“น่าน–สงขลา” ได้รับเลือกเป็น "เมืองสร้างสรรค์" UNESCO Creative Cities 2025
น่าน–สงขลา ได้รับเลือกเป็นสมาชิก UNESCO Creative Cities 2025 สะท้อนหัตถกรรมและอาหารไทยสู่เวทีโลก พร้อมตัวอย่างเมืองสร้างสรรค์ระดับนานาชาติ
KEY
POINTS
- จังหวัดน่านและสงขลาได้รับคัดเลือกจาก UNESCO ให้เป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ (Creative Cities Network) ประจำปี 2025 ซึ่งเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจของประเทศไทย
- น่านได้รับเลือกในสาขาหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (Crafts & Folk Art) จากอัตลักษณ์ "เมืองเก่าที่มีชีวิต" ที่เชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น ผ้าทอและเครื่องเงิน เข้ากับวิถีชีวิตชุมชนและธรรมชาติ
- สงขลาได้รับเลือกในสาขาอาหาร (Gastronomy) ด้วยจุดเด่นด้านวัฒนธรรมอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเกิดจากความหลากหลายของวัตถุดิบในระบบนิเวศสองทะเลและการผสมผสานของวัฒนธรรมไทย-จีน-มลายู
ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่เวทีระดับโลกอีกครั้ง เมื่อองค์การยูเนสโก (UNESCO) ประกาศผลการคัดเลือกสมาชิก เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ (UNESCO Creative Cities Network – UCCN) ประจำปี 2025 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2025 ซึ่งตรงกับ วันเมืองโลก (World Cities Day) — วันสำคัญที่ยูเนสโกใช้ในการประกาศรายชื่อเมืองจากทั่วโลกที่ใช้ “ความคิดสร้างสรรค์” และ “วัฒนธรรม” เป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ในปีนี้ ยูเนสโกได้คัดเลือกเมืองสมาชิกใหม่กว่า 50 เมืองจากทั่วโลก โดยมีสองเมืองจากประเทศไทยที่สร้างความภาคภูมิใจ ได้แก่ “จังหวัดน่าน” ซึ่งได้รับเลือกในสาขา หัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (Crafts & Folk Art) และ “จังหวัดสงขลา” ที่ได้รับคัดเลือกในสาขา อาหาร (Gastronomy) ทั้งสองเมืองสะท้อนอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่งดงามและยังมีชีวิตอยู่จริง เป็นภาพแทนของความหลากหลาย ความคิดสร้างสรรค์ และความภาคภูมิใจของคนไทยที่ก้าวไกลสู่เวทีโลก
"น่าน" เมืองเก่าที่มีชีวิต “Artisans–Community–Nature”
“น่าน” เมืองเล็กกลางหุบเขาแห่งล้านนา คือดินแดนที่หัตถศิลป์และภูมิปัญญาท้องถิ่นยังคงหายใจอยู่ในทุกมิติของชีวิต การได้รับเลือกเข้าสู่เครือข่ายยูเนสโกในสาขา “หัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน” สะท้อนแนวคิด “ปราชญ์ท้องถิ่น–ชุมชน–ธรรมชาติ (Artisans–Community–Nature)” ที่เมืองน่านยึดถือมาโดยตลอด
ส่วนงานหัตถกรรมก็ไม่ได้อยู่แค่ในพิพิธภัณฑ์ แต่ยังดำเนินอยู่ในวิถีชีวิตของผู้คน ตั้งแต่ ผ้าทอไทลื้อ ลวดลายน้ำไหลอันอ่อนช้อย เครื่องเงินชาวอิ้วเมี่ยน ที่ประณีตวิจิตร งานจักสาน ที่ผสมผสานภูมิปัญญาเก่าเข้ากับความร่วมสมัย ไปจนถึง เตาเผาโบราณบ่อสวก ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์การสร้างสรรค์ของช่างพื้นถิ่น
