SCG ล้ำใช้ AI - Robotics และ Deep Tech ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว

ในปีนี้ Forbes Global CEO Conference 2025: THE WORLD PIVOTS ที่จัดขึ้น ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้แนวคิด “Sustainable Philanthropy” ได้กลายเป็นเวทีสำคัญที่ผู้นำองค์กรระดับโลกมารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการนำพาธุรกิจฝ่าความท้าทายของโลกยุคใหม่ พร้อมยกระดับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การเติบโต

 

หนึ่งในไฮไลต์ของเวทีครั้งนี้ คือการนำเสนอแนวคิดโดย นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี (SCG) ซึ่งได้ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ภายใต้แนวคิด “Inclusive Green Growth” กลยุทธ์ที่ผสมผสาน “การเติบโตทางเศรษฐกิจ” เข้ากับ “ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม” โดยมีเทคโนโลยี นวัตกรรม และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นเครื่องมือหลักในการยกระดับศักยภาพธุรกิจและสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง

 

 

“การเติบโตอย่างยั่งยืนไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากองค์กรเพียงลำพัง แต่ต้องเป็นการเติบโตที่ ‘ครอบคลุม’ ทั้งระบบ ตั้งแต่ผู้ผลิตถึงผู้บริโภค และต้องใช้เทคโนโลยีเป็นตัวเชื่อมโยงเพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อทั้งเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม” — นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี 

 

AI, Robotics และ Deep Tech: พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว

SCG มองว่า “เทคโนโลยี” ไม่ใช่เพียงเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ แต่คือหัวใจของการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Economy) บริษัทจึงนำเทคโนโลยีอย่าง AI, Robotics และ Deep Tech เข้ามาประยุกต์ใช้ในทุกมิติ ตั้งแต่การบริหารจัดการทรัพยากร การผลิต ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Analytics)

 

หนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนชัด คือการพัฒนา Low-Carbon Cement ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมยังคงประสิทธิภาพด้านความแข็งแรงและความทนทาน ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับวัสดุเพื่อความยั่งยืน

 

สร้าง “Impact Chain” ผ่านความร่วมมือทั้งระบบ

อีกหนึ่งแกนสำคัญของแนวคิด Inclusive Green Growth คือ “การเติบโตที่แบ่งปันผลลัพธ์เชิงบวกอย่างทั่วถึง” SCG จึงมุ่งสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ ซัพพลายเชน และสตาร์ทอัพเทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบนิเวศการเติบโตที่เชื่อมโยงกันเป็น “Impact Chain” เครือข่ายแห่งผลกระทบเชิงบวกที่เกิดจากการใช้ข้อมูล เทคโนโลยี และนวัตกรรมร่วมกัน

 

ด้วยระบบข้อมูลที่แม่นยำและการวิเคราะห์ด้วย AI ทำให้ทุกภาคส่วนสามารถมองเห็นผลลัพธ์แบบเรียลไทม์ ลดความสูญเสียในกระบวนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพในระดับองค์กรและอุตสาหกรรม ส่งผลให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อย่างเป็นรูปธรรม

 

Inclusive Growth การเติบโตที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

แนวคิด Inclusive Green Growth ของ SCG ไม่ได้หมายถึงเพียงการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังรวมถึง “การเติบโตที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม” ตั้งแต่เกษตรกร ชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย ไปจนถึงพันธมิตรระดับโลก เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียวเป็นการเดินหน้าร่วมกันของทั้งสังคม

 

SCG จึงเดินหน้าโครงการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมแก่ชุมชน ส่งเสริมการใช้วัสดุรีไซเคิล และสร้างพื้นที่ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในห่วงโซ่การผลิตที่ยั่งยืน เพื่อให้ “การเติบโต” และ “ความยั่งยืน” เดินไปพร้อมกันอย่างแท้จริง

 

 

สู่อนาคตที่ยั่งยืน แข่งขันได้ และเป็นมิตรต่อโลก

บทบาทของ SCG บนเวที Forbes Global CEO Conference 2025 ไม่ได้เป็นเพียงการแบ่งปันประสบการณ์ขององค์กรไทยที่มีรากฐานยาวนานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนวิสัยทัศน์ขององค์กรที่กล้าปรับตัวและมองไกลกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้น

 

ภายใต้แนวคิด Inclusive Green Growth SCG กำลังพิสูจน์ว่า “เทคโนโลยี” และ “ความยั่งยืน” ไม่ได้เป็นสองสิ่งที่แยกจากกัน แต่สามารถหลอมรวมเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า อนาคตที่เศรษฐกิจเติบโต แข่งขันได้ในระดับโลก และยังส่งต่อสิ่งแวดล้อมที่สมดุลให้คนรุ่นต่อไป