ชัชชาติ ชี้! กทม. ใช้ "ของฟรีคือแสงแดด" เร่งลดคาร์บอนสู่ Net Zero
ผู้ว่าฯ ชัชชาติผลักดัน Bangkok Solar City ใช้แสงแดด "ของฟรี" สร้างพลังงานสะอาดเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และขับเคลื่อนกรุงเทพฯ สู่เมืองคาร์บอนต่ำตามเป้าหมาย
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เป็นประธานเปิดงาน "Bangkok Solar City: มหานครแห่งโซลาร์" เมื่อเวลา 13.00 น. เพื่อขับเคลื่อนกรุงเทพฯ สู่การเป็นเมืองคาร์บอนต่ำและการใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพที่กรุงเทพมหานครมีอยู่ตามธรรมชาติ คือ "ของฟรี"
ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าวว่า "กทม. มีของฟรี คือแสงแดด เราก็นำของฟรีนั้นมาใช้ประโยชน์" และเสริมว่า เราสามารถนำ "ของฟรี" นี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อีกมากมาย
กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่และศูนย์กลางด้านการคมนาคมขนส่ง การพาณิชย์ การสื่อสาร และการท่องเที่ยว ประสบปัญหาปริมาณการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยนำไปสู่วิกฤตการณ์เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Crisis)
การผลักดันกรุงเทพมหานครให้เป็นมหานครโซลาร์เซลล์ (Bangkok Solar City) โดยการส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และทำให้เมืองได้ใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของแผนแม่บทฯ และนโยบาย BMA Net Zero (การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์) ของกรุงเทพมหานคร
เครื่องมือและคู่มือเพื่อประชาชน
เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ ทางกรุงเทพมหานครจึงได้จัดทำคู่มือและพัฒนาเว็บไซต์ขึ้น แม้การติดตั้งอาจจะยุ่งยากในตอนเริ่มต้น แต่คู่มือเล่มนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการก้าวเข้าสู่มหานครแห่งโซลาร์ โดยคู่มือฉบับนี้จะเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและผู้ที่สนใจติดตั้ง Solar Rooftop รวมถึงเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตที่จะสามารถให้คำแนะนำและแนวทางการติดตั้งแบบครบวงจร (One-stop Service) ในพื้นที่
ความร่วมมือระดับนานาชาติขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงาน
การขับเคลื่อนสู่เมืองคาร์บอนต่ำครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (Deutsche Gesellschaft fur Internationale Zusammenarbeit - GIZ) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการความร่วมมือไทย - เยอรมัน ด้านพลังงาน คมนาคมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (TGC-EMC) โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุน กทม. ให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้บรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทฯ พ.ศ. 2564 - 2573
หัวใจสำคัญของโครงการ TGC-EMC คือการประยุกต์ใช้แนวทาง Sector Coupling เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการลดการปล่อยคาร์บอน แนวทางนี้เป็นการบูรณาการนวัตกรรมจากหลากหลายภาคส่วนเข้าด้วยกัน ทั้งพลังงาน การคมนาคม อุตสาหกรรม และเกษตรกรรม ซึ่งปัจจุบันทุกภาคส่วนล้วนเชื่อมโยงกับระบบโครงข่ายไฟฟ้า ดังนั้น พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างระบบพลังงานที่สะอาดและยั่งยืนยิ่งขึ้น


