posttoday

ครบทุกเรื่องต้องรู้ก่อนติดตั้ง "โซลาร์รูฟท็อป" ทางเลือกประหยัดพลังงาน

05 มิถุนายน 2568

การติดตั้ง "โซลาร์เซลล์" กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการติดโซลาร์รูฟท็อปที่มีความง่าย สะดวก มีขั้นตอนอย่างไร ไปหาคำตอบ

ในวันที่ค่าไฟฟ้าทะยานขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง หลายครอบครัวเริ่มตั้งคำถามว่า… “จะทำอย่างไรให้บ้านของเราประหยัดพลังงานได้มากกว่านี้?” และหนึ่งในคำตอบที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุคนี้ก็คือ การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป หรือระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านนั่นเอง

 

การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาเร็วขึ้น ราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น และการสนับสนุนจากภาครัฐ การติดโซลาร์เซลล์จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ทั้งประหยัดและใส่ใจสิ่งแวดล้อมในคราวเดียว แต่ก่อนจะตัดสินใจลงทุน เราควรมาทำความรู้จักกับระบบนี้อย่างลึกซึ้งกันก่อน

 

ครบทุกเรื่องต้องรู้ก่อนติดตั้ง "โซลาร์รูฟท็อป" ทางเลือกประหยัดพลังงาน

 

เริ่มจาก "โซลาร์รูฟท็อป" คืออะไร

โซลาร์รูฟท็อป คือ ระบบผลิตไฟฟ้าที่ติดตั้งบนหลังคาบ้านหรืออาคารต่าง ๆ โดยใช้แผงโซลาร์เซลล์เป็นตัวรับพลังงานแสงอาทิตย์และเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ระบบโซลาร์รูฟท็อปช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองได้ในช่วงกลางวัน ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

3 ระบบโซลาร์เซลล์ที่ควรรู้จัก
ก่อนตัดสินใจติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกระบบที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ โดยระบบโซลาร์เซลล์มีทั้งหมด 3 ระบบหลัก ดังนี้

 

ระบบออนกริด (On Grid) 

ระบบออนกริดเป็นระบบที่เชื่อมต่อกับการไฟฟ้าโดยตรง เหมาะสำหรับบ้านที่มีการใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันเป็นหลัก มีข้อดีมากมาย ดังนี้
• ไม่จำเป็นต้องติดตั้งแบตเตอรี่ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย
• สามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินคืนให้การไฟฟ้าได้
• มีค่าบำรุงรักษาต่ำเนื่องจากมีอุปกรณ์น้อยชิ้น
• คืนทุนเร็วที่สุดในบรรดาทั้ง 3 ระบบ

 

ระบบออฟกริด (Off Grid) 

โซลาร์เซลล์ระบบออฟกริดเป็นระบบที่แยกตัวออกจากระบบสายส่งของการไฟฟ้าโดยสิ้นเชิง เหมาะสำหรับพื้นที่ห่างไกลที่สายส่งไฟฟ้าเข้าไม่ถึง หรือต้องการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน ระบบนี้มีข้อดีคือ
• ไม่ต้องขออนุญาตการไฟฟ้า
• เป็นอิสระจากระบบสายส่ง
• สามารถผลิตและใช้ไฟฟ้าได้ด้วยตนเอง

 

ระบบไฮบริด (Hybrid)

ระบบไฮบริดเป็นการผสมผสานข้อดีของทั้งระบบออนกริดและออฟกริดเข้าด้วยกัน เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความมั่นคงด้านพลังงานสูง ข้อดีของระบบนี้คือ
• สามารถใช้ไฟฟ้าได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
• มีความเสถียรสูงเพราะมีแหล่งจ่ายไฟฟ้าหลายทาง
• สามารถสำรองไฟใช้ยามฉุกเฉินได้

 

ครบทุกเรื่องต้องรู้ก่อนติดตั้ง "โซลาร์รูฟท็อป" ทางเลือกประหยัดพลังงาน

 

บ้านแบบใดที่เหมาะกับการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป

บ้านที่มีผู้อยู่อาศัยในช่วงกลางวัน  เนื่องจากโซลาร์รูฟท็อปจะผลิตไฟฟ้าได้เฉพาะตอนมีแสงแดด การใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันจะช่วยให้คุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด เช่น บ้านที่มีผู้สูงอายุ คนทำงานที่บ้าน หรือมีเด็กเล็ก


