posttoday

'GISTDA'เผยไทยระอุไม่แผ่วพบจุดร้อนมากสุดแม่ฮ่องสอน 299แห่ง

06 เมษายน 2567

ไทยร้อนไม่แผ่ว 'GISTDA เผยป่าอนุรักษ์ ระอุสุด 572แห่ง ส่วนฝุ่น PM2.5 เหนือ-อีสานน่าห่วง 17จังหวัดพื้นที่สีส้ม รัฐบาลเตือนประชาชนระวังฮีตสโตรกแนะเลี่ยงแดดจัด

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) 'GISTDA' กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) และจากดาวเทียมอีกหลายดวง เมื่อ 5 เมษายน 2567 ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 1,280 จุด ข้อมูลจากดาวเทียมยังระบุอีกว่าจุดความร้อนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 572 จุด ตามด้วยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 402 จุด พื้นที่เกษตร 165 จุด พื้นที่ สปก. 75 จุด  แหล่งชุมชนและอื่นๆ 54 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 12 จุด 

สำหรับจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนมากที่สุด คือ #แม่ฮ่องสอน 299 จุด 
 

ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านพบจุดความร้อนต่อเนื่อง โดยสูงสุดวานนี้ยังคงเป็นพม่า 7,692 จุด ตามด้วยลาว 5,044 จุด ไทย 1,280 จุด เวียดนาม 523 จุด กัมพูชา 409 จุด และมาเลเชีย 150 จุด

ที่มา GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)  
 

ขณะที่สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 GISTDA เผยว่าเมื่อเวลา 08.00 น.ของวันที่ 6 เมษายน 2567 พบ 21 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ 

#เชียงราย 210.8 ไมโครกรัม #เชียงใหม่ 206.6 ไมโครกรัม #แม่ฮ่องสอน 190.2 ไมโครกรัม #ลำพูน 172.2 ไมโครกรัม #พะเยา 148.5 ไมโครกรัม #ลำปาง 140.9 ไมโครกรัม #น่าน 139.8 ไมโครกรัม #แพร่ 121.5 ไมโครกรัม #นครพนม 118.6 ไมโครกรัม #เลย 108.4 ไมโครกรัม #บึงกาฬ 108.1 ไมโครกรัม #อุตรดิตถ์ 108 ไมโครกรัม #หนองคาย 95.8 ไมโครกรัม #ตาก 94.7 ไมโครกรัม #สกลนคร 92.2 ไมโครกรัม #หนองบัวลำภู 90.4 ไมโครกรัม #อุดรธานี 88.6 ไมโครกรัม #สุโขทัย 87.7 ไมโครกรัม #กาฬสินธุ์ 86.4 ไมโครกรัม #มุกดาหาร 84.3 ไมโครกรัม และ #อำนาจเจริญ 77.8 ไมโครกรัม

ขณะที่อีก 17 จังหวัดมีค่าเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม ที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ส่วนใหญ่จะอยู่ในโซนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครเช้าวันนี้พบว่ามีคุณภาพอากาศดีไปจนถึงอากาศดีมาก  

แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโซนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  

ที่มา GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) 

\'GISTDA\'เผยไทยระอุไม่แผ่วพบจุดร้อนมากสุดแม่ฮ่องสอน 299แห่ง

รัฐบาลห่วงประชาชนป่วยฮีตสโตรกแนะเลี่ยงกลางแดด
 
น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว หลายพื้นอาจมีค่าดัชนีอุณหภูมิสูงถึง 44.5 องศาเซลเซียส รัฐบาลมีเป็นห่วงประชาชนที่เสี่ยงภาวะฮีทสโตรก ซึ่งอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงขอให้กลุ่มเสี่ยง ทั้งเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว อยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก เลี่ยงอยู่กลางแดดนาน ๆ ส่วนคนทำงานกลางแจ้งให้สลับเข้าที่ร่มเป็นระยะ

จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โรคลมร้อน หรือ ฮีทสโตรก (Heatstroke)เกิดจากภาวะที่ร่างกายร้อนจัดจนส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เป็นอาการที่พบได้ในช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งเป็นอาการเสี่ยงต่อผู้ที่ทำงานหรืออยู่ในสถานที่ที่มีแดดจัด หรือมีอากาศร้อนอบอ้าว จึงขอแนะนำให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเองในช่วงอากาศร้อน สวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อนที่ระบายความร้อนได้ดี หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดที่ร้อนจัด หลีกเลี่ยงทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงกลางแจ้งนาน ๆ สวมแว่นกันแดด กางร่ม สวมหมวกปีกกว้าง ดื่มน้ำมากกว่าปกติ เพื่อชดเชยการเสียน้ำในร่างกาย 

ทั้งนี้ ในครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือเด็กอยู่ด้วย ไม่ควรปล่อยให้ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียงในบ้านที่เป็นห้องกระจกปิดไว้เพียงลำพัง และอย่าทิ้งเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถที่จอดไว้กลางแจ้ง เนื่องจากอุณหภูมิภายในรถจะสูงกว่าภายนอก หากประชาชนท่านใดพบผู้ที่กำลังเกิดอาการฮีทสโตรก สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ด้วยการ รีบนำผู้ป่วยเข้าที่ร่มหรือที่ที่มีอากาศถ่ายเท จัดร่างกายให้ผู้ป่วยนอนราบ คลายเสื้อผ้าออกให้พอหลวม และใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามร่างกาย และสามารถโทรแจ้งได้ที่ สายด่วน 1669 ทันที