Tomorrowland จัดในไทยปี 69 คาดรายได้ 3 พันล้าน ขึ้นแท่นฮับอีเวนต์โลก
เบื้องหลังดีล Tomorrowland: โอกาสทองของเศรษฐกิจไทย คาดสร้างรายได้ทางเศรษญกิจ 3,000 ล้าน กับบทเรียนจัดอีเวนต์แบบยั่งยืนจากเบลเยียม
KEY
POINTS
- ย้อนรอยความสำเร็จเทศกาลดนตรีระดับโลก Tomorrowland ก่อนจัดในไทยปี 2569 ที่ชลบุรี
- เริ่มจัดครั้งแรกที่ประเทศเบลเยียม จากงานเล็ก ๆ คนร่วมหลักพัน ปัจจุบันขยายสู่ระดับนานาชาติ คนเข้าร่วมกว่า 600,000 คน
- KResearch คาดสร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศกว่า 3,000 ล้านบาท จ้างงานมากกว่า 15,000 ตำแหน่ง
หนึ่งในเทศกาลดนตรี EDM ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง “Tomorrowland” เตรียมจัดในประเทศไทยในปี 2569 ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างสีสันให้กับอุตสาหกรรมดนตรีแล้ว ยังมีการคาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจไทยกว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมจ้างงานกว่า 15,000 คน
ย้อนกลับไปเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้พูดคุยกับ Bruno Vanwelsenaers ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ Mr.Filip Teelinck ผู้บริหารระดับสูงจาก Tomorrowland เทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางความเป็นไปได้ในการนำงานนี้มาจัดที่ประเทศไทยโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทยผ่านอุตสาหกรรมดนตรี ภาพยนตร์ และศิลปะ ให้เกิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์
ขณะที่นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยความคืบหน้าว่าโครงการนี้ได้รับข้อสรุปแล้ว โดยผู้จัดได้เลือกจังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่จัดงาน บนพื้นที่ของภาคเอกชน กำหนดจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2569 เป็นเวลา 3 วันต่อเนื่อง พร้อมลงนามสัญญาร่วมขั้นต่ำ 5 ปี เพื่อสร้างความต่อเนื่องและผลักดันไทยขึ้นแท่นประเทศผู้นำด้านอีเวนต์ระดับโลก
Tomorrowland คืออะไร ทำไมทั่วโลกจับตา?
Tomorrowland ถือเป็นเทศกาลดนตรี EDM ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มจัดครั้งแรกในปี 2005 ที่เมืองบูม ประเทศเบลเยียม จากงานเล็ก ๆ ที่มีผู้ร่วมงานเพียง 9,000 คน ปัจจุบันขยายสู่ระดับนานาชาติ และมีผู้เข้าร่วมรวมกว่า 600,000 คนทั่วโลก
เทศกาลนี้มีจุดเด่นที่ธีมงานอลังการเปลี่ยนใหม่ทุกปี และเคยขยายไปยังหลายประเทศ เช่น
- TomorrowWorld ที่สหรัฐอเมริกา (ปี 2014 สร้างมูลค่าเศรษฐกิจถึง 3,100 ล้านบาท)
- Tomorrowland Brazil ที่เซาเปาลู เมืองแห่งศิลปะ
- Tomorrowland Winter บนเทือกเขาแอลป์ ประเทศฝรั่งเศส
- Tomorrowland Belgium ซึ่งสร้างเม็ดเงินกว่า 9,000 ล้านบาท เมื่อ 5 ปีก่อน
แม้งานในบางประเทศจะยุติลงด้วยเหตุผลทางธุรกิจ แต่ทุกครั้งที่จัด ย่อมสร้างการกระจายรายได้ การจ้างงาน และชื่อเสียงระดับโลกให้กับเมืองเจ้าภาพ
บัตรหมดในไม่กี่นาที สร้างเม็ดเงินสะพัดหลายพันล้าน
หนึ่งในจุดเด่นของ Tomorrowland คือ บัตรเข้าชม ที่ต้องจองล่วงหน้าและมักจะขายหมดภายในไม่กี่นาที กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้เดินทางสู่เมืองบูม ประเทศเบลเยียม เพื่อร่วมดื่มด่ำกับบรรยากาศเทศกาลดนตรี EDM สุดยิ่งใหญ่ การแสดงสุดอลังการจากดีเจระดับโลก และปาร์ตี้ที่ไม่มีวันลืม
ราคาบัตรเริ่มตั้งแต่ประมาณ 3,000 บาท ไปจนถึงระดับวีไอพีกว่า 200,000 บาท โดยสิทธิประโยชน์ที่ผู้ร่วมงานได้รับจะแตกต่างกันไป ซึ่งในแต่ละปี Tomorrowland ดึงดูดผู้ร่วมงานมากกว่า 200,000 คน จากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก
ข้อมูลจากเว็บไซต์ WeAreOne.World ซึ่งเป็นผู้จัด ระบุว่า ในปี 2022 ผู้จัดเทศกาลสามารถสร้างรายได้กว่า 164 ล้านยูโร (ประมาณ 6,256 ล้านบาท) และในปี 2023 อยู่ที่ 129 ล้านยูโร (ประมาณ 4,921 ล้านบาท) โดยมีกำไรสุทธิ 8.4 ล้านยูโร หรือประมาณ 321 ล้านบาท
