รู้จัก “K11 MUSEA” ซิลิคอนวัลเลย์ทางวัฒนธรรมของฮ่องกง
“K11 MUSEA” ห้างสรรพสินค้าและศูนย์รวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมของฮ่องกง เพชรยอดมงกุฎของ Victoria Dockside โครงการสุดตระการตาริมอ่าววิกตอเรีย จากการผสมผสานของพลังทางความคิด ศิลปะวัฒนธรรม และนวัตกรรมที่สายชิม ช้อป มูไม่ควรพลาด
ฮ่องกงประเทศที่ใคร ๆ ก็อยากไปสัมผัส โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวไทย ที่ชื่นชอบการพักผ่อน ช็อปปิ้ง รวมถึงสายมู ด้วยเช่นกัน และไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Victoria Dockside โครงการสุดตระการตา บนพื้นที่กว่า 280,000 ตารางเมตร ริมอ่าววิกตอเรีย ของ K11 Group ที่นำโดย เอเดรียน เฉิง ทายาทรุ่น 3 ของ New World Development บริษัทอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกงชั้นนำ ภายในโครงการประกอบด้วยอาคาร 5 แห่ง
เริ่มจากเพชรยอดมงกุฎอย่าง K11 MUSEA ห้างสรรพสินค้าที่ได้ชื่อว่าเป็น ซิลิคอนวัลเลย์ทางวัฒนธรรมของฮ่องกง ด้วยการปฏิวัติการออกแบบ-ตกแต่ง ผสมผสานงานศิลปะ และสถาปัตยกรรมล้ำจินตนาการมาอยู่บนตัวอาคาร เช่น Gold Ball บอลกระจกขนาดยักษ์พร้อมตาข่ายสามเหลี่ยมสีทอง ที่สามารถสร้างโปรแกรมฉายภาพเอฟเฟกต์หลากหลาย ให้แสงต่างกันไปในแต่ละมุมมองซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในฮ่องกง และสามารถใช้เป็น ป๊อปอัป สโตร์ หรืออีเวนต์ต่าง ๆ
รอบ ๆ Gold Ball ยังมี Opera Theatre ที่พาให้ผู้มาเดินใน K11 MUSEA เหมือนอยู่ในจักรวาลความสร้างสรรค์ จากผลงานระดับรางวัลการออกแบบภายในยอดเยี่ยมในเทศกาลสถาปัตยกรรมโลกปี 2020 และอีกจุดที่น่าสนใจของ K11 MUSEA คือ ทางเข้ารูปทรงเลขาคณิตจากตะวันออกกลางที่ฉลองความรุ่งเรืองของเส้นทางสายไหมยุคโบราณ รวมไปถึงโซนสีเขียวที่แทรกอยู่ในตัวอาคารที่ออกแบบโดย P Landscape บริษัทออกแบบของไทยที่มีผลงานมากมายในต่างประเทศ
ความน่าสนใจของ K11 MUSEA ยังไม่หมดแค่นั้น โดยชั้น 7 ยังมีสวนหย่อมและสนามเด็กเล่น และโซนจัดแสดงยังจัดนิทรรศการศิลปะกราฟิตี้และสตรีทอาร์ต ของศิลปินหลายคน เช่น Keith Haring, Futura, Estevan Oriol รวมไปถึง Jean-Michel Basquiat
ส่วนด้านหน้าซึ่งหันออกทะเล ยังมี Avenue of Star ที่ประดับประดาไปด้วยรอยมือของนักแสดงฮ่องกงดัง ๆ มากมาย และรูปปั้นของ 2 นักแสดงชาวฮ่องกงที่คอหนังต้องรู้จักอย่าง บรูซ ลี และ เหมย เยี่ยนฝาง
ภายในห้างฯ มีทั้งแบรนด์ระดับโลกและสตรีทแบรนด์ รวมถึงมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่ได้รวบรวมงานศิลปะทั้งจากฮ่องกงและนานาชาติมาไว้ด้วยกัน ตลอดจนจัดแสดงงานศิลป์คอลเลกชั่นพิเศษของทางห้างอย่าง “The K11 Kollection” ที่ได้ศิลปะมาสเตอร์พีซกว่า 13 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านฮ่องกงดอลลาร์เลยทีเดียว
ด้วยการออกแบบพื้นที่ในห้างทั้งหมดสิบชั้น จากการทำงานร่วมกันของสถาปนิก ศิลปิน และดีไซน์เนอร์บนเกาะฮ่องกง และทั่วโลกกว่า 100 ชีวิต จนออกมาเป็นโครงสร้างกว่า 100 แบบ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ความคิดและชีวิตประจำวัน ให้ห้างนี้เป็นแลนด์มาร์ค ที่ผสมผสานการช้อปปิ้งและวัฒนธรรมที่หลากหลายไว้อย่างลงตัว
K11 MUSEA จึงเป็น ห้างสรรพสินค้าและศูนย์รวมความหลากหลายทางวัฒนธรรม ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการจะเป็น จิตวิญญาณทางความคิดจากท้องทะเล ผ่านการผสมผสานของพลังทางความคิด วัฒนธรรม นวัตกรรม รวมถึงสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน ทำให้ K11 MUSEA กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของย่าน จิมซาจุ่ย ที่พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ การเรียนรู้และความบันเทิงให้แก่ผู้เยี่ยมชมจากทั่วทุกมุมโลก
อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ MoMA Design Store แห่งแรกในจีนแผ่นดินใหญ่ และมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็นครั้งแรกที่ MoMA Design Store ได้ร่วมกับ EDGE Design จากเกาะฮ่องกงในการออกแบบร้านค้าเพื่อให้เกิดเอกลักษณ์ร่วมกันระหว่างแบรนด์และสัญลักษณ์ของความมีชีวิตชีวาของเมืองนี้
รวมถึง ร้าน Fortnum & Mason (ฟอร์ตนัมและเมสัน) ร้านจำหน่ายชาที่บอกถึงความเป็นแก่นแท้ของอังกฤษ ที่ได้เปิดตัวที่ K11 MUSEA เป็นครั้งแรกในเอเชีย ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์ อันเป็นเอกลักษณ์ ในด้านชา ช็อคโกแลตทำมือ และตะกร้าหวาย ซึ่งแต่ละชิ้นมีส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์หลายศตวรรษ และปัจจุบันยังคงมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์จินตนาการ ในการดื่มชาที่บอกถึงความเป็นแก่นแท้ของอังกฤษ
ร้าน Camellia เป็นร้านอาหารแนวคิดใหม่ของ THE FOOD STORY ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านแรกที่สร้างสรรค์น้ำชายามบ่ายในธีมช็อกโกแลตที่หายาก และยังให้บริการอาหารตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ของคาว ไปจนถึงของหวานเลิศรส โดยจุดเด่นของร้านคือการ ใช้สีชมพูและดอกไม้เป็นธีมหลัก นอกจากนี้ยังมีพื้นที่รับประทานอาหารกึ่งส่วนตัวเพื่อให้แขกได้เพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารแบบส่วนตัวกับเพื่อนสนิทด้วย
นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียน L’Ecole, เล-กอล School of Jewelry Arts ซึ่งเป็นสถานที่เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวิธีการสร้างสรรค์จิวเวลรีในทุกขั้นตอน มีบทเรียนกว่า 32 คอร์ส ทั้งการคัดเกรดเพชรที่ต้องอาศัยสายตาและสองมือของมนุษย์ ซึ่งผู้ก่อตั้งคือ แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เพลส์ โดยมีพันธกิจสำคัญคือการแผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับศิลปะแห่งเครื่องประดับให้คนทั่วไปได้รับรู้มากที่สุดสำหรับคนรักในศาสตร์การสร้างสรรค์จิวเวลรีและอัญมณี ซึ่งปัจจุบันมีสาขาอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และฮ่องกง
แบรนด์ แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เพลส์ นั้น เป็นแบรนด์จิวเวลรี่ที่เก่าแก่กว่า 100 ปี จุดเด่นของแบรนด์อยู่ที่งานฝีมืออันประณีต ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ มาสร้างสรรค์เป็นผลงานเครื่องประดับที่สวยงาม หลายๆ ชิ้นของแบรนด์จึงมีชิ้นเดียวในโลก และมีมูลค่าที่แทบจะหาค่าไม่ได้เลยทีเดียว
และอีกจุด ที่จะพลาดไม่ได้เลยคือ Legoland Discovery Centre Hong Kong ซึ่งเป็นสนามเด็กเล่นเลโก้ในร่มแห่งแรก และใหญ่ที่สุดในฮ่องกง โดยจะแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ คือ Kingdom Quest, Duplo Farm, Merlin's Apprentice, Lego Racer: Build & Test และ Lego 4D Studio
สถานที่พักผ่อนอีกแห่งที่อยู่ในเครือของ K11 คือ โรงแรม “New World Millennium Hongkong" ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เกาลูน มองเห็นริมอ่าว Victoria /ถนนจิมซาจุ่ย และด้วยความโดดเด่นของห้องที่นี่ซึ่งส่วนใหญ่ สามารถดูวิวดี ๆ และสวยที่สุดอย่าง Victoria skyline / Hongkong skyline ได้ และอยู่ไม่ไกลจาก K11 MUSEA ซึ่งสามารถเดินไปกลับได้อย่างสบายมาก
จากสถานการณ์โควิด 19 ทำให้โรงแรมแห่งนี้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยการปรับปรุงห้องพัก อัพเกรดให้ดีมากขึ้น โดยนายจูเลียน วิปเปอร์ ผู้บริหารของโรงแรม ย้ำว่ายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากประเทศไทย เพราะถือว่าเป็นฐานลูกค้าใหญ่ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ มาฮ่องกง มากขึ้น โดยได้จัดทีมพนักงาน คอยให้บริการอย่างเต็มที่ เน้นความจริงใจกับลูกค้า และต้อนรับทุกคนอย่างอบอุ่น ให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยทุกคน ซึ่งหลังจากการเปิดประเทศ อัตราการจองโรงแรมเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะคนไทย


