posttoday

ส่องเชียงใหม่ สตาร์ทอัพเปลี่ยนเมือง จากรากปัญหาจริงสู่เมืองอัจฉริยะ

24 มิถุนายน 2568

เชียงใหม่ Smart City กำลังกลายเป็นสนามทดลองสำหรับธุรกิจด้านเทคโนโลยีสีเขียว, AI, ESG และ Tourism Tech จากมีองค์ประกอบที่เหมาะและยังเป็นแหล่งบ่มเพาะสตาร์ทอัพชั้นดี!

เชียงใหม่ได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งในเมืองนำร่องโครงการ Thailand Smart City ตั้งแต่ปี 2560 และพัฒนาต่อเนื่องอย่างมีทิศทาง โครงการ Smart City ที่นี่จึงไม่ได้หมายถึงการสร้างเมืองใหม่จากศูนย์ แต่คือการ 'แปลงร่างเมืองเก่า' ให้ตอบรับความเปลี่ยนแปลง โดยยังคงโอบกอดประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้

 

แนวทางการพัฒนาเน้น 7 มิติหลัก ได้แก่ Smart Environment, Smart Economy, Smart People, Smart Living, Smart Mobility, Smart Governance และ Smart Energy ซึ่งล้วนผสานเข้ากับลักษณะเฉพาะของเมืองเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ หรือศิลปวัฒนธรรมที่ยังคงมีชีวิต

 

โอกาสการลงทุน Sandbox เมืองจริงสำหรับนวัตกรรม

Smart City เชียงใหม่กำลังกลายเป็นสนามทดลองสำหรับธุรกิจด้านเทคโนโลยีสีเขียว, AI, ESG และ Tourism Tech เนื่องจากมีองค์ประกอบที่เหมาะสม ทั้งต้นทุนการใช้ชีวิตต่ำ โครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาแล้ว และการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง ม.เชียงใหม่ และ ม.แม่โจ้

 

โครงการเขตส่งเสริมนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ (Northern Economic Corridor: NEC) และการผลักดัน Chiangmai Smart City ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ได้ดึงดูดสตาร์ทอัพและนักลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะในสาขา Smart Healthcare, Smart Mobility และ Smart Tourism ที่สอดคล้องกับบริบทของเมืองท่องเที่ยวและเมืองสุขภาพ

 

บทบาทของสตาร์ทอัพท้องถิ่น จากไอเดียเล็กสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่

เชียงใหม่กลายเป็นพื้นที่บ่มเพาะสตาร์ทอัพที่เติบโตจากปัญหาในชีวิตจริง และหลายรายกำลังกลายเป็นผู้เปลี่ยนเกมให้กับเมืองในยุค Smart City  ตัวอย่างผลงานที่โดดเด่น เช่น

 

Ricult: AgriTech เพื่อเกษตรกรภาคเหนือ

ในพื้นที่ภาคเหนือซึ่งเต็มไปด้วยเกษตรกรรายย่อย สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และความไม่แน่นอนของผลผลิต Ricult สตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดย คุณอานนท์ สีนะพงษ์พิพิธ ได้นำเทคโนโลยี AI และ Big Data เข้ามาช่วยวางแผนการเพาะปลูกอย่างแม่นยำ เช่น การพยากรณ์อากาศเฉพาะพื้นที่ วิเคราะห์สภาพดิน และประเมินช่วงเวลาที่เหมาะสมในการหว่านเมล็ดหรือเก็บเกี่ยว

 

ผลลัพธ์คือ เกษตรกรสามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และมีรายได้ที่มั่นคงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และลำพูน ซึ่งกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเริ่มส่งต่อข้อมูลกันเอง เกิดเป็นการเรียนรู้แบบ community-driven technology ที่ทรงพลัง

 

ภาพจาก cmu.ac.th

ส่องเชียงใหม่ สตาร์ทอัพเปลี่ยนเมือง จากรากปัญหาจริงสู่เมืองอัจฉริยะ

 

FireDrones CMU: โดรนดับไฟจากใจนักวิจัย

ในช่วงฤดูแล้งของทุกปี ไฟป่าบนดอยสุเทพสร้างความเสียหายต่อทั้งระบบนิเวศ สุขภาพประชาชน และการท่องเที่ยว FireDrones CMU คือทีมนักพัฒนาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่คิดค้นระบบโดรนเพื่อตรวจจับและควบคุมไฟป่าจากระยะไกล โดยใช้เซนเซอร์ภาพถ่ายความร้อนและ AI วิเคราะห์การลุกลาม

 

ระบบนี้ไม่เพียงช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถวางแผนดับไฟได้แม่นยำขึ้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตเจ้าหน้าที่ที่ต้องเข้าไปในพื้นที่อันตราย อีกทั้งยังถูกใช้ในการเก็บข้อมูลระยะยาวเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าแบบมีหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์

