏิวัติวงการ’

 

ความน่าสนใจของ iPad ทำให้ในปีแรกสามารถทำยอดขายได้ถึง 25 ล้านชิ้น ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการแท็บเล็ต

 

 

ปฏิวัติวงการ ‘แท็บเล็ต’

การเกิดของ iPad ส่งผลต่อวงการแท็บเล็ตเป็นอย่างมาก ก่อนหน้าการเข้ามาของ iPad ตลาดแท็บเล็ตยังไม่ได้รับความนิยม แต่ iPad ทำให้แท็บเล็ตดูน่าใช้งาน และใชงานง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์หรือเมาส์ เพราะเป็นลักษณะของการทัชสกรีน

อีกทั้งยังปฏิวัติวงการอ่านหนังสือ ทำให้หนังสือใน eBook เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และแสดงสีสันบนหน้าจอได้สมจริง น่าอ่านมากกว่า อีกทั้งยังปฏิวัติการทำงานที่ทำให้สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ง่ายๆ จะเขียน วาดภาพ บันทึกเสียง ตัดต่อ พรีเซนต์ หรือประชุมออนไลน์ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เช่นกันที่จะพกพาเพียงเครื่องเดียวไปตามที่ต่างๆ

ที่สำคัญคือการสร้างระบบนิเวศให้แก่ Apple ซึ่งทำให้ทุกวันนี้ Apple ยังถือครองเจ้าตลาด และเป็นอีกเหตุผลที่หลายๆ คนไม่สามารถหันไปใช้มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เจ้าอื่นๆ ได้ เนื่องจากเสียดายระบบปฏิบัติการที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้ง iPhone iPad  MAC และ Apple Watch อีกทั้งการเข้ามาของ iCoud ก็ทำให้ดาต้าที่เก็บไว้สามารถลิงก์หากัน สร้างประสบการณ์และไลฟ์สไตล์ที่ไหลลื่น ทำงานในเครื่องไหนก็ลิงก์แก้ไขกันได้ทั้งหมด

 

 

ณ วันที่ไม่มีใครไม่รู้จัก iPad

ปัจจุบัน (ข้อมูลปี 2023) iPad สามารถขายได้กว่า 500 ล้านชิ้น และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มแท็บเล็ตคือราว 35%

อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นของ Apple iPad ถือครองสัดส่วนรายได้ราว 7-10% ในขณะที่ iPhone มีสัดส่วนรายได้ 50-55% Mac เป็นสัดส่วน 10-15% บริการอื่นๆ เช่น iCloud , Apple Music , App Store สัดส่วนรายได้ที่ 20%

ทุกวันนี้ Apple พยายามที่จะพัฒนา iPad ทั้งในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพของชิปรุ่นใหม่ๆ เข้ามา ซึ่งจะช่วยให้การประมวลผลเร็วขึ้น รองรับการใช้งานที่หนักหน่วงขึ้น เช่น การตัดต่อวิดีโอ การเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกสูง และการทำงานหลายแอปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังพัฒนาในด้านการเชื่อมต่อ เน้นมีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การทำงานและการศึกษา และออกแบบให้ได้ iPad ที่บางและเบาสะดวกในการพกพามากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการใช้ AI เข้ามาเสริมและสร้างคุณสมบัติใหม่ๆ

 

ผ่านมา 15 ปี วันนี้จึงไม่มีใครไม่รู้จัก iPad อีกต่อไป.