เจาะวิธีใช้เงิน 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' เงินสดไม่ได้ จ่ายเฉพาะร้านที่กำหนด
กลุ่มเปราะบางจะเป็นกลุ่มแรกที่ใช้ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' 10,000 บาท ซึ่งมีลาดเลาว่าจะจ่ายผ่าน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน! พบว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่สามารถใช้เป็นเงินสดได้ และจ่ายเฉพาะร้านที่กำหนด พร้อมเงื่อนไขการใช้เงินดังนี้!
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษในงาน Dinner Talk: Vision for Thailand 2024 "วิสัยทัศน์ประเทศไทย" โดยได้พูดถึงโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งมีส่วนหนึ่งที่ระบุว่าเงินดังกล่าวจะถูกจ่ายไปยัง 'กลุ่มเปราะบาง' ก่อน 13.5 ล้านคน และจะจ่ายเงินดิจิทัลคนพิการที่อยู่นอกกลุ่มอีก 1 ล้านคนรวม 14.5 ล้านคน เป็นการกระตุ้นเศรฐกิจเบื้องต้น โดยจะเริ่มจ่ายเงินได้ในเดือนกันยายน 2567 นี้
ทั้งนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าการแจกเงินดังกล่าวจะเป็นการแจกเงินสดหรือไม่?
ข่าวหลายกระแสระบุว่าการแจกเงินกลุ่มดังกล่าว จะเป็นการแจกเงินผ่าน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ที่ริเริ่มขึ้นในปี 2560 ในยุคของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์! เนื่องจากมีการลงทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้วและสามารถแจกเงินได้ทันที!
- แหล่งที่สามารถใช้เงินได้
แต่เดิมบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะสามารถให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ สามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ในสองกรณีคือ
1. เงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ เช่น สินค้าอุปโภค-บริโภค สินค้าเพื่อการศึกษา สินค้าเพื่อเกษตรกรรม และก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด
2. เงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ได้แก่ รถเมล์ รถไฟฟ้า รถโดยสาร บขส. และรถไฟ
- เงื่อนไขการใช้เงิน
เงื่อนไขการใช้เงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้นเอาเข้าจริงก็คลับคล้ายกับเงินดิจิทัลไม่น้อย โดยพบว่า
1. ต้องใช้กับเครื่องรูดบัตรชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์(เครื่อง EDC)และ e-Ticket บนรถโดยสาร
2. สินค้าอุปโภค-บริโภค จะสามารถใช้ชำระสินค้าได้ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าอื่นๆที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเท่านั้น เช่นเดียวกับการซื้อก๊าซหุงต้ม ใช้ได้กับร้านก๊าซที่กระทรวงพลังงานกำหนด
3. ส่วนของค่าเดินทาง ใช้กับเครื่อง e-Ticket ที่ติดตั้งไว้ภายในรถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้า โดยการแตะบัตรกับเครื่อง เงินในบัตรก็จะถูกหักออกไปอัตโนมัติ หรือสามารถซื้อตั๋วรถโดยสาร บขส.และรถไฟทุกสถานี ที่จุดจำหน่ายตั๋วโดยสาร
4. ในการใช้จ่ายหากเงินในบัตรมีไม่เพียงพอ ผู้ใช้งานสามารถเติมเงินผ่านบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Money ของธนาคารกรุงไทยได้
7. เงินที่มีอยู่ในบัตร ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดได้ และไม่สามารถสะสมเงินสวัสดิการแห่งรัฐในบัตรได้ หมายถึง ถ้าไม่ใช้หรือใช้ไม่หมดในแต่ละเดือน จะถูกตัดเงินออกแล้วรับเงินของเดือนถัดไป ไม่มีการทบเป็นเงินสะสม
8. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้ได้เฉพาะบุคคลที่เป็นเจ้าของบัตร ยกเว้นผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเดินทางได้ จะให้ผู้ดูแลเป็นผู้ใช้สิทธิแทน หากฝ่าฝืนเงื่อนไข เจ้าของบัตรจะถูกตัดสิทธิในบัตร และผู้อื่นที่นำไปใช้จะมีความผิดต้องชดในเงินคืนแก่ราชการ
และหากแลดูเงื่อนไขดังกล่าว ก็จะพบว่ามีบางประเด็นที่สอดคล้องกับโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต คือไม่สามารถใช้ผ่านเงินสดได้ รวมไปถึงในปาฐกถาของ อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่ระบุว่า การให้เงินดิจิทัลเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แม่นยำ ซึ่งหากแจกเงินสดบางคนเอาไปใช้หนี้แล้วก็ไม่ได้นำมาหมุนเวียนเศรษฐกิจจริง! ซึ่งจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนี้จะพบว่าได้มีกรอบการใช้เงินในร้านค้าที่กำหนด และเห็นว่าเส้นทางการเงินนั้นจะหมุนกลับมายังรัฐอย่างไร
- คำถามจากภาคสังคม ถึงนโยบาย 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' เมื่อครั้งรัฐบาลประยุทธ์
ย้อนกลับไปสักนิด เมื่อครั้งรัฐบาลประยุทธ์ออกนโยบายดังกล่าว ช่วงปลายปี 2561 ซึ่งรัฐบาลได้ทุ่มวงเงินอนุมัติดำเนินโครงการลงไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประมาณ 81,979 ล้านบาท จึงถูกพรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามระบุว่านี่คือ 'ประชานิยมแบบทหาร' ที่อาศัยกลไกของรัฐเอาใจประชาชนผู้มีรายได้น้อยเพื่อเปลี่ยนคะแนนเสียงและเอื้อประโยชน์ต่อการเมืองของตนเอง อย่างไรก็ตามภายหลังการเลือกตั้งในปี 2562 นโยบายนี้ก็เป็นเรือธงของพลเอกประยุทธ์ต่อมาเรื่อยๆ โดยเหตุผลว่า ลดความเหลื่อมล้ำ และช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้อีกประเด็นที่ถูกพูดถึง คือการสูญเสียงบประมาณอย่างมหาศาล โดยไม่ก่อให้เกิดความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เพราะสุดท้ายเม็ดเงินจะไปกระจุกตัวตามบริษัทของนายทุนรายใหญ่ไม่กี่ราย เรียกว่าช่วยเจ้าสัวมากกว่าช่วยประชาชน เสียมากกว่า
นั่นคือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีก่อน และปีนี้ที่ประเทศไทยจะมีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินประชาชนอีกครั้ง ก็ต้องรอดูว่าบทสรุปจะแตกต่างไปจากเดิมหรือไม่!