 

CityGlide: Mobility เพื่อเมืองสะอาด

ในเขตเมืองเก่าของเชียงใหม่ที่ถนนแคบ รถติด และคุณภาพอากาศแย่ในบางฤดู CityGlide คือสตาร์ทอัพด้าน Mobility ที่ร่วมมือกับเทศบาลนครเชียงใหม่ในการพัฒนาแอปแชร์สกู๊ตเตอร์และจักรยานไฟฟ้าแบบ eco-friendly พร้อมระบบแนะนำเส้นทางเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


CityGlide ไม่เพียงลดการใช้รถยนต์ในเมืองเก่า แต่ยังช่วยให้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวเดินทางได้สะดวกผ่านระบบดิจิทัลที่ใช้งานง่าย ราคาย่อมเยา และตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ Low-carbon โดยแทบไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงเลยแม้แต่น้อย

 

JaiDee Health: Telemedicine สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้สูงวัย

เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีประชากร Long Stay จากยุโรปและเอเชียจำนวนมาก รวมถึงผู้สูงอายุชาวไทยที่ย้ายมาอยู่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า JaiDee Health จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์บริการทางการแพทย์ผ่านแพลตฟอร์ม Telemedicine ที่ใช้งานง่ายทั้งภาษาไทยและอังกฤษ

 

ผู้ใช้งานสามารถปรึกษาแพทย์ผ่านวิดีโอ รับใบสั่งยา และเชื่อมต่อกับโรงพยาบาลท้องถิ่นได้ทันที ความปลอดภัย ความสะดวก และการเข้าถึงบริการสุขภาพจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนอยู่เชียงใหม่ได้อย่างแท้จริง

 

คนเบื้องหลัง Ecosystem แห่งนวัตกรรม

เบื้องหลังความสำเร็จของสตาร์ทอัพเหล่านี้ ยังมีบุคคลสำคัญที่ทำหน้าที่เชื่อมโยง พัฒนา และปลดล็อกศักยภาพของเชียงใหม่ให้กลายเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมระดับภูมิภาค:

 

คุณเกียรติภูมิ นิ่มนวล ผู้นำทีม CMU STeP หรือศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่สร้างพื้นที่ Innovation Hub ให้แก่สตาร์ทอัพทุกระดับ พร้อมทั้งผลักดันการวิจัยให้กลายเป็นนวัตกรรมเชิงพาณิชย์

คุณอรพินท์ อัศวภูษิตกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง Chiang Mai Maker Club ที่เชื่อมโยง “ช่าง นักคิด และนักพัฒนาท้องถิ่น” เข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น IoT, หุ่นยนต์ และการผลิตแบบดิจิทัล

คุณภัทรพล เจริญสุข ผู้อยู่เบื้องหลัง Chiang Mai Startups Map แพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลและเครือข่ายของสตาร์ทอัพในพื้นที่ เพื่อเชื่อมโยงกับนักลงทุน พันธมิตร และผู้สนับสนุนจากทั่วประเทศ

 

การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เมื่อเมืองไม่ได้แค่รับนักท่องเที่ยว แต่รับ "คนใช้ชีวิต"

หนึ่งในหัวใจของ Smart City เชียงใหม่ คือการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) ซึ่งตรงกับฤดูไฮซีซั่นของต่างประเทศ เชียงใหม่กลายเป็นปลายทางของนักท่องเที่ยวระยะยาว (Long Stay) ที่มองหาทั้งการพักผ่อน การทำงานทางไกล (Remote Work) และการใช้ชีวิตท่ามกลางวัฒนธรรมที่เข้าถึงง่าย

 

กลุ่ม Long Stay ไม่ได้เพียงสร้างรายได้จากโรงแรมหรือร้านอาหารเท่านั้น แต่ยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับชุมชน เช่น ร้านกาแฟเล็ก ๆ พื้นที่ Co-working คลินิกสุขภาพ ร้านโยคะ และตลาดท้องถิ่น ส่งผลให้เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างลึกและกระจายมากกว่าโมเดลการท่องเที่ยวเชิงปริมาณแบบเดิม

 

การพัฒนา Smart Tourism จึงต้องรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ต การเดินทางข้ามเมืองที่สะดวก ความปลอดภัย และบริการสาธารณสุขคุณภาพสูง เพื่อให้เชียงใหม่ไม่ใช่แค่เมืองที่ "น่าเที่ยว" แต่เป็นเมืองที่ "น่าอยู่"

ข่าวล่าสุด

LIVE ถ่ายทอดสด วอลเลย์บอลหญิงซีเกมส์ ไทย พบ อินโดนิเซีย วันนี้