posttoday

เปิดตัว "สถาปัตยกรรมอ้างอิงใหม่" ยกระดับดาต้าเซ็นเตอร์ในยุค AI อัจฉริยะ!

08 ตุลาคม 2568

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัวสถาปัตยกรรมอ้างอิงใหม่ ระบบจัดการพลังงาน–ระบายความร้อนด้วยของเหลว เข้ากับระบบควบคุม AI ยกระดับ Data Center ให้พร้อมรับมืออนาคต!

KEY

POINTS

  • "สถาปัตยกรรมอ้างอิงใหม่" คือแบบแผนโครงสร้างพื้นฐานที่ออกแบบโดย Schneider Electric และ NVIDIA เพื่อแก้ปัญหาดาต้าเซ็นเตอร์แบบดั้งเดิมที่ไม่สามารถรองรับพลังประมวลผลและความร้อนมหาศาลจากภาระงาน AI ได้ โดยใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว (liquid cooling) เป็นหัวใจสำคัญ
  • จุดเด่นคือการเป็นเฟรมเวิร์กแรกที่ผสานโลกของเทคโนโลยีปฏิบัติการ (OT) เช่น ระบบไฟฟ้าและการระบายความร้อน เข้ากับโลกของเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เช่น เซิร์ฟเวอร์และ AI Cluster ทำให้สามารถบริหารจัดการพลังงาน ความร้อน และประสิทธิภาพได้แบบเรียลไทม์ในระบบเดียว
  • เป้าหมายหลักคือเพื่อลดความเสี่ยง ประหยัดเวลาในการออกแบบและติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI ช่วยให้องค์กรสามารถปรับใช้และขยายระบบได้อย่างรวดเร็ว มีเสถียรภาพ และตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน

สถาปัตยกรรมอ้างอิงสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI: ก้าวใหม่ของศูนย์ข้อมูลยุคปัญญาประดิษฐ์

 

การปฏิวัติของเทคโนโลยี AI ได้ทำให้ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกต้องเร่งปรับตัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิมที่ออกแบบมารองรับงานทั่วไป อาจไม่สามารถตอบสนองภาระงานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงระดับ GPU หลายร้อยตัวพร้อมกันได้อีกต่อไป การใช้พลังงานและการระบายความร้อนกลายเป็นความท้าทายใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ในยุค AI และนี่คือจุดที่ “สถาปัตยกรรมอ้างอิง (Reference Architecture)” เข้ามามีบทบาทสำคัญ

 

ล่าสุด Schneider Electric ได้ประกาศเปิดตัวสถาปัตยกรรมอ้างอิงรุ่นใหม่สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI ซึ่งถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญกับ NVIDIA โดยผสานเทคโนโลยีจัดการพลังงานและระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว (liquid cooling) เข้ากับซอฟต์แวร์ NVIDIA Mission Control อย่างไร้รอยต่อ

 

สถาปัตยกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงอย่าง NVIDIA GB300 NVL72 ที่มีความหนาแน่นของพลังงานสูงถึง 142 กิโลวัตต์ต่อแร็ค นับเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับการประมวลผล AI ระดับองค์กร

 

เปิดตัว "สถาปัตยกรรมอ้างอิงใหม่" ยกระดับดาต้าเซ็นเตอร์ในยุค AI อัจฉริยะ!

 

สิ่งที่ทำให้สถาปัตยกรรมใหม่นี้โดดเด่น คือการเป็น “เฟรมเวิร์กแรกของอุตสาหกรรม” ที่รวมการจัดการพลังงานและการระบายความร้อนเข้ากับการควบคุมระบบ AI ได้อย่างครบวงจร ระบบนี้สามารถทำงานแบบ Plug-and-Play โดยใช้โปรโตคอล MQTT ในการเชื่อมโยงข้อมูลจากโลก OT (Operational Technology เช่น ระบบไฟฟ้า เครื่องทำความเย็น และอุปกรณ์ภาคสนาม) เข้ากับโลก IT (Information Technology เช่น เซิร์ฟเวอร์ และ AI Cluster) ทำให้ผู้ดูแลสามารถติดตาม วิเคราะห์ และปรับแต่งการทำงานของระบบทั้งหมดได้แบบเรียลไทม์ ทั้งในด้านพลังงาน ความร้อน และประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ถือเป็นการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างสองระบบที่เคยแยกกันอย่างชัดเจนให้กลายเป็นระบบอัจฉริยะที่สื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สถาปัตยกรรมอ้างอิงคืออะไร และทำไมถึงสำคัญ

“สถาปัตยกรรมอ้างอิง” หรือ Reference Architecture เปรียบเสมือนแบบแผนหรือกรอบแนวทางที่ถูกออกแบบและทดสอบไว้ล่วงหน้า เพื่อให้ผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสามารถนำไปปรับใช้ได้โดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ ในบริบทของ AI Infrastructure สถาปัตยกรรมอ้างอิงจะรวมองค์ประกอบหลักอย่าง พลังงาน การระบายความร้อน เครือข่าย และซอฟต์แวร์จัดการระบบ เข้าด้วยกันในรูปแบบที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าใช้งานได้จริง สิ่งนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการออกแบบผิดพลาด ประหยัดเวลาในการติดตั้ง และทำให้ระบบสามารถปรับขยายได้ง่ายเมื่อปริมาณงาน AI เติบโตขึ้น

 

ในอดีต ดาต้าเซ็นเตอร์มักใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ (Air Cooling) แต่ในยุคของ AI และ HPC (High Performance Computing) ที่แร็คเดียวมีความหนาแน่นด้านพลังงานเกิน 100 กิโลวัตต์ การระบายความร้อนด้วยของเหลวจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น เทคโนโลยีใหม่นี้ไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายเทความร้อนเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการใช้พลังงานของระบบทำความเย็นโดยรวม เมื่อผสานกับระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะของ Schneider Electric และซอฟต์แวร์ AI ของ NVIDIA จึงเกิดเป็นระบบที่สามารถบริหารพลังงานได้อย่างชาญฉลาดตามภาระงานแบบเรียลไทม์

 

การออกแบบเพื่อโลกแห่งมาตรฐานและความยั่งยืน

อีกหนึ่งจุดเด่นของสถาปัตยกรรมอ้างอิงชุดนี้คือการรองรับมาตรฐานสากลทั้ง ANSI และ IEC ซึ่งทำให้สามารถนำไปปรับใช้ได้ในหลายประเทศทั่วโลก พร้อมทั้งรองรับการตรวจสอบด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมตามแนวทาง ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) นอกจากนี้ Schneider Electric ยังได้รวมเทคโนโลยีจำลองแบบ (Digital Twin) เข้าไว้ในกระบวนการออกแบบ ผ่านซอฟต์แวร์อย่าง ETAP และ EcoStruxure IT Design CFD เพื่อให้ผู้ดูแลสามารถจำลองสภาวะพลังงานและความร้อนก่อนติดตั้งจริง ช่วยปรับแต่งโครงสร้างพื้นฐานให้เหมาะสมที่สุดตั้งแต่ต้น

 

เมื่อพลังงานและข้อมูลหลอมรวมกัน

หัวใจสำคัญของสถาปัตยกรรมอ้างอิงนี้คือการ “เชื่อมโยงโลกของพลังงานเข้ากับโลกของข้อมูล” เพราะในยุค AI ดาต้าเซ็นเตอร์ไม่ได้เป็นเพียงที่เก็บข้อมูลอีกต่อไป แต่เป็นโรงงานแห่งการประมวลผลที่ต้องใช้พลังงานมหาศาลอย่างมีประสิทธิภาพ การที่ระบบสามารถบริหารพลังงาน ตรวจสอบภาระงาน และปรับสมดุลระหว่างความร้อนและประสิทธิภาพได้โดยอัตโนมัติ ถือเป็นการยกระดับแนวคิดของ Data Center ให้กลายเป็น “AI-Ready Infrastructure” อย่างแท้จริง

 

การพัฒนาสถาปัตยกรรมอ้างอิงเช่นนี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเร่งการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้เร็วขึ้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานระยะยาว เพิ่มเสถียรภาพของระบบ และตอบโจทย์ความยั่งยืนที่โลกกำลังให้ความสำคัญ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า การออกแบบสถาปัตยกรรมทางเทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด คือพื้นฐานของอนาคตแห่ง AI ที่ทั้งทรงพลังและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ข่าวล่าสุด

LIVE ถ่ายทอดสด วอลเลย์บอลหญิงซีเกมส์ ไทย พบ อินโดนิเซีย วันนี้