เทศกาล Tomorrowland ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญต่อทั้งเศรษฐกิจท้องถิ่นและระดับประเทศ สำหรับการจัดงาน Tomorrowland ปี 2023 มีการจัดซื้อสินค้าและบริการจากซัพพลายเออร์ในเบลเยียมมากกว่า 1,200 ราย ซึ่งการจัดซื้อเหล่านี้มีส่วนช่วยสร้างการจ้างงานเทียบเท่างานประจำจำนวน 557 ตำแหน่ง และก่อให้เกิดสวัสดิการทางเศรษฐกิจรวม 37 ล้านยูโร แก่ระบบเศรษฐกิจของเบลเยียม
ช่วงสุดสัปดาห์ที่มีการจัดเทศกาลทั้งสองรอบ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเกือบ 281 ล้านยูโร และก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีก 1,900 ตำแหน่ง เทียบเท่างานประจำ
ในช่วงเทศกาล มีแรงงานรวมประมาณ 15,000 คน ที่ถูกจ้างงานเพื่อดูแลและบริหารจัดการงานในภาพรวมทั้งหมด โดยผลตอบแทนทางการเงินที่รัฐบาลได้รับผ่านทางการจ่ายเงินสมทบประกันสังคม (RSZ), ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา, ภาษีนิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) รวมกันอยู่ที่ 75.9 ล้านยูโร
ภาคการท่องเที่ยวก็ได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่ โดยผู้ร่วมงานจำนวนมากพักค้างคืนในกรุงบรัสเซลส์ และเมืองใกล้เคียง เช่น แอนต์เวิร์ปและเมเคอเลน ขณะที่ผู้ซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวกว่า 20,000 คน ยังมีแนวโน้มเดินทางต่อไปยังเมืองอื่น ๆ ในเบลเยียม สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของเทศกาลนี้ต่อเศรษฐกิจทั้งในระดับท้องถิ่นและประเทศ
และหากดีลนี้ลุล่วงจริง...
ประเทศไทยอาจกลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของคนรักเสียงดนตรีจากทั่วโลก พร้อมทั้งสร้างเม็ดเงินมหาศาลหมุนเวียนเข้าประเทศทุกปีอย่างที่เคยเกิดขึ้นในเบลเยียมหรือสหรัฐฯ มาแล้ว
เส้นทางสู่ Sustainability ของ Tomorrowland ในไทย
นอกจากนี้ KResearch รายงานว่า ประเทศไทยได้เป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้จัด Tomorrowland คาดจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยถึง 3,000 ล้านบาท (หากความต้องการเป็นไปตามคาดการณ์) จากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น และ การจ้างงานกว่า 15,000 คน
พร้อมกับประเมินด้านความยั่งยืนว่า บทเรียนจากการจัด Tomorrowland ในเบลเยียมนานกว่า 20 ปี สะท้อนทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม โดยเทศกาลดังกล่าวในเบลเยียมมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) สูงถึง 47,961 ตัน CO2eq ขณะเดียวกันการใช้ RFID กับแก้วแบบรีฟิลถูกวิจารณ์อย่างมาก เนื่องจากต้องใช้แร่หายากในการผลิต
Tomorrowland ยังได้ตั้งเป้าหมายการดำเนินงานอย่างยั่งยืน โดยมีแผนเพิ่มอัตราการรีไซเคิลในงานให้ได้ 70% ภายในปี 2030 จาก 32% ในปี 2023
นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายลดการปล่อย GHG ลง 25% ผ่านการใช้เชื้อเพลิงการบินแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) ทดแทนในแพ็กเกจบัตร Global Journey และลดการใช้น้ำภายในงานลง 35% จาก 19.4 ล้านลิตรในปี 2019 เป็น 12.5 ล้านลิตรในปี 2023 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
เทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Tomorrowland จึงไม่เพียงแต่เป็นแรงกระตุ้นด้านเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นโมเดลการจัดอีเวนต์ที่คำนึงถึงความยั่งยืน ซึ่งอาจกลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมอีเวนต์ในประเทศไทยต่อไป
Source : https://communications.weareone.world/tomorrowland-reflects-on-a-successful-2023-and-looks-forward-to-an-innovative-future
KResearch
Photo : Instagram Tomorrowland


