แนวทางใหม่ป้องกันเด็กกลืนถ่านกระดุม สารเคลือบถ่านที่ทำให้ปากเป็นสีฟ้า
การนำของเข้าปากเป็นความซนตามวัยของเด็กที่สร้างความหนักใจแก่พ่อแม่ โดยเฉพาะเมื่อของที่นำเข้าปากเป็นอันตรายอย่าง ถ่านกระดุม ที่อาจเผาหลอดลมและอวัยวะภายในจนเสียหาย แต่ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไปเมื่อมีการพัฒนาสารเคลือบที่ทำให้บริเวณที่แตะถ่านกระดุมเป็นสีฟ้า
ความซุกซนในการเล่นและหยิบจับข้าวของรอบตัวถือเป็นเรื่องทั่วไปของเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ยังไม่รู้ความและเต็มไปด้วยความสนใจสิ่งรอบตัว พฤติกรรมชวนอมยิ้มเหล่านี้มักมาจากความไร้เดียงสาจนชวนให้รู้สึกขบขันระคนเอ็นดูจากคนรอบข้าง ถือเป็นธรรมชาติในการเรียนรู้และปรับตัวของพวกเขา
อย่างไรก็ตามความซุกซนเหล่านี้หลายครั้งอาจกลายเป็นเรื่องน่าปวดหัว ทั้งต่อคนรอบข้าง ผู้ปกครองที่คอยดูแล หรือแม้แต่ตัวเด็กเอง อีกทั้งความไม่รู้เหล่านี้ยังอาจนำไปสู่อันตรายโดยง่าย ยิ่งพฤติกรรมที่ชอบหยิบจับวัตถุขนาดเล็กรอบตัวมาเล่นหรือกลืนเข้าไปในปากที่อาจถึงแก่ชีวิต
และเมื่อพูดถึงสิ่งแปลกปลอมที่มีความเป็นพิษและเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับเด็กคงหนีไม่พ้นถ่านกระดุม
การกลืนถ่านกระดุม อีกหนึ่งอันตรายถึงชีวิตสำหรับเด็ก
ในบรรดาข้าวของเครื่องใช้รอบตัวสิ่งที่สามารถเป็นอันตรายต่อเด็กมีอยู่หลายรูปแบบ ตั้งแต่ของมีคม วัตถุไวไฟ สารเคมีอันตราย แต่ถ้านับรวมพฤติกรรมในการนำวัตถุรอบตัวเข้าปาก เชื่อว่าถ่านกระดุมคงถูกจัดเป็นภัยอันตรายระดับแรกที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิต
ถ่านกระดุมเป็นอุปกรณ์จ่ายพลังงานที่นิยมใช้งานในอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น นาฬิกา ไฟฉาย ไปจนของเล่นเด็ก นี่จึงเป็นสาเหตุให้อุปกรณ์เหล่านี้อยู่ในความสนใจ ทำให้เด็กหลายคนนึกสนุกอยากแกะชิ้นส่วนภายในออกมา พวกเขาจึงสามารถเข้าถึงถ่านกระดุมและสามารถนำเข้าปากได้โดยง่าย
เมื่อกลืนถ่านกระดุมเข้าสู่ร่างกายตำแหน่งแรกที่ถ่านกระดุมจะไปถึงคือหลอดอาหารไปจนกระเพาะ ด้วยคุณสมบัติของระบบย่อยอาหารอาจทำให้สารเคมีภายในถ่านกระดุมเกิดการรั่วไหล โดยเฉพาะ โซเดียมไดออกไซด์ และ โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ ที่มีคุณสมบัติกัดกร่อนรุนแรง จนอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบย่อยอาหารและอวัยวะภายใน
นอกจากนี้เมื่อสัมผัสกับของเหลวภายในร่างกายอาจทำให้แบตเตอรี่เกิดการลัดวงจรจนคายกระแสไฟฟ้าออกมา ประจุไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากถ่านกระดุมจะทำการเผาไหม้เนื้อเยื่อภายในร่างกาย ส่งผลให้เกิดการเผาไหม้และความเสียหายต่ออวัยวะโดยตรงจนเป็นอันตรายต่อชีวิต
การที่เด็กกลืนถ่านกระดุมเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ในสถานการณ์จริงเราจำเป็นต้องพาตัวเด็กไปส่งโรงพยาบาลเพื่อนำถ่านกระดุมออกจากร่างกายให้เร็วที่สุด ป้องกันผลกระทบทางสุขภาพที่จะเกิดขึ้นต่อร่างกาย แต่หลายครั้งที่ผู้ปกครองไม่ทันทราบว่าลูกน้อยของตัวเองกลืนถ่าน จึงไม่สามารถช่วยเหลือหรือรักษาชีวิตไว้ได้ทันท่วงที
นี่จึงเป็นผลให้มีการประดิษฐ์สารเคลือบถ่านชนิดใหม่ที่ออกแบบเพื่อป้องกันเด็กๆ โดยเฉพาะ
ถ่านป้องกันการกลืน แนวทางใหม่สำหรับป้องกันเด็กๆ
ผลงานนี้เป็นของบริษัทแบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่อย่าง Energizer กับการพัฒนาแบตเตอรี่ป้องกันการกลืนโดยเฉพาะในกลุ่ม ถ่านกระดุม นำไปสู่การพัฒนาสารเคลือบที่จะทำให้ตัวถ่านมีรสขมเมื่อนำเข้าปาก รวมถึงทำให้บริเวณที่สัมผัสกับแบตเตอรีเรืองแสงสีฟ้าอีกด้วย
แนวคิดนี้เกิดจากความพยายามป้องกันปัญหาเด็กกลืนถ่านกระดุม แต่ละปีมีเด็กที่เผลอกลืนถ่านกระดุมจำนวนไม่น้อย เมื่อกลืนเข้าไปถ่านกระดุมมีคุณสมบัติสามารถเผาไหม้ทำลายลำคอและหลอดอาหารของเด็กคนนั้น นำไปสู่ความเสียหายรุนแรงที่เป็นอันตรายต่อชีวิต
ที่ผ่านมากรณีที่เด็กเล็กเผลอกลืนถ่านกระดุม หากโชคดีพ่อแม่สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทันท่วงทีก็สามารถนำถ่านกระดุมในร่างกายออกมาจากตัวโดยแทบไม่มีอันตราย แต่หากไม่รีบนำออกอย่างเร่งด่วนถ่านกระดุมก็สามารถทำลายหลอดอาหารและอวัยวะภายในอย่างรุนแรงในระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมง
ผลจากการรณรงค์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลดการใช้ถ่านกระดุมในผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ร่วมกับกฎหมาย Reese's Law นำไปสู่การพัฒนาถ่านกระดุมให้มีความปลอดภัยมากขึ้น อันดับแรกคือสารเคลือบชนิดใหม่บนตัวถ่าน ทำให้ถ่านมีรสชาติขมรุนแรงแต่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เพื่อให้เด็กที่เผลอนำถ่านกระดุมเข้าปากคายออกมาตามธรรมชาติ
นอกจากนี้ในกรณีเด็กเผลอกลืนถ่านกระดุมเข้าไปในร่างกาย สารเคลือบจะเปลี่ยนริมฝีปาก ลิ้น หรือส่วนใดก็ตามของร่างกายที่มีความชื้นที่สัมผัสกับถ่านให้กลายเป็นสีฟ้าภายในระยะเวลาไม่กี่วินาที ตัวสีพัฒนาขึ้นจากสีผสมอาหารที่ปลอดภัย ถือเป็นสัญญาณแจ้งเตือนสู่ผู้ปกครองให้นำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาทันท่วงที
โดยทางบริษัทคาดหวังว่าคุณสมบัติความปลอดภัยนี้จะป้องกันโศกนาฎกรรมที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
จริงอยู่ด้วยกลไกการป้องกัน 2 ชั้น ทั้งรสขมและสีที่ติดบริเวณปากน่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เด็กกลืนถ่านกระดุมเข้าไปได้ อย่างไรก็ตามทางผู้ปกครองก็ยังต้องระมัดระวังและป้องกันไม่ให้มีการนำวัสดุอันตรายอยู่ใกล้ตัว เพื่อป้องกันความซุกซนตามวัยให้กลับมาทำร้ายความไร้เดียงสานั้นเสียเอง
ที่มา
https://interestingengineering.com/innovation/energizer-child-resistant-battery
https://uk.news.yahoo.com/energizer-batteries-warn-parents-children-134027988.html
https://www.doctor.or.th/clinic/detail/7077
https://www.bbc.com/thai/international-60347733