บ้านที่มีค่าไฟฟ้าสูง โดยทั่วไปบ้านที่มีค่าไฟฟ้าตั้งแต่ 2,000-3,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน จะคุ้มค่ากับการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป เพราะสามารถประหยัดค่าไฟได้มากพอที่จะคืนทุนในระยะเวลาที่เหมาะสม


บ้านที่มีพื้นที่หลังคามั่นคง เพียงพอต่อการติด หลังคาควรมีพื้นที่โล่ง ไม่มีเงาบัง และมีโครงสร้างที่แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักของแผงโซลาร์เซลล์ได้ โดยทิศทางของหลังคาควรหันไปทางทิศใต้เพื่อรับแสงแดดได้เต็มที่


บ้านที่มีการใช้เครื่องปรับอากาศเป็นประจำ เนื่องจากแอร์เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสูง การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้อย่างเห็นได้ชัด
การติดตั้งโซลาร์เซลล์ต้องมีอุปกรณ์ใดบ้าง


ระบบโซลาร์รูฟท็อปประกอบด้วยอุปกรณ์หลักที่สำคัญหลายส่วน โดยแต่ละส่วนทำหน้าที่แตกต่างกันเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

แผงโซลาร์เซลล์มีแบบไหนบ้าง
แผงโซลาร์เซลล์เป็นอุปกรณ์หลักที่แปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า ปัจจุบันมี 3 ประเภทให้เลือกใช้ ได้แก่


• แผงโมโนคริสตัลไลน์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแต่ราคาแพง เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด 
• แผงพอลิคริสตัลไลน์ที่มีราคาถูกกว่าและทำงานได้ดีในอุณหภูมิสูง แต่ต้องใช้พื้นที่มากกว่า 
• แผงฟิล์มบางที่มีราคาประหยัดที่สุด เหมาะกับพื้นที่ติดตั้งขนาดใหญ่ แต่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าสองแบบแรก 

 

ในประเทศไทย นิยมใช้แผงโซลาร์เซลล์ประเภท แผงโมโนคริสตัลไลน์ในการติดตั้งโซลาร์เซลล์

 

อินเวอร์เตอร์
อินเวอร์เตอร์ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จากแผงโซลาร์เซลล์ให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่ใช้ในบ้าน มี 2 ประเภทคือ


1. สตริงอินเวอร์เตอร์ที่ใช้ควบคุมหลายแผงด้วยอุปกรณ์ตัวเดียว ทำให้ราคาระบบโซลาร์มีราคาถูกเพราะ ใช้อินเวอร์เตอร์แค่ 1 ตัว และดูแลง่าย แต่หากแผงใดมีปัญหาหรือมีสิ่งที่บดบังแผงทำให้ไม่ได้รับแสงแดด จะส่งผลทำให้กระทบการผลิตไฟฟ้าทั้งระบบ


2. ไมโครอินเวอร์เตอร์ที่ติดตั้ง ใต้แผงแต่ละแผง (1 ตัว ต่อ 1 แผง)  ปลอดภัยกว่าเพราะมีการแปลงกระแสไฟจาก DC เป็น AC จากแผงแต่ละแผง ทำให้ แรงดันต่ำและสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพได้แยกแผงได้เลย แต่จะทำให้ระบบโซลาร์มีราคาสูงกว่าเพราะใช้ไมโครอินเวอร์เตอร์หลายตัว และติดตั้งซับซ้อนกว่า

 

สรุป
การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเป็นการลงทุนระยะยาวที่จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ก่อนตัดสินใจติดตั้ง ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ทั้งลักษณะบ้าน พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า งบประมาณ และเลือกระบบที่เหมาะสมกับความต้องการ นอกจากนี้ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานการติดตั้ง มีประสบการณ์ด้านระบบไฟฟ้าโดยเฉพาะ มีความมั่งคงของบริษัทเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการจะอยู่คู่ลูกค้าไปตลอด 25 ปี+  และให้บริการหลังการขายที่ดี เพื่อให้การลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด 
 

ที่มา: KG SOLAR

ข่าวล่าสุด

เปิดโปรแกรมวอลเลย์บอลหญิง ซีเกมส์ 2025 รอบรองฯ ไทยดวลอินโดฯ