posttoday

ปิดประตูกาสิโนไทย กมธ.สว.สับเละร่างเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ฯ ดัน Wellness Complex

22 กันยายน 2568

กมธ.สว.ฟันธงร่าง พ.ร.บ. Entertainment Complex ล้มเหลวทุกมิติ ชี้กาสิโนไม่สร้างเศรษฐกิจ เสี่ยงสังคมพัง เสนอทางออกใหม่ด้วย Wellness Complex

KEY

POINTS

  • คณะกรรมาธิการวิสามัญวุฒิสภา (กมธ.สว.) มีมติไม่เห็นชอบกับร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนเป็นหัวใจหลัก โดยชี้ว่าเป็นนโยบายที่ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ไม่มีหลักฐานรองรับและเต็มไปด้วยความเสี่ยงรอบด้าน
  • กมธ.สว. ได้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบเชิงลบของกาสิโนใน 4 มิติสำคัญ ได้แก่ เศรษฐกิจที่ไม่ยั่งยืน, ปัญหาสังคมและสุขภาพจิต, การขัดต่อหลักศีลธรรมและวัฒนธรรม, และประเด็นด้านกฎหมายที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ
  • แทนที่จะเป็นกาสิโน กมธ.สว. ได้เสนอทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าคือการผลักดัน "Wellness Complex" หรือศูนย์สุขภาพและการแพทย์ครบวงจร ซึ่งสอดคล้องกับจุดแข็งของประเทศไทยและสามารถสร้างรายได้โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาสังคม

การประชุมวุฒิสภาในวันอังคารที่ 23 กันยายน 2568 มีวาระสำคัญให้จับตา คือการพิจารณารายงานการศึกษาเรื่อง “การเปิดสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน” ซึ่งจัดทำโดยคณะกรรมาธิการวิสามัญวุฒิสภา นำโดย นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย รายงานนี้ได้ส่งมอบต่อประธานวุฒิสภาเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมข้อสรุปชัดเจนว่า ไม่เห็นชอบกับนโยบายการผลักดัน Entertainment Complex ที่มี “กาสิโน” เป็นหัวใจหลัก เพราะตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ไร้หลักฐานรองรับและเต็มไปด้วยความเสี่ยง

 

การผลักดันแบบเร่งรีบของรัฐบาล

 

เรื่องนี้เริ่มต้นจากรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ผลักดันร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … เป็น “เรื่องด่วน” โดยอ้างว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว สร้าง “Man-Made Destination” ที่มีคาสิโนเป็นจุดขายหลัก ดึงดูดการลงทุนขนาดใหญ่และแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย

 

แต่การเร่งผลักดันโดยขาดคำชี้แจงที่รอบด้าน กลับสร้างข้อกังขาในสังคม โดยเฉพาะผลกระทบต่อศีลธรรม สังคม และสุขภาพที่รัฐบาลยังไม่ตอบชัดเจน

 

บทบาทของ กมธ.วิสามัญวุฒิสภา

 

ด้วยความอ่อนไหวของเรื่องนี้ วุฒิสภาจึงตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 35 คน เมื่อ 8 เมษายน 2568 ศึกษาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ กฎหมาย และสังคมอย่างละเอียด ใช้เวลาศึกษา 180 วัน มีทั้งอนุกรรมาธิการย่อยและการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลาย เช่น นักวิชาการ หน่วยงานรัฐ องค์กรศาสนา อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตลอดจนบริษัทเกมมิ่งต่างชาติ

 

ผลลัพธ์คือรายงานฉบับใหญ่ที่สะท้อนมุมมองรอบด้าน พร้อมคำวินิจฉัยหนักแน่นว่า “กาสิโนไม่ใช่คำตอบของประเทศไทย

 

ความล้มเหลว 4 มิติของกาสิโน

1. เศรษฐกิจ – เงินโอน ไม่ใช่การสร้างมูลค่าเพิ่ม

การพนันเป็นเพียงการโอนเงินจากคนหนึ่งสู่อีกคน ไม่สร้าง GDP

ธุรกิจกาสิโนโลกกำลังเป็น Sunset Industry ถูกแทนที่ด้วยออนไลน์

รัฐบาลคาดรายได้ภาษีกว่า 50,000 ล้านบาท/ปี จากสมมติฐานที่ไม่จริง เช่น การคาดว่าคนไทยเล่นถึง 21 ล้านครั้ง/ปี ทั้งที่ร่างกฎหมายกำหนดคุณสมบัติผู้เล่นสูงจนมีผู้เข้าเกณฑ์จริงไม่ถึงหมื่นคน

ความเสี่ยงด้านการเมืองระหว่างประเทศ หากจีนประกาศ “บัญชีดำ” ประเทศที่เปิดบ่อน

ค่าเสียโอกาสมหาศาล หากนำพื้นที่มูลค่าสูง เช่น คลองเตย ไปทำกิจการที่มีความเสี่ยง

 

2. สังคมและสุขภาพ – การพนันคือโรคเสพติด

WHO และ APA จัดการติดพนันเป็น Behavioral Addiction

การรักษาซับซ้อน หายขาดได้เพียงครึ่งหนึ่ง ภาระตกที่ระบบสาธารณสุข

กาสิโนเสี่ยงเป็นแหล่งฟอกเงินและอาชญากรรมข้ามชาติ

 

3. ศีลธรรมและวัฒนธรรม – ขัดกับทุกศาสนา

พุทธ: การพนันคืออบายมุข

อิสลาม: ถือว่า ฮะรอม

คริสต์–ฮินดู: มองว่าเป็นกิจกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยความโลภ

การทำให้บ่อนถูกกฎหมายเท่ากับบ่อนทำลายศีลธรรมและค่านิยมเยาวชน

 

4. กฎหมายและธรรมาภิบาล – ขัดรัฐธรรมนูญและรวมศูนย์อำนาจ

กฎหมายคาสิโนขัดกับหลักนิติธรรมและศีลธรรมอันดีของประชาชน

ร่างกฎหมายให้อำนาจคณะกรรมการที่ซ้อนทับ ครม. เกือบทั้งหมด อาจนำไปสู่การใช้อำนาจเกินขอบเขต

ไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และหลักเศรษฐกิจพอเพียง

 

ทางออก Wellness Complex แทนกาสิโน

กมธ.เสนอโมเดลที่ยั่งยืนกว่า คือ “Wellness Complex” ศูนย์สุขภาพและการแพทย์ครบวงจร ที่เป็น Sunrise Sector สอดคล้องกับจุดแข็งไทยด้านการแพทย์และการดูแลผู้สูงอายุ สามารถสร้างรายได้จาก “เงินสีขาว” โปร่งใส ไม่สร้างปัญหาสังคม และยังเสริมภาพลักษณ์ประเทศ

 

คำแนะนำต่อวุฒิสภาและรัฐบาล

คณะกรรมาธิการวิสามัญสรุปชัดว่า “ไม่ควรสนับสนุนกาสิโนในประเทศไทย” พร้อมเสนอแนวทางดังนี้

1. ทบทวนร่างกฎหมาย ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรม

2. ไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. หากรัฐบาลยังเดินหน้าโดยไม่แก้ไขข้อกังวล

3. ทำประชามติ ให้ประชาชนร่วมตัดสินใจ เพราะโพลชี้ว่า 61.6% ของประชาชนเห็นด้วยกับการใช้ประชามติในประเด็นนี้

 

สรุป
รายงานของ กมธ.วุฒิสภาฉบับนี้คือการ “ปิดประตูกาสิโน” ในไทยอย่างเป็นทางการ เหตุผลชัดเจนทั้งเศรษฐกิจที่ไม่ยั่งยืน สังคมที่เสี่ยงเจ็บป่วย อาชญากรรมที่จะตามมา ศีลธรรมที่ถูกบั่นทอน และกฎหมายที่บิดเบือนอำนาจ พร้อมกันนั้นยังเปิดทางเลือกใหม่ที่เข้ากับบริบทไทยมากกว่า คือ Wellness Complex ที่อาจกลายเป็นอนาคตใหม่ของเศรษฐกิจไทยโดยไม่แลกด้วยความเสี่ยงมหาศาล

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันอาทิตย์ที่ 14 ธ.ค. 68