posttoday

มนพร ลั่นรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเกิดแน่ในรัฐบาลนี้ ลุยใช้ EV ปลดรถเมล์เก่าแก่

17 กรกฎาคม 2568

มนพรย้ำ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเกิดแน่ในรัฐบาลนี้ พร้อมลุย EV ปลดรถเมล์ ขสมก.เก่าแก่สายสีแดง ลดฝุ่น PM2.5 พร้อมดันแลนด์บริดจ์-รถไฟคู่-ความเร็วสูง ปลดล็อกอนาคตไทย

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวระหว่างร่วมวงเสวนาภายในงานเสวนาระดมสมองภาครัฐ ภาคเอกชนในหัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก Unlocking Thailand Future” ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์วันนี้ ว่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายจะได้เห็นในรัฐบาลนี้แน่นอน

 

โดยระบุว่า การพัฒนาขนส่งทางรางเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างมิติทางเศรษฐกิจให้กับคนกรุงเทพฯ ยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็ไม่ยากจนเกินความสามารถของพรรคเพื่อไทย ที่คิดถึงประชาชนในทุกมิติ ทั้งในต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ โดยเฉพาะรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นับตั้งแต่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจเข้ามาตำรงตำแหน่งในปี พ.ศ.2566 ได้นำร่องไปแล้วสองสายคือสายสีแดงและสายสีม่วง ปรากฎยอดสถิติจากผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นตลอดทั้งสองสายเป็นจำนวน 30%

 

แต่การจะเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายให้ครอบคลุมทุกเส้นทางต้องทำการแก้ไขกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ คือ กฎหมายขนส่งทางราง กฎหมาย ร.ฟ.ม. และกฎหมายตั๋วร่วม

 

มนพร ลั่นรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเกิดแน่ในรัฐบาลนี้ ลุยใช้ EV ปลดรถเมล์เก่าแก่

 

ส่วนข้อที่มองว่า นโยบายนี้นำเงินภาษีของคนต่างจังหวัดมาให้คนกรุงเทพนั้น ตนมองว่า หากย้อนกลับไปดูงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลในปี 2567 ที่ผ่านมา รายได้ในการจัดเก็บภาษีทั้งประเทศกรุงเทพมหานครจัดเก็บได้ 48-49% ภาคเหนือ 1.9% ภาคอีสาน 2.8% ภาคใต้ประมาณ 1.6% เพราะฉะนั้นจึงไม่ถือว่านำภาษีจากต่างจังหวัดมาให้คนกรุงเทพฯ ประกอบกับคนในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนต่างจังหวัดที่จะได้ใช้บริการนี้

 

ยิ่งกว่านั้นในมิติของรัฐบาลไม่ได้คิดเพียงแค่รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเท่านั้น แต่ยังคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะสร้างระบบฟีดเดอร์ที่สำคัญนั่นก็คือ ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้อนุมัติงบประมาณในการจัดหารถ EV ทั่วกรุงเทพมหานครแล้ว

 

มนพร ลั่นรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเกิดแน่ในรัฐบาลนี้ ลุยใช้ EV ปลดรถเมล์เก่าแก่

 

“ต่อไปคนกรุงเทพฯ จะไม่ต้องใช้รถเมล์ ขสมก. 30 ปี สีแดงเก่าๆ แก่ๆ วิ่งในกรุงเทพมหานครอีกแล้ว เราจะเปลี่ยนเป็นรถ EV ตลอดทุกสาย ยิ่งกว่านั้นรถ EV และยังช่วยลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้อีกด้วย"

 

นางมนพรกล่าวว่า หากประเทศไทยต้องการปลดล็อกข้อจำกัดและก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ โดยโครงการที่ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคือ “โครงการแลนด์บริดจ์” ซึ่งจะเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช

 

โครงการนี้มีจุดเด่นในการลดต้นทุนการขนส่งด้วยระบบทางทะเล ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการขนส่งรูปแบบอื่น และจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยแผนการพัฒนาประกอบด้วย การสร้างท่าเรือน้ำลึก และรถไฟทางคู่ โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1 ล้านล้านบาท ในระยะแรกจะเริ่มลงทุนราว 1.5 แสนล้านบาท

 

นอกจากนี้ ยังมีแผนเร่งขยายเส้นทางรถไฟทางคู่ต่อเนื่องจากนครราชสีมาไปยังหนองคาย เพื่อเชื่อมต่อสู่ สปป.ลาว และจีน รวมถึงการเร่งรัดโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศอย่างรอบด้าน

 

นางมนพรย้ำว่า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางรางและทางอากาศจะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของประเทศไทย และผลักดันสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เบรนท์ฟอร์ด พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68