posttoday

มิติใหม่แห่งการรักษาเบาหวาน การผลิตอินซูลินผ่านนมวัว

01 เมษายน 2567

หนึ่งในเรื่องน่าปวดหัวสำหรับโรคเบาหวานคืออินซูลิน นอกจากมีกรรมวิธียุ่งยากในการฉีดที่ต้องคอยระมัดระวังทั้งในด้านปริมาณและภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นแล้ว อินซูลินยังเป็นยาที่มีราคาแพง แต่จะเป็นอย่างไรหากเราสามารถผลิตอินซูลินผ่านนมวัว

อินซูลิน ฮอร์โมนที่ผลิตจากเซลล์ตับอ่อน ทำหน้าที่หลักในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ถือเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ทำให้ร่างกายสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ด้วยเหตุนี้ผู้ป่วยเบาหวานที่ประสบปัญหาในการผลิตอินซูลิน จึงจำเป็นจะต้องได้รับจากภายนอกเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตประจำวัน

 

           อย่างไรก็ตามอินซูลินที่มีการใช้งานทั่วไปนั้นมีข้อจำกัดในหลายด้าน ด้วยกระบวนการผลิตอยู่ในวงจำกัดทำให้หลายครั้งอินซูลินมีราคาค่อนข้างสูง อัตราการผลิตอินซูลินในปัจจุบันสวนทางกับอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งอาจส่งผลต่อปริมาณและราคาอินซูลินในอนาคต

 

           วันนี้เราจึงมาพูดถึงกระบวนการผลิตอินซูลินและข้อจำกัดที่จากอินซูลินในปัจจุบันกันเสียหน่อย

 

มิติใหม่แห่งการรักษาเบาหวาน การผลิตอินซูลินผ่านนมวัว

 

กลไกการผลิตและปัญหาของอินซูลินในปัจจุบัน

 

           อันที่จริงแนวคิดในการผลิตอินซูลินจากสัตว์ไม่ใช่ของใหม่ ย้อนกลับไปในช่วงการผลิตอินซูลินในระยะแรกเองก็ได้รับการผลิตจากตับอ่อนของหมูและวัวเช่นกัน ด้วยอินซูลินที่อยู่ในสัตว์ทั้งสองชนิดมีความใกล้เคียงกับคนมาก แต่อินซูลินชนิดนี้อาจทำให้ผู้รับเกิดอาการแพ้, ผื่นคัน, หายใจติดขัด, ความดันโลหิตลด จึงเริ่มถูกยกเลิกไปในปี 1998

 

           การผลิตอินซูลินในปัจจุบันจะอาศัยการสังเคราะห์จากแบคทีเรีย E.coli โดยเริ่มจากการตัดต่อเซลล์ผลิตอินซูลินออกมาจากดีเอ็นเอของมนุษย์ จากนั้นจึงนำมาเชื่อมกับพลาสมิดของแบคทีเรีย แล้วนำแบคทีเรียที่ได้รับการตัดต่อยีนส์ผลิตอินซูลินเหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการเพาะเลี้ยงเพื่อเพิ่มจำนวนมากขึ้น

 

           จุดเด่นของการผลิตอินซูลินจากแบคทีเรียคือ เมื่อสามารถผลิตอินซูลินได้ปริมาณตามต้องการ ที่ต้องทำก็มีเพียงการสกัดฮอร์โมนอินซูลินออกมาจากแบคทีเรีย กำจัดเชื้อเพื่อให้ผู้ได้รับไม่เกิดอาการแพ้หรือผลกระทบทางสุขภาพรูปแบบอื่น ช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถรับอินซูลินได้อย่างปลอดภัย

 

           นอกจากใช้แบคทีเรียแล้วอีกหนึ่งวิธีที่สามารถใช้ผลิตอินซูลินได้คือยีสต์ ถือเป็นวิธีการผลิตที่มีการใช้งานทั่วไปในปัจจุบัน โดยสามารถแบ่งออกได้หลายชนิดขึ้นกับระยะเวลาออกฤทธิ์ ตั้งแต่ 5 นาที ไปจน 24 ชั่วโมง ขึ้นกับความสะดวกและรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้ป่วย

 

           อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบอัตราการผลิตอินซูลินและอัตราการขยายตัวจากผู้ป่วยโรคเบาหวานในปัจจุบัน อาจนำไปสู่การขาดแคลนอินซูลิน อีกทั้งปัจจุบันก็มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงอินซูลินได้ ด้วยราคาของอินซูลินที่จะทำการฉีดสูงเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถจ่ายไหว

 

           ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มมีแนวคิดเพิ่มกำลังอัตราการผลิตอินซูลินผ่านนมวัว

 

มิติใหม่แห่งการรักษาเบาหวาน การผลิตอินซูลินผ่านนมวัว

 

