ครู AI แนวทางการศึกษาใหม่สร้างความเท่าเทียมได้?
ที่ผ่านมาเราอาจมองหุ่นยนต์และ AI ในแง่ลบกันไม่น้อย แต่การมาถึงของหุ่นยนต์สอนหนังสืออย่าง Iris อาจเปลี่ยนความคิดของหลายท่าน เมื่อนี่อาจเป็นคำตอบในการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา
เมื่อพูดถึงหุ่นยนต์นอกจากความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีอันน่าทึ่งกับขีดความสามารถที่เติบโตขึ้นทุกวัน อาจทำให้หลายท่านคิดเห็นไปในทางเดียวกันคือความรู้สึกในการถูกคุกคาม เมื่อหุ่นยนต์อาจเข้ามามีบทบาททดแทนตำแหน่งงานที่เคยเป็นของเรา จนอาจนำไปสู่การตกงานครั้งมโหฬารในอนาคต
ความกังวลนี้แพร่กระจายในหลายภาคส่วนแต่ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าบทบาทของเทคโนโลยีมีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการมาถึงของ AI Chatbot ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ LLM ซึ่งสร้างแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญต่อหลายวงการ และกำลังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเราโดยตรง
แต่อาจไม่เป็นแบบนั้นเสมอไปเพราะหุ่นยนต์และเอไออาจเป็นคำตอบในการแก้ปัญหาระบบการศึกษา
Iris หุ่นยนต์สอนหนังสือตัวแรกของอินเดีย
ผลงานนี้เป็นของบริษัท Makerlabs Edutech แห่งอินเดีย กับการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ หรือ หุ่นยนต์ที่มีรูปทรงและการเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับมนุษย์อย่าง Iris หุ่นยนต์รุ่นใหม่ขับเคลื่อนผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ ที่จะช่วยสนับสนุนการเรียนการสอนภายในห้องเรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากความพยายามแก้ปัญหาคุณภาพทางการศึกษา ปัจจุบันในอินเดียมีประชากรกระจุกตัวอยู่หนาแน่นในหลายพื้นที่ จำนวนนักเรียนในประเทศมีกว่า 265 ล้านคน สวนทางกับจำนวนครูในระบบที่มีน้อยไม่เพียงต่อการสอนจนเกิดการขาดแคลนครู นำไปสู่การเกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นวงกว้าง
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้ทำการพัฒนาหุ่นยนต์สอนหนังสือ Iris หุ่นยนต์เพศหญิงแต่งกายด้วยชุดส่าหรี ผู้ช่วยการสอนที่ขับเคลื่อนผ่านปัญญาประดิษฐ์สำหรับสถานบันการศึกษารุ่นใหม่ กับคุณสมบัติในการสอน อธิบายเนื้อหา พูดคุยตอบโต้ ไปจนให้ความช่วยเหลือคำถามเชิงวิชาการต่างๆ
ตัวหุ่นได้รับการออกแบบให้ปลูกฝังพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแก่ผู้เรียน อาศัยการสอนระบบเสียงที่รองรับการใช้งานหลายภาษา อีกทั้งยังสามารถพัฒนารูปแบบการสอนให้ทันสมัยกระตุ้นความสนใจและมีส่วนร่วมของผู้เรียน โดยสามารถหยิบจับสิ่งของ สาธิตการทดลอง และสอนภาคปฏิบัติต่างๆ
อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของ Iris คือสามารถตรวจสอบและตอบสนองต่อท่าทีของผู้เรียน ตั้งแต่การยกมือ ยืนขึ้น หรือขออนุญาตของนักเรียนภายในชั้น ไปจนการตรวจสอบท่าทีและความสนใจในบทเรียนโดยรวม เพื่อให้สามารถปรับเนื้อหาการเรียนให้เหมาะสมและเข้าใจได้ง่ายสำหรับเด็กแต่ละคนอีกด้วย
ในทางหนึ่งนี่จึงถือเป็นคุณครูในฝันที่หลายคนต่างอยากได้ในตอนเป็นนักเรียนเลยทีเดียว
หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ ทางออกใหม่ในระบบการศึกษา
ถึงตรงนี้หลายท่านอาจมองว่าการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เข้าสู่ระบบการศึกษาไม่ใช่ของใหม่ นั่นอาจนำไปสู่การตั้งคำถามในด้านความเหมาะสมและขีดความสามารถอยู่บ้าง แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าหลายปีมานี้ระบบการศึกษาเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะการมาถึงของ ChatGPT
จุดเด่นสำคัญของหุ่นยนต์สอนหนังสือคือขีดความสามารถ หุ่นยนต์รองรับความรู้ความเข้าใจในหลายสาขา ตั้งแต่การอ่าน, การเขียน, หลักภาษา, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ครอบคลุมความรู้เชิงวิชาการรอบด้านจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่
ลำดับต่อมาคือช่วยลดปัญหาขาดแคลนแรงงานครูวิชาชีพ ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทวีความรุนแรงในหลายประเทศโดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล ทำให้เด็กจำนวนไม่น้อยต้องเดินทางไกลเพื่อมาโรงเรียน นำไปสู่ความเหลื่อมล้ำและโอกาสหลุดออกจากระบบการศึกษา หุ่นยนต์จึงอาจเข้ามาเติมเต็มช่องว่างและทำให้เด็กสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งส่วนคือส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา มีอยู่ไม่น้อยที่พวกเขาไม่มีโอกาสเข้าถึงและได้รับการสอนจากผู้มีความรู้ความเข้าใจ พวกเขาจึงเข้าสู่ระบบการศึกษาทั่วไปที่อาจไม่ตอบโจทย์จนประสบปัญหาในการเรียน แต่ปัญหาเหล่านี้อาจหมดไปจากหุ่นยนต์การสอนที่ได้รับการออกแบบให้ดูแลเอาใจใส่เด็กกลุ่มนี้โดยเฉพาะ
แน่นอน Iris ไม่ได้เป็นหุ่นยนต์ส่งเสริมการเรียนรู้เพียงรุ่นเดียว ในแคนาดาเองก็มีการพัฒนา QT หุ่นยนต์ขนาดเล็กที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ของเด็กกลุ่มที่มีอาการบกพร่องทางการเรียนรู้ไปจนออทิสติกสเปกตรัม ซึ่งมักเกิดปัญหากับบทเรียนภายในห้อง โดยจะเข้าไปช่วยเหลือให้เด็กมีสมาธิสนใจในเนื้อหาการสอนเพื่อให้ตามเนื้อหาบทเรียนได้เหมือนเด็กทั่วไป
นอกจากหุ่นยนต์แล้วยังมีแนวคิดในการนำเอาปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการเรียนการสอนเช่นกัน ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่เริ่มมีแนวคิดในการใช้ ChatGPT เป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอน เช่นเดียวกับ Khan Academy ที่เริ่มพัฒนา Khanmigo เอไอติวเตอร์ส่วนตัวที่ช่วยอธิบายและสอนส่วนที่ไม่เข้าใจในเนื้อหาได้
สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์และเอไอก็ไม่ได้มีเพียงข้อเสียและอาจช่วยเพิ่มโอกาสเท่าเทียมทางการศึกษายิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามการพัฒนาระบบและหุ่นยนต์เหล่านี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น จำเป็นต้องมีการตรวจสอบและเก็บข้อมูลอีกหลายด้านก่อนนำมาใช้งานจริง ทั้งในด้านการทำงานที่อาจขัดข้อง การจ่ายข้อมูลผิด หรือทัศนคติของผู้เรียนที่จำเป็นต้องได้รับการศึกษาผลกระทบในระยะยาวต่อไป
ที่มา
https://inc42.com/buzz/a-snapshot-of-the-future-meet-indias-first-saree-clad-ai-robot-teacher-iris/
https://www.posttoday.com/post-next/innovation/692106
https://www.posttoday.com/post-next/innovation/694037