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง “กระซิบรักบันลือโลก” ณ วัดภูมินทร์ กลายเป็นสัญลักษณ์ศิลปะที่สะท้อนความละเมียดละไมของชาวเมืองน่าน ขณะที่ หัวเรือแข่งพญานาคแกะสลักไม้ คือภาพแทนของศรัทธาและพลังแห่งสายน้ำในวิถีชีวิตล้านนา นอกจากนี้ยังมี ย่ามเถาวัลย์ป่าของชาวมละบริ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ซึ่งยืนยันถึงการเชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติและภูมิปัญญาอย่างแท้จริง
น่านจึงเป็นมากกว่าเมืองเก่าที่อนุรักษ์อดีตไว้ หากคือ “เมืองเก่าที่มีชีวิต” (Living Old City) ที่ใช้ศิลปะและภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นพลังในการสร้างอนาคตอย่างยั่งยืน
"สงขลา" เมืองสองทะเลแห่งรสชาติและวัฒนธรรม “Gastronomy City”
“สงขลา” เมืองท่าประวัติศาสตร์ริมฝั่งอ่าวไทย ได้รับการประกาศให้เป็นสมาชิกเครือข่ายยูเนสโกในสาขา อาหาร (Gastronomy) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของภาคใต้ที่ได้รับเกียรติในด้านนี้ จุดเด่นของสงขลาคือ ภูมินิเวศอันเป็นเอกลักษณ์ เมืองเดียวในประเทศไทยที่มีทั้ง ทะเลสาบสงขลา 3 น้ำ ได้แก่ น้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม รวมทั้งทะเลฝั่งอ่าวไทย
ด้วยภูมินิเวศเช่นนี้ สงขลากลายเป็น อู่ข้าวอู่น้ำ ที่อุดมด้วยวัตถุดิบหลากหลาย ทั้งจากบกและทะเล ระบบนิเวศแบบ “โหนด–นา–เล” หมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างต้นตาล (โหนด) ท้องนา และทะเล — เป็นหัวใจของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นที่ยังคงดำรงอยู่จนถึงทุกวันนี้
อาหารสงขลาจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อันเกิดจากการผสมผสานของหลายวัฒนธรรม ทั้งไทย จีน มลายู และเปอร์เซีย ตัวอย่างเช่น ขนมจีนแกงไก่ ข้าวยำ ผัดสะตอกะปิกุ้งแห้ง ปลาทูย่างน้ำบูดู และขนมจากตาลโตนด ซึ่งสะท้อนรสชาติที่ซับซ้อนและประวัติศาสตร์ทางสังคมในทุกคำ
นอกจากนี้ เมืองสงขลายังมีชีวิตชีวาด้วยกิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น เทศกาลลากพระ งานสารทเดือนสิบ และ ตลาดเก่าถนนนางงาม ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารพื้นถิ่นและงานหัตถกรรม ทำให้เมืองนี้ไม่เพียงเล่าเรื่องผ่าน “รสชาติ” แต่ยังเล่าผ่าน “ผู้คนและวัฒนธรรม” ที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน
ตัวอย่างเมืองอื่นในโลกที่ได้รับคัดเลือกปี 2025
การประกาศรายชื่อเมืองสร้างสรรค์ประจำปี 2025 ของยูเนสโก รวมเมืองจากทั่วโลกกว่า 50 เมือง ครอบคลุม 7 สาขาสร้างสรรค์ ได้แก่ วรรณกรรม ดนตรี ภาพยนตร์ ศิลปะพื้นบ้าน อาหาร สื่อออกแบบ และศิลปะสื่อดิจิทัล โดยมีเมืองเด่น ๆ เช่น
โฮจิมินห์ซิตี (Ho Chi Minh City), เวียดนาม – ได้รับเลือกในสาขา ภาพยนตร์ (Film)
ลัคเนา (Lucknow), อินเดีย – ได้รับเลือกในสาขา อาหาร (Gastronomy)
คาซาแบงก์กา (Casablanca), โมร็อกโก – ได้รับเลือกในสาขา ออกแบบ (Design)
กวาดาลาฮารา (Guadalajara), เม็กซิโก – ได้รับเลือกในสาขา ดนตรี (Music)
โบโลญญา (Bologna), อิตาลี – ได้รับเลือกในสาขา สื่อและศิลปะดิจิทัล (Media Arts)
เดอร์บัน (Durban), แอฟริกาใต้ – ได้รับเลือกในสาขา วรรณกรรม (Literature)
เมืองเหล่านี้ล้วนมีแนวทางเฉพาะของตนในการใช้ “ความคิดสร้างสรรค์” เพื่อพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน เช่นเดียวกับน่านและสงขลาที่นำเสนอเอกลักษณ์ของไทยในเวทีเดียวกันกับเมืองสำคัญระดับโลก


