BTS ปรับค่าโดยสารใหม่ 17–45 บาท กทม.หวังลดขาดทุนปีละ 6 พันล้าน
1 พ.ย.นี้ บีทีเอสเริ่มเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายตามระยะทาง 17–45 บาท หลังเดิม 15 บาทตลอดสาย กทม.ชี้จำเป็นต้องปรับโครงสร้าง หวังลดภาระขาดทุนกว่า 6 พันล้านต่อปี
KEY
POINTS
- เริ่มเก็บค่าโดยสารใหม่สายสีเขียว 3 เส้นทาง ตั้งแต่ 1 พ.ย.68
- อัตราใหม่ 17–45 บาท นักเรียน–ผู้สูงอายุได้ส่วนลดพิเศษ
- กทม.เผยขาดทุนปีละ 6 พันล้านจากการเก็บ 15 บาทตลอดสาย ต้องปรับให้สะท้อนต้นทุนจริง
วันนี้ (1 พ.ย. 2568) เป็นวันแรกของการปรับราคาค่าโดยสารใหม่ของรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนต่อขยายสายสีเขียว ตามประกาศของกรุงเทพมหานคร (กทม.) หลังจากก่อนหน้านี้จัดเก็บในอัตรา “15 บาทตลอดสาย” มายาวนานกว่า 5 ปี โดยอัตราใหม่จะเปลี่ยนเป็น “คิดตามระยะทาง” เพื่อให้สะท้อนต้นทุนการเดินรถที่แท้จริง
สำหรับเส้นทางที่มีการปรับอัตราค่าโดยสารใหม่ ครอบคลุม 3 ช่วงหลัก ได้แก่
- ช่วงสถานีหมอชิต (N8) – สถานีคูคต (N24)
- ช่วงสถานีอ่อนนุช (E9) – สถานีเคหะฯ (E23)
- ช่วงสถานีวงเวียนใหญ่ (S8) – สถานีบางหว้า (S12)
โดยอัตราค่าโดยสารใหม่กำหนดดังนี้
- บัตรโดยสารเที่ยวเดียว 17–45 บาท
- บัตรแรบบิทบุคคลทั่วไป 17–45 บาท
- บัตรแรบบิทนักเรียน/นักศึกษา 12–32 บาท (ส่วนลด 30%)
- บัตรแรบบิทผู้สูงอายุ 9–23 บาท (ส่วนลด 50%)
- กรณีเชื่อมต่อกับสถานีหลัก คิดค่าโดยสารรวม แต่ไม่เกิน 65 บาทต่อเที่ยว
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กทม.ต้องรับภาระขาดทุนจากการเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายในอัตรา 15 บาทตลอดสาย โดยมีค่าใช้จ่ายในการเดินรถปีละกว่า 8,000 ล้านบาท แต่จัดเก็บรายได้เพียงประมาณ 2,000 ล้านบาท ทำให้ กทม.ขาดทุนสุทธิกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี
แม้อัตราค่าโดยสารใหม่จะไม่เกี่ยวข้องกับการชำระหนี้ที่ กทม.ค้างกับเอกชนคู่สัญญา แต่จำเป็นต้องปรับโครงสร้างให้สอดคล้องกับต้นทุนจริง เพื่อไม่ให้ต้องใช้งบประมาณภาษีประชาชนมาชดเชย
โดยนายชัชชาติระบุว่า การปรับอัตราครั้งนี้ไม่ได้เป็นการขึ้นราคาทั้งหมด เพราะบางเส้นทางระยะสั้นในเขตเมืองจะมีค่าโดยสารลดลง ขณะที่ผู้โดยสารที่เดินทางระยะไกลจะเสียเพิ่มขึ้นตามระยะทาง
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวย้ำว่า การปรับค่าโดยสารครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความยั่งยืนในการบริหารจัดการระบบรถไฟฟ้า และลดภาระการขาดทุนระยะยาวของเมือง พร้อมยืนยันว่า กทม.ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลกลุ่มผู้ใช้บริการเปราะบาง เช่น นักเรียน นักศึกษา และผู้สูงอายุ ด้วยมาตรการส่วนลดต่อเนื่อง