อินซูลินรูปแบบใหม่ที่ได้จากนมวัว

 

           ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก University of Illinois Urbana-Champaign กับแนวคิดในการดัดแปลงพันธุกรรมวัวให้สามารถผลิตและจ่ายอินซูลินแก่ผู้บริโภคได้ผ่านน้ำนม ซึ่งอาจช่วยแก้ปัญหาแก่ผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องใช้งานอินซูลินในชีวิตประจำวัน

 

           แนวคิดนี้เริ่มต้นจากส่วนประกอบของอินซูลินที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนเรียงตัวกัน นี่จึงถือเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาภายในร่างกาย เมื่อรวมกับแนวคิดว่าวัวสามารถผลิตโปรตีนลงไปในน้ำนมและสามารถนำมาใช้ในการบริโภคได้ ดังนั้นในทางทฤษฎีเราอาจทำให้วัวผลิตอินซูลินแล้วนำมาใช้ได้เช่นกัน

 

           ด้วยเหตุนี้ทางทีมวิจัยจึงได้นำเซลล์และดีเอ็นเอมนุษย์ที่ทำหน้าที่ผลิตอินซูลินไปฝังไว้ในตัวอ่อนวัว อาศัยการตัดต่อพันธุกรรมเพื่อทำการฝังและกระตุ้นเซลล์ที่ทำหน้าที่เจริญพันธุ์ไปเป็นต่อมน้ำนมโดยเฉพาะ จากนั้นจึงนำตัวอ่อนเหล่านั้นไปฝังไว้ให้วัวแม่พันธุ์อุ้มท้องเพื่อให้เจริญเติบโตตามปกติ

 

           ผลลัพธ์ที่ได้คือวัวที่ทำการตัดต่อพันธุกรรมไม่มีอินซูลินหรือเซลล์ของมนุษย์ไหลเวียนในเลือดหรืออวัยวะส่วนอื่น แต่สามารถผลิตน้ำนมที่มีอินซูลินออกมาสำเร็จ โดยภายในนมวัวปริมาตร 1 ลิตร จะมีอินซูลินอยู่ราว 2 – 3 กรัม ซึ่งถือเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง

 

           วัวที่พวกเขาทำการทดสอบเป็นวัวทั่วไปปริมาณน้ำนมที่ให้จึงมีไม่มาก แต่หากสามารถดัดแปลงพันธุกรรมวัวนมโดยเฉพาะ อาจสามารถทำการผลิตอินซูลินออกมาได้มากถึง 40 – 50 ลิตร/วัน ซึ่งเมื่อเทียบกับหน่วยอินซูลินที่มีการใช้งานทั่วไปแล้วจะเทียบเท่ากับอินซูลินปริมาณถึง 28,818 ยูนิท

 

           สำหรับผู้ป่วยเบาหวานโดยเฉลี่ยปริมาณอินซูลินที่ต้องทำการฉีดในแต่ละมื้อจะอยู่ที่ 8 – 10 ยูนิท อัตราการบริโภคอินซูลินอยู่ราว 30 – 40 ยูนิท/วัน วัวแต่ละตัวจึงสามารถทำการผลิตอินซูลินออกมาได้เป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนการผลิตอินซูลินลงไปมาก

 

           วิธีการนี้จึงอาจช่วยลดราคาอินซูลินในท้องตลาดให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลก

 

 

 

           อย่างไรก็ตามทางทีมวิจัยยืนยันว่าการทดลองของพวกเขายังอยู่ในขั้นเริ่มต้น วัวที่ประสบความสำเร็จในการดัดแปลงพันธุกรรมมีเพียง 10% จากทั้งหมด ข้อจำกัดที่วัวเหล่านี้ไม่สามารถตั้งท้องได้จนต้องใช้ฮอร์โมนเร่งการหลั่งน้ำนม รวมถึงวิธีการสกัดอินซูลินออกมาจากน้ำนมโค แนวทางการผลิตอินซูลินนี้จึงไม่อาจนำมาใช้ได้ในเร็ววัน

 

           แต่นี่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอินซูลินราคาย่อมเยาว์ได้ในอนาคต

 

 

           ที่มา

 

           https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter3/insulin_diabetes_treatment3.htm

 

           https://www.nstda.or.th/home/knowledge_post/insulin/

 

           https://www.bangkokhealth.com/articles/%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C/

 

           https://aces.illinois.edu/news/milk-rescue-diabetics-illinois-project-creates-first-insulin-producing-cow

 

           https://newatlas.com/science/cows-low-cost-insulin-production/

ข่าวล่าสุด

ตรวจสอบ 5 วิธีย้ายโรงพยาบาล 'สิทธิประกันสังคม' วันนี้ - 31 มี.ค. 69