HP เปิดตัวระบบซ่อมคอมได้จากทุกที่บนโลกแบบไม่ต้องเปิดเครื่อง
เชื่อว่าวิกฤติ Crowdstrike คงทำให้ IT support หลายท่านปวดหัวกันไม่น้อย วันนี้เราจึงพามาชมระบบใหม่ของ HP ที่ช่วยให้ช่างสามารถรีโมทเข้ามาได้แม้เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ติด
สำหรับ IT support เชื่อว่าหนึ่งในเรื่องที่ต้องรับมือมากที่สุดคือ การขัดข้องของอุปกรณ์หรือโปรแกรมภายในคอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่แนวทางแก้ปัญหาคือการนำหน้าจอและตัวเครื่องมาให้ตรวจสอบโดยตรง หลายครั้งที่อาศัยระบบรีโมทในการควบคุมทางไกลเพื่อทำการตรวจสอบได้รวดเร็ว แต่ระบบนี้ก็มีข้อจำกัดทำให้ใช้งานไม่ได้ในบางสถานการณ์
ล่าสุดจะไม่เป็นแบบนั้นอีกต่อไปเมื่อ HP เปิดตัวระบบรีโมทที่ช่วยให้ควบคุมเครื่องทางไกลได้แม้บูทเครื่องไม่ติด
HP เปิดตัวระบบรีโมทแม้เครื่องบูตไม่ติด
ระบบนี้เป็นบริการทางเทคนิคระยะไกลจากทาง HP ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสถานที่ทำงานซึ่งยืดหยุ่นมากขึ้น แต่ยังสามารถเข้ารับการสนับสนุนช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุขัดข้องได้จากระยะไกลแบบเดียวกับในสำนักงาน ด้วยระบบใหม่ที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถรีโมทควบคุมเครื่องอย่างราบรื่น แม้ผู้ใช้งานจะไม่สามารถเปิดเครื่องได้ก็ตาม
กลไกเบื้องหลังการทำงานฟังก์ชันนี้เกิดจากระบบ KVM คือซอฟต์แวร์ที่จะสร้างระบบเสมือนคีย์บอร์ด วีดีโอ และเมาส์ ให้สามารถควบคุมได้จากระยะไกล จากฟังก์ชัน Intel vPro ที่ได้รับการติดตั้งลงบนชิป Intel รุ่นใหม่ ช่วยให้ช่างของทาง HP สามารถเข้าถึงเครื่องได้โดยตรง
จุดเด่นของระบบนี้คือ IT support สามารถเข้าถึงและควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ แม้ประสบปัญหาเปิดเครื่องไม่ได้, ระบบปฏิบัติการพัง หรือ BIOS มีปัญหา จนไม่สามารถทำการใช้งานและตรวจสอบสถานะได้ตามปกติ โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้งานพบกับความยุ่งยากใดๆ
ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับบริการนี้ยังคงมีไม่มากเนื่องจากเป็นบริการที่ยังไม่ได้เปิดใช้งานเป็นทางการ แต่พวกเขาคาดว่าบริการนี้จะช่วยซ่อมและแก้ไขปัญหาทางเทคนิคของผู้ใช้งานได้ถึง 70 – 80% ของทั้งหมดที่ทำการแจ้งเข้ามา ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและคล่องตัวในการใช้งานแล็บท็อปของบริษัท
สำหรับผู้สนใจใช้งานระบบนี้เป็นส่วนเสริมที่ต้องเพิ่มเติมจากโปรแกรมสนับสนุนปกติของ HP และต้องเป็นชิปที่มีระบบ Intel vPro เท่านั้น โดยจะเปิดให้บริการในพื้นที่ยุโรปและอเมริกาเหนือในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 ก่อนขยายตัวในพื้นที่อื่นเป็นลำดับถัดไป
ลบข้อจำกัดแบบเดิมของระบบรีโมทโดยสิ้นเชิง
ตามที่กล่าวไปข้างต้นเทคโนโลยีรีโมทให้ช่างเข้ามาตรวจสอบเครื่องโดยตรงไม่ใช่เรื่องใหม่ มีโปรแกรมรองรับระบบนี้มากมายทั้งแบบใช้งานฟรีและมีค่าบริการอยู่ทั่วไป แต่ซอฟต์แวร์เหล่านี้มีข้อจำกัดคือ เป็นโปรแกรมภายนอกที่ทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการ ในกรณีที่ไม่สามารถเปิดเครื่องตามปกติจึงไม่สามารถใช้งานได้
