ศูนย์ฯ สิริกิติ์ เปิดตัวแดชบอร์ดคาร์บอนเรียลไทม์ ยกระดับ MICE ไทย
ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ยกระดับ MICE ไทย ด้วย Real-Time Carbon Footprint Tracking Dashboard แพลตฟอร์มดิจิทัลแรกของศูนย์ประชุมในไทย วัดและแสดงผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเรียลไทม์
อุตสาหกรรม MICE (Meetings, Incentives, Conventions, and Exhibitions) ของไทยกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ ความยั่งยืน และ เทคโนโลยีดิจิทัล มากยิ่งขึ้น
หลังวิกฤตโควิด-19 ตลาด MICE มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่ก็ต้องปรับตัวให้สอดรับกับความต้องการของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
ศักยภาพ MICE ไทย: จุดแข็งที่พร้อมต่อยอด
ประเทศไทยมีศักยภาพโดดเด่นในการเป็น ศูนย์กลาง MICE ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และวัฒนธรรมการต้อนรับที่เป็นเอกลักษณ์
อุตสาหกรรมนี้ไม่เพียงสร้างรายได้โดยตรงจากการจัดงาน แต่ยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในวงกว้าง ทั้งภาคการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร การขนส่ง และธุรกิจบริการอื่น ๆ
ความยั่งยืน: เทรนด์สำคัญที่ต้องจับตามอง
ความยั่งยืน กลายเป็นหัวใจสำคัญในการจัดงานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้พลังงาน การจัดการขยะ การเดินทาง และการใช้ทรัพยากร
ผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานต่างตระหนักถึงความจำเป็นในการลดผลกระทบเหล่านี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่เป็นการปรับเปลี่ยนแนวคิดและการดำเนินงานอย่างถาวร
องค์กรข้ามชาติหลายแห่งเริ่มมีนโยบายจัดงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมองหาสถานที่จัดงานที่รองรับความต้องการด้านความยั่งยืนได้
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ได้เปิดตัว "Real-Time Carbon Footprint Tracking Dashboard"
แพลตฟอร์มดิจิทัลแรกของศูนย์ประชุมในไทย ที่สามารถวัดและแสดงผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดงาน MICE แบบเรียลไทม์
การริเริ่มนี้จะเริ่มนำร่องใช้ในงาน Asia Sustainable Energy Week 2025 และ International Engineering Expo 2025 ในเดือนกรกฎาคมนี้
โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม MICE ไทยสู่ระดับสากล และส่งเสริมการจัดงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
แดชบอร์ดคาร์บอนเรียลไทม์: เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน
แดชบอร์ด Real-Time Carbon Footprint Tracking Dashboard พัฒนาโดย บริษัท อัลโต้เทค โกลบอล จำกัด ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) ผ่านโครงการ Winnovation
เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลจริงจากการใช้พลังงาน การบริโภคอาหาร บรรจุภัณฑ์ และการเดินทางของผู้เข้าร่วมงาน
เครื่องมือนี้แสดงผลการปล่อย ก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) ได้อย่างโปร่งใสและทันที ทำให้ผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานสามารถรับรู้ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
และนำข้อมูลไปใช้วางแผนลดหรือชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การจัดงานแบบ Carbon Neutral อย่างแท้จริง
นวัตกรรมดิจิทัล: พลิกโฉมอุตสาหกรรม
เทคโนโลยีดิจิทัล มีบทบาทสำคัญในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม MICE ตั้งแต่ระบบบริหารจัดการงานครบวงจร แอปพลิเคชันสำหรับผู้เข้าร่วมงาน ไปจนถึงระบบติดตามและวัดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
เครื่องมือติดตาม คาร์บอนฟุตพริ้นท์แบบเรียลไทม์ ถือเป็นนวัตกรรมสำคัญที่ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถวัดและติดตามผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ นำไปสู่การวางแผนและตัดสินใจที่ดีขึ้น
อนาคตของ MICE ไทย
ความสำเร็จของการนำเทคโนโลยีติดตามคาร์บอนฟุตพริ้นท์มาใช้ในงาน MICE ไม่เพียงยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมไทย
แต่ยังสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น
การพัฒนาสู่ความยั่งยืนของอุตสาหกรรม MICE ไทยไม่ใช่แค่การปรับตัวตามเทรนด์โลก แต่เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่และยกระดับความสามารถในการแข่งขัน
เมื่อประเทศไทยสามารถนำเสนอการจัดงานที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก็จะสามารถดึงดูดองค์กรระดับโลกให้เลือกใช้บริการมากขึ้น
ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาในการพัฒนาเทคโนโลยีและมาตรฐานใหม่ ๆ จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของประเทศในระยะยาว


