กลยุทธ์ ‘สิงคโปร์’ ทำไมดึง ‘ศิลปินระดับโลก’ มาจัดคอนเสิร์ตในประเทศได้?
แจงกลยุทธ์ของ ‘สิงคโปร์’ ทำไมถึงดึง ‘ศิลปินระดับโลก’ มาจัดคอนเสิร์ตในประเทศแบบผูกขาดระดับภูมิภาคได้สำเร็จ!
KEY
POINTS
- ถอดกลยุทธ์ทำไม 'สิงคโปร์' สามารถดึงดูด 'คอนเสิร์ตระดับโลก' มาจัดที่ประเทศตนเองได้สำเร็จ
- สิงคโปร์กำหนดนโยบายและหน่วยงานภาครัฐ (Singapore Tourism Board) ที่ชัดเจนในการผลักดันประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางความบันเทิงระดับโลก พร้อมอำนวยความสะดวกและให้เงินทุนสนับสนุน
- ลงทุนความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ทั้งสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่ออกแบบเพื่อรองรับคอนเสิร์ตโดยเฉพาะ ระบบคมนาคมที่สะดวกสบาย และโรงแรมระดับโลก
- หันมามองประเทศไทย ภาคเอกชนขยับไปถึงไหนในสมการธุรกิจนี้
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ‘สิงคโปร์’ สามารถจัดงานคอนเสิร์ตระดับโลก ที่กลายเป็นกระแสดึงมวลชนในภูมิภาคเข้าไปในประเทศได้อย่างมหาศาล
เริ่มตั้งแต่ ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ ที่จัด Eras Tour ในเดือนมีนาคม 2024 และ Coldplay ในปีเดียวกัน สามารถเพิ่ม GDP ของสิงคโปร์ในไตรมาสแรกขึ้นเป็น 2.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
เทย์เลอร์ สวิฟต์ คอนเสิร์ตเดียวสามารถสร้างมูลค่าการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวได้สูงสุดถึง 1.3 หมื่นล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาชมคอนเสิร์ต และอัตราการเข้าพักโรงแรมเพิ่มขึ้นสูงถึง 30% โดยเฉพาาะในโรงแรมอย่าง Marina Bay Sands ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Entertainment Complex เรือธงของสิงคโปร์
ในขณะที่ปีต่อมาคอนเสิร์ต Lady Gaga ในชื่อ Mayhem Tour ในเดือนพฤษภาคม 2025 สร้างยอดจองโรงแรมพุ่งสูงถึง 202% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งกลุ่มผู้สนใจเข้าร่วมคอนเสิร์ตมาจากหลากหลายแห่งทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในอาเซียน หรือเอเชียเท่านั้น
กลยุทธ์ของสิงคโปร์ ทำยังไงได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่!
อย่างที่รู้กันว่า คอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกนั้น การปักหลักที่ไหนเป็นสิ่งที่ถูกเลือกจนถึงที่สุด! และมักจะมาจัดในเอเชียแค่ไม่กี่ที่และไม่กี่รอบ อย่างคอนเสิร์ตของ Lady Gaga ในปี 2025 เลือกมาจัดในเอเชียเพียง 2 แห่ง คือสิงคโปร์ และญี่ปุ่นเท่านั้น!
สำหรับสิงคโปร์ กลยุทธ์ที่สำคัญที่สามารถดึงดูดคอนเสิร์ตระดับโลกนี้ได้มาจากหลายปัจจัย ได้แก่
ดีลพิเศษผูกขาดในระดับภูมิภาค ตัวอย่างที่ชัดเจนคือคอนเสิร์ตของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ Eras Tour ในปี 2024 ที่สิงคโปร์ทำสัญญา Exclusive จัดคอนเสิร์ตเพียงประเทศเดียวในอาเซียน และมีรายงานว่ารัฐบาลสิงคโปร์ให้เงินสนับสนุนโดยตรงเพื่อแลกกับสิทธิพิเศษนี้! ซึ่งก็สำเร็จเพราะกรณีของคอนเสิร์ตเทย์เลอร์ เป็นผู้ชมที่มาจากต่างประเทศกว่า 70%
อีกประเด็นที่สำคัญคือ สิ่งที่เกิดขึ้นตอกย้ำภาพลักษณ์ของสิงคโปร์ในทันที ในฐานะ ‘Global Entertainment Hub’ ของภูมิภาค เนื่องจากรัฐบาลสิงคโปร์มีนโยบายที่ชัดเจนที่จะผลักดันให้ประเทศเป็นแหล่งอีเวนต์บันเทิงระดับโลก เพื่อดันมูลค่าเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พร้อมกับการจัดตั้งหน่วยงาน Singapore Tourism Board (STB) เพื่อดูแลและดึงศิลปินและการจัดงานระดับนานาชาติเข้ามาโดยเฉพาะ ซึ่งหน่วยงาานดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นทุนสนับสนุนและลดขั้นตอนกฎระเบียบต่างๆ อีกทั้งยังเสนอระบบบริการแบบเบ็ดเสร็จ One-Stop Service เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้จัดงานต่างชาติที่เดียวในทุกเรื่อง
ที่สำคัญคือ โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมที่สุดในอาเซียน สิงคโปร์ลงทุนกับสนามกีฬาแห่งชาติความจุ 55,000 ที่นั่งและสนามกีฬาแบบอินดอร์อีก 12,000 ที่นั่ง ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานคอนเสิร์ตโดยเฉพาะ รวมไปถึงสนามบิน และโรงแรมระดับโลก รวมไปถึงระบบคมนาคมเชื่อมต่อที่ดีเยี่ยมและเดินทางสะดวกจากสนามบินมาถึงที่จัดเลย!
สำรวจศักยภาพประเทศไทยในวันนี้!
จากแต่เดิมที่คอนเสิร์ตในประเทศไทยจะจัดในพื้นที่หลักๆ อย่าง Impact Arena เมืองทองธานี ซึ่งมีความจุอยู่ราว 15,000 คน ในขณะที่คอนเสิร์ตใหญ่ๆ จะจัดที่ราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งรองรับความจุได้ราว 50,000 คน วันนี้ได้เห็นภาคเอกชนเดินหน้าเต็มสูบกับการพัฒนา Entertainment Hub ของประเทศมากขึ้น
สองโครงการใหญ่ที่น่าจับตามอง ได้แก่ โครงการของ ‘อิมแพ็ค เมืองทองธานี’ ที่เตรียมพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ริมทะเลสาบเมืองทองธานี โดยลงทุนกับโรงแรมแห่งใหม่ 2 แบรนด์ดังราว 3,000 ล้านบาท หรือจะทำให้มีโรงแรมเพิ่มขึ้นในแถบนี้กว่า 5,000 ห้อง และยังมองการลงทุน ‘ชอปปิ้ มอลล์’ ‘สวนน้ำ’ แห่งใหม่อีกด้วย
นอกจากนี้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าหาก 'ธันเดอร์ โดม สเตเดียม' ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กทท.) หมดสัญญาเช่า บริษัทมีแผนจะรีโนเวตให้เป็น 'เอาต์ดอร์ สเตเดียม' (Outdoor Stadium) ที่สามารถรองรับการจัดอีเวนต์และคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ความจุกว่า 45,000 คน
แผนพัฒนาดังกล่าวนี้มาพร้อมกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายไปที่เมืองทองธานี และทะเลสาบเมืองทอง ซึ่งเปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว
ในขณะเดียวกัน ข้ามฝั่งมายัง ‘บางนา’ ค่ายเดอะมอลล์ ลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาทเปิดตัว 'แบงค็อก อารีน่า' ซึ่งตั้งตนเป็น Entertainment Hub แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ เช่นกัน ซึ่งแบงค็อก อารีน่าจะเป็นอารีน่า สามารถรองรับผู้ชมได้ถึง 18,000 ที่นั่ง ออกแบบมาเพื่อรองรับการจัดงานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งคอนเสิร์ต งานกีฬา และอีเวนต์ขนาดใหญ่ โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในปี 2571
......
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับแผนพัฒนาของสิงคโปร์ จะเห็นว่าประเทศไทยขับเคลื่อนด้วยนโยบายและการลงทุนของภาคเอกชน แตกต่างจากสิงคโปร์ที่จัดตั้งหน่วยงานดูแลชัดเจน มีงบประมาณลงทุนและส่งเสริมอย่างชัดเจน โดยมองว่าคอนเสิร์ตระดับโลกนี้เป็นส่วนรายได้ของ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และสิงคโปร์ก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า 'คอนเสิร์ตระดับโลก' สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศได้จริง.


