posttoday

เปิดวิสัยทัศน์ “ชูกิจ ลิมปิจำนงค์” แห่ง สวทช.ชู AI ยกระดับการศึกษา พัฒนาเมือง

27 สิงหาคม 2568

“ชูกิจ ลิมปิจำนงค์” ผอ.สวทช. วาระ 2 เปิดวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนเมืองด้วยนวัตกรรม ชู AI ยกระดับการศึกษา- หนุนการแพทย์แม่นยำ มุ่งสร้างเกษตรอัจฉริยะ –อุตสาหกรรม 4.0

“ชูกิจ ลิมปิจำนงค์” ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานในวาระ 2 ว่า สวทช. จะรับเอาโจทย์ประเทศจากผู้ที่มีปัญหาจริง และนักวิจัยรวมพลังทำจริง สวทช. จับมือกับกระทรวงต่าง ๆ  ทำเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ที่มีหน้าที่บริการประชาชนทำได้ดีขึ้น อาทิ

ด้านการศึกษา สวทช. จับมือกระทรวงศึกษาธิการ ขับเคลื่อนการใช้ AI ยกระดับการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำด้านการเรียนรู้ ผ่านแพลตฟอร์ม LEAD Education ซึ่งเป็นเทคโนโลยีด้านการศึกษา (EdTech) ที่จะเข้ามาแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการเรียนรู้โดยตรง โดยระบบจะใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคน ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากแพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้ครูสามารถเข้าไปช่วยเหลือและพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างตรงจุดและทันท่วงที รวมถึงแพลตฟอร์ม ‘KidBright μAI (คิดไบรท์ ไมโครเอไอ)’ ฝึกเขียนโค้ดและสร้างโมเดล AI เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ชีวิต 

ด้านเกษตร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตและสร้างความมั่นคงทางอาหาร สวทช. จับมือทำงานร่วมกับหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเปลี่ยนเกษตรแบบดั้งเดิม สู่เกษตรสมัยใหม่  ผลักดันการใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการพัฒนาโรงเรือนอัจฉริยะขนาดใหญ่ (Plant Factory) สามารถผลิตพืชผักและสมุนไพรมูลค่าสูงได้ตลอดทั้งปี การพัฒนาชุดตรวจโรคใบด่างมันสำปะหลังเพื่อบรรเทาปัญหา ผลผลิตในอุตสาหกรรมมันสำปะหลัง เพื่อแก้ปัญหาโรคพืช รวมถึงการใช้ชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืชเพื่อความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ สวทช. ได้ทำงานร่วมกับกรมปศุสัตว์เพื่อพัฒนาและขยายผลการพัฒนาวัคซีนสัตว์

เปิดวิสัยทัศน์ “ชูกิจ ลิมปิจำนงค์” แห่ง สวทช.ชู AI ยกระดับการศึกษา พัฒนาเมือง  “ชูกิจ ลิมปิจำนงค์” ผู้อำนวยการสวทช.

ด้านการแพทย์และสาธารณสุข สวทช. พร้อมทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข นำเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา สู่ “การแพทย์แม่นยำ” ทั้งการสร้างแพลตฟอร์มข้อมูลกลางการแพทย์ (Medical AI Data Platform) ของประเทศไทย เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการผลิต AI สำหรับการวินิจฉัยโรคจากภาพถ่ายทางการแพทย์ ซึ่งปัจจุบันได้รวบรวมภาพถ่ายทางการแพทย์แล้วกว่า 2.2 ล้านภาพ ครอบคลุม 8 กลุ่มโรคสำคัญ เช่น โรคทรวงอก มะเร็งเต้านม และโรคตา เพื่อให้นักวิจัยไทยสามารถพัฒนาเอไอช่วยแพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

นอกจากนี้ยังขับเคลื่อนโครงการจีโนมิกส์ประเทศไทย (Genomics Thailand) เพื่อนำข้อมูลจีโนมมาพัฒนาการวินิจฉัยรักษาคนไทยที่แม่นยำ ประหยัดค่าใช้จ่าย และป้องกันโรคอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านอุตสาหกรรม สวทช. จับมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่ออุตสาหกรรม 4.0 เข้าสู่โรงงาน เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องมาตรฐานโรงงาน โดยพัฒนาแพลตฟอร์มเพิ่มคุณภาพการผลิต สนับสนุนผู้ประกอบการไทยยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 แบบครบวงจร

อีกทั้งผนึกกำลังผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนักวิจัย อุตสาหกรรม ภาคเอกชน นักนวัตกร ทำงานร่วมกันผ่านศูนย์นวัตกรรมเพื่อการผลิตที่ยั่งยืน (SMC) ในการพัฒนาศักยภาพทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการ โรงงานต่าง ๆ ได้ใช้ประโยชน์จากศูนย์ SMC ทั้งในรูปแบบการสาธิต การเรียนรู้และการทดลองปฏิบัติ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ พัฒนาสู่โรงงานอัจฉริยะ เป็นต้น 

นอกจากนี้ สวทช. ยังจับมือกับกระทรวงมหาดไทย และภาครัฐที่ต้องการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่าง ๆ ได้ใช้ประโยชน์แพลตฟอร์ม Traffy Fondue เพื่อบริหารจัดการภาครัฐด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี และ สวทช. ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชัน ระบบสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในการติดตามและเฝ้าระวัง สถานการณ์ทางธรรมชาติแบบเรียลไทม์ (TanPibut) หรือ ทันพิบัติ ให้กับหน่วยงานด้านเตือนภัยพิบัติของประเทศใช้ประโยชน์ได้ทันทีในยามที่ประเทศต้องเผชิญภัยธรรมชาติ 

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เบรนท์ฟอร์ด พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68