แตกต่างจากระบบ KVM ของทาง HP ที่ทำให้ช่างสามารถเข้าถึงเครื่องได้ผ่านทาง Intel vPro ที่อยู่ในชิป Intel โดยตรง จึงสามารถรับมือเหตุขัดข้องที่เกิดขึ้นระหว่างการเปิดเครื่องหรือระบบปฏิบัติการโดยตรง เช่น กรณี Crowdstrike ที่ขัดขวางการทำงานตามปกติของระบบปฏิบัติการ
อีกทั้งระบบนี้ในการเข้าเชื่อมต่อเพื่อรีโมทเครื่องไม่จำเป็นต้องอาศัยระบบอินเทอร์เน็ต อาศัยเพียงการเชื่อมต่อระหว่างแพลตฟอร์มผ่านทางชิป Intel เท่านั้น จึงสามารถเข้าถึงและทำการควบคุมจากระยะไกลได้ แม้ผู้ใช้งานจะไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ตาม
ด้วยกลไกนี้จะทำให้เหตุขัดข้องทางเทคนิคที่เกิดขึ้นกับซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการทั้งหมด สามารถได้รับการดูแลจากช่างได้โดยตรงในทุกที่ทุกเวลา เพิ่มความสะดวกในการใช้งานแล็บท็อป สอดคล้องกับกระแสความนิยมในการ Work from home ที่ช่วยใช้ผู้ใช้งานได้รับความช่วยเหลือไม่ต่างจากมี IT support อยู่ข้างตัวตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามระบบ KVM ของทาง HP นี้แม้จะมีประโยชน์เป็นอย่างมากแต่ก็ชวนให้ตั้งคำถามไปพร้อมกัน
คำถามด้านความปลอดภัยที่อาจนำสู่วิกฤติครั้งใหม่
รายละเอียดขั้นตอนการใช้งานระบบนี้ยังคงมีน้อยเนื่องจากยังไม่เปิดให้บริการจริง แต่ก็ชวนให้ตั้งคำถามในด้านความปลอดภัยทางการใช้งาน แม้ HP จะมีแพลตฟอร์มและขั้นตอนสำหรับขอรับความช่วยเหลือเพื่อรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะอยู่ก็ตาม กระนั้นในบางมุมประสิทธิภาพของระบบ KVM ก็มากจนเกินไป
จริงอยู่ทาง HP ยืนยันว่า ก่อนเข้าใช้งานรีโมทเครื่องจะต้องได้รับการยินยอมจากลูกค้า ต้องทำการกดยืนยัน Security code ก่อนเจ้าหน้าที่จึงจะใช้งานได้ โดยอาศัยช่องทางในการติดต่อผ่านบริการสนับสนุนและซ่อมแซมที่สมัครไว้กับทาง HP เช่น เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลต่างๆ ซึ่งช่วยคัดกรองความปลอดภัยในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตามการที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานถูกแทรกแซงจากภายนอกได้ ทั้งยังเป็นในระดับฮาร์ดแวร์โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็เป็นเรื่องน่ากลัว ในกรณีถูกนำไปใช้ในทางผิดหรือเกิดช่องโหว่ของระบบจนถูกเข้าถึงจากคนภายนอก นั่นอาจหมายถึงเครื่องคอมพิวเตอร์เราอาจถูกยึดโดยสมบูรณ์
กรณีแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมรักษาความปลอดภัยของ HP หรือ Intel เกิดช่องโหว่หรือมีการทำงานผิดปกติ การเปิดโอกาสและสิทธิในการเข้าถึงที่มากเกินไปอาจทำให้ระบบที่ควรใช้ในการรับมือปัญหากลายเป็นปัญหา จนเป็นตัวจุดชนวนสร้างความเสียหายครั้งใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิม
เพราอันที่จริงก่อนนำไปสู่วิกฤติการณ์ เดิมที Crowdstrike เป็นโปรแกรมที่ออกแบบเพื่อรักษาความปลอดภัยเช่นกัน
ที่มา
https://www.hp.com/us-en/newsroom/press-releases/2024/exceptional-employee-experiences.html


