Osteoboost เข็มขัดสั่นสะเทือนรักษากระดูกพรุนจากเทคโนโลยี NASA

อายุที่มากขึ้นสิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ย่อมเป็นโรคภัยไข้เจ็บ เรื่องที่เกิดได้ทั่วไปจากสุขภาพร่างกายทรุดโทรมไปตามวัย สิ่งที่เคยเป็นเรื่องง่ายก็เริ่มยากขึ้นจนกลายเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้อีก นำไปสู่ปัญหาสุขภาพนานาชนิดให้เราต้องปวดหัวอยู่ร่ำไป

 

          เมื่อพูดถึงส่วนที่เสื่อมสภาพและส่งผลกระทบต่อร่างกายเป็นอันดับต้นๆ หลายคนย่อมนึกถึงกระดูก ยามแก่ตัวกระดูกในร่างกายจะสูญเสียความแข็งแรงทนทานที่เคยมี นำไปสู่ปัญหาความหนาแน่นของมวลกระดูกที่ลดลงจนทำให้เกิด โรคกระดูกพรุน ในที่สุด

 

          วันนี้เราจึงมาลงรายละเอียดและปัญหาที่เกิดจากโรคกระดูกพรุนกันเสียหน่อย

 

 

กระดูกพรุน อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของผู้สูงวัย

 

          หลายท่านคงรู้จักหรือประสบปัญหาจากโรคกระดูกพรุนกันมาไม่น้อย กับโรคที่เกิดจากความหนาแน่นและมวลกระดูกภายในร่างกายลดลงจนสูญเสียความแข็งแรงทนทานที่เคยมี ส่งผลให้เกิดอาการกระดูกเปราะบาง, เสื่อม, ผิดรูป ไปจนแตกหักได้ง่าย ในกรณีอาการหนักกระดูกสันหลังอาจบิดงอจนสูญเสียส่วนสูงเลยทีเดียว

 

          สาเหตุสำคัญของโรคกระดูกพรุนเกิดจากเซลล์สร้างกระดูกทำงานได้น้อยกว่าอัตราการสลายกระดูกในร่างกาย ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลนำไปสู่ความเสียหายทางโครงสร้าง มักพบมากในกลุ่มสตรีหมดประจำเดือนและผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น มีประวัติโรคกระดูกพรุนในครอบครัว, ขาดวิตามิน, ขาดสารอาหาร, โรคเรื้องรังบางชนิด ฯลฯ

 

          ปัญหาของโรคกระดูกพรุนคือ เมื่อเกิดขึ้นมักไม่มีอาการหรือสัญญาณแจ้งเตือนล่วงน้า มวลกระดูกจะสูญสลายไปเองตามกลไกในร่างกาย ทางเดียวที่รู้ได้คือเราต้องหมั่นตรวจสอบด้วยตัวเอง โดยตำแหน่งที่สามารถพบอาการนี้ได้บ่อยโดยมากคือกระดูกสันหลัง, สะโพก, ข้อมือ ไปจนต้นแขนบริเวณไหล่

 

          ส่วนที่น่ากลัวคือภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น ด้วยอาการโรคกระดูกพรุนส่งผลให้กระดูกภายในร่างกายเริ่มเปราะ ในกรณีหกล้มหรือเกิดความเสียหายจึงอาจบาดเจ็บสาหัส ทำให้เกิดความเสียหายต่อกระดูกอย่างถาวรจนอาจนำไปสู่ความพิการและขยับตัวไม่ได้จนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งจะยิ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากขึ้น

 

          ปัจจุบันแนวทางรักษาโรคกระดูกพรุนมีค่อนข้างจำกัด ตั้งแต่การใช้ฮอร์โมนเสริมเพื่อป้องกันการเสื่อมของกระดูก, การับประทานยาเพื่อลดอัตราการทำลายเนื้อเยื่อกระดูก ในกรณีร้ายแรงอาจต้องผ่าตัดเสริมหรือเปลี่ยนข้อกระดูกที่ได้รับความเสียหาย

 

          แต่ล่าสุดการรักษาโรคกระดูกพรุนจะก้าวไปอีกขั้นด้วยเข็มขัดสั่นสะเทือนที่ช่วยรักษาโรคกระดูกพรุน

 

 

Osteoboost เข็มขัดป้องกันกระดูกพรุนจาก NASA

 

          ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก Bone Health Technologies กับเข็มขัด Osteoboost ที่เมื่อสวมใส่จะสร้างแรงสั่นสะเทือนไปยังกระดูกสันหลัง เอว และสะโพก เพื่อกระตุ้นอัตราการทำงานของเซลล์สร้างกระดูกภายในร่างกาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูกและรักษาโรคกระดูกพรุนในที่สุด

 

          เดิมทีการบำบัดร่างกายด้วยการสั่นสะเทือน หรือ whole-body vibration therapy เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาจากองค์กรอวกาศ NASA สำหรับใช้ป้องกันการสูญเสียมวลกระดูกของนักบินอวกาศที่ต้องใช้ชีวิตภายใต้สภาวะไร้แรงโน้มถ่วง ถูกใช้งานร่วมกับโปรแกรมออกกำลังกายเฉพาะเพื่อเสริมสร้างเซลล์กระดูกลดผลกระทบทางสุขภาพที่เกิดขึ้น

 

          นำมาสู่การพัฒนาเข็มขัด Osteoboost ที่มีคุณสมบัติในการสร้างแรงสั่นสะเทือนไปยังกระดูกสันหลัง เอว และสะโพก ซึ่งเป็นบริเวณที่มักเกิดการสูญเสียมวลกระดูกรุนแรงที่สุดในกลุ่มสตรีหมดประจำเดือน เพื่อช่วยเสริมสร้างการทำงานของร่างกายให้กลับมาสร้างเซลล์กระดูกอีกครั้ง

 

          จากการทดลองในกลุ่มสตรีหมดประจำเดือนที่มีความหนาแน่นของมวลกระดูกต่ำจำนวน 126 ราย พบว่ากลุ่มที่ได้รับการรักษาจากเข็มขัดมีอัตราการสูญเสียมวลกระดูกน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ใช้ถึง 5 เท่า อีกทั้งสำหรับผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนอยู่ก่อนยังมีมีอัตราสูญเสียความหนาแน่นมวลกระดูกน้อยลงจากเดิมถึง 6.8 เท่าเลยทีเดียว

 

          เข็มขัดนี้ถือเป็นแนวทางรับมือและรักษารูปแบบใหม่ต่อผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน เมื่อเปรียบเทียบกับแนวทางทางการบำบัดวิธีอื่น เช่น การรับประทานยา, ทานอาหารมีประโยชน์, ทานอาหารเสริม ไปจนออกกำลังกาย นี่เป็นแนวทางรักษาที่เห็นผลและมีประสิทธิภาพมากกว่าการบำบัดชนิดอื่นมาก

 

          Osteoboost จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการขยายตัวของสังคมสูงอายุ

 

 

 

          ปัจจุบันเข็มขัด Osteoboost ไม่ได้อยู่ในค้นคว้าวิจัยหรือทดลองทางคลินิก แต่ได้รับการอนุมัติจากทาง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(FDA)สหรัฐฯเป็นที่เรียบร้อย เข็มขัดนี้เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางรักษาโรคกระดูกพรุน และคาดว่าจะพร้อมสำหรับการวางจำหน่ายทั่วไปในไม่ช้า

 

          นี่จึงไม่ใช่เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ไกลตัวแต่กำลังจะออกมาให้เราได้ใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

 

          ที่มา

 

          https://newatlas.com/health-wellbeing/fda-approves-first-non-pharmaceutical-prescription-medical-device-low-bone-density/

 

          https://www.bonehealthtech.com/news/press-release/1007/

 

          https://www.bangkokinternationalhospital.com/th/health-articles/disease-treatment/know-osteoporosis-to-prevent-fractures

 

          https://www.bumrungrad.com/th/conditions/osteoporosis