posttoday

กม.ปราบโจรไซเบอร์ได้ผลตำรวจเผยอายัดเงินทันรวม1,789 ล้านบาท

12 มกราคม 2567

ตร.เปิดข้อมูลอายัดเงินได้ทันก่อนโอนให้โจรสูงขึ้น6เท่า รวม1,789 ล้านบาท หลังพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯบังคับใช้ ย้ำประชาชนยึดหลัก“ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” โทรสายด่วน1441ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2566 เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน จากการถูกหลอกลวงจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีซึ่งให้อำนาจธนาคารในการอายัดเงินชั่วคราวเป็นระยะเวลา 72 ชั่วโมงทันทีที่มีผู้เสียหายแจ้งว่าถูกหลอกลวงก่อนไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
 

โดยจากการตรวจสอบพบว่า มีสถิติการขออายัดเงินที่มีการโอนให้กลุ่มมิจฉาชีพรวม 7,496 ล้านบาท อายัดเงินได้ทัน 1,789 ล้านบาท “คิดเป็นร้อยละ 23.9” ของจำนวนเงินที่ขออายัด ซึ่งสูงกว่าเดิมถึง 6 เท่าเมื่อเทียบกับก่อนหน้าที่กม.จะมีผลบังคับใช้ซึ่งมีการอายัดเงินได้ทันเพียง 53 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 3.9ของจำนวนเงินที่ขออายัด รวม 1,346 ล้านบาท  
 

อย่างไรก็ตามแม้ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 จะช่วยให้สามารถอายัดเงินที่ผู้เสียหายโอนให้กลุ่มมิจฉาชีพได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีเงินอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถอายัดได้ทัน จึงขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังไม่หลงเชื่อสิ่งที่เห็น หรือได้ยินบนโลกออนไลน์ ตามหลัก “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ซึ่งหากได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง