Singapore Oceanarium จุดหมายใหม่โลกใต้ทะเล ใน Entertainment Complex
สิงคโปร์เตรียมเปิดตัว Singapore Oceanarium สถาบันทางทะเลแห่งใหม่ที่จะมาแทนที่ S.E.A. Aquarium เดิม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการวันที่ 23 กรกฎาคม 2568
เมื่อเอ่ยถึงชื่อ “Resorts World Sentosa” หลายคนคงนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่รวมทั้งรีสอร์ทหรู คาสิโนระดับโลก และสวนสนุก Universal Studios Singapore เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว บนเกาะเซ็นโตซา ประเทศสิงคโปร์ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่ยังเป็นต้นแบบของ "โครงการสถานบันเทิงครบวงจร" ที่รัฐบาลไทยกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้
Resorts World Sentosa หรือ RWS เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2010 ภายใต้การบริหารของ Genting Singapore โดยเน้นการผสมผสานระหว่างความบันเทิงระดับโลก การท่องเที่ยวเชิงครอบครัว และโรงแรมหรูมากถึง 6 แห่ง พร้อมร้านอาหารระดับมิชลิน ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการออกแบบให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและยั่งยืนที่สุด
ล่าสุด RWS กำลังยกระดับประสบการณ์ให้สูงขึ้นอีกขั้น กับการเตรียมเปิดตัว Singapore Oceanarium สถาบันทางทะเลแห่งใหม่ที่จะมาแทนที่ S.E.A. Aquarium เดิม และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญภายใต้การพัฒนาเฟสที่สองของ RWS หรือที่เรียกว่า RWS 2.0
Singapore Oceanarium ไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
Singapore Oceanarium ไม่ได้ถูกออกแบบให้เป็นเพียงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ หากแต่เป็น “ศูนย์การเรียนรู้และวิจัยทางทะเลระดับโลก” ที่มุ่งเน้นทั้งด้าน การศึกษา การอนุรักษ์ และการเข้าใจโลกธรรมชาติผ่านประสบการณ์ที่จับต้องได้จริง
อาคารใหม่ของ Oceanarium แห่งนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นถึงสามเท่า เมื่อเทียบกับ S.E.A. Aquarium เดิม และถูกออกแบบให้มีทั้งหมด 22 โซน ที่เชื่อมโยงเรื่องราวของมหาสมุทรตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์จนถึงระบบนิเวศชายฝั่งในปัจจุบัน
โซนเด่นที่ห้ามพลาด ได้แก่:
Ocean Wonders: โซนที่เต็มไปด้วยแมงกะพรุนพระจันทร์นับพันตัว ที่เคลื่อนไหวในจังหวะสุนทรียะแสงไฟ ให้ความรู้สึกราวกับเดินอยู่ในโลกแฟนตาซีใต้ทะเล
Singapore’s Coast: จำลองระบบนิเวศป่าชายเลนดั้งเดิมของสิงคโปร์ พร้อมข้อมูลด้านความหลากหลายของสัตว์น้ำและความสำคัญของป่าชายเลนในฐานะแนวป้องกันธรรมชาติ
Ancient Waters & Conquering Land: นำเสนอสัตว์โบราณขนาดเท่าจริง รวมถึงซากดึกดำบรรพ์ที่ช่วยอธิบายเรื่องราววิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
Open Ocean: ไฮไลต์สำคัญของ Oceanarium ที่มีแผงกระจกใสขนาดยักษ์ ความกว้าง 36 เมตร ให้ผู้ชมได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ใต้ทะเลแบบพาโนรามา พบกับปลากระเบนราหูขนาดใหญ่ ฉลามลายทาง และแนวปะการังที่มีชีวิตชีวา
นอกจากนี้ภายในยังมีการจัดแสดงแบบ ดิจิทัลอินเตอร์แอคทีฟ และการเล่าเรื่องผ่านระบบมัลติมีเดีย ที่จะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสและเชื่อมโยงผู้ชมกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง
การร่วมมือด้านวิจัยและความยั่งยืนทางทะเล
Singapore Oceanarium ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป แต่ยังเดินหน้าสู่บทบาทของ “สถาบันวิจัยทางทะเล” ผ่านความร่วมมือกับสถาบันชั้นนำ เช่น:
มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS): ในโครงการวิจัยระยะยาว 5 ปีที่เน้นศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพ และการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ
Earth Observatory of Singapore แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง (NTU): ที่เน้นด้านภูมิต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการปกป้องชายฝั่งทะเลในระยะยาว
Singapore Oceanarium ยังได้รับการรับรองจาก สมาคมสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งสหรัฐอเมริกา (AZA) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล และเป็นสมาชิกของทั้งสมาคมสวนสัตว์โลก (WAZA) และสมาคมสัตว์น้ำแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAZA)
วิสัยทัศน์ จากความอยากรู้ สู่การลงมือเปลี่ยนโลก
Tan Hee Teck ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Resorts World Sentosa กล่าวถึงสถานที่แห่งใหม่นี้ว่า
“Singapore Oceanarium คือจุดเปลี่ยนของการศึกษาและการอนุรักษ์ทางทะเล เราไม่ได้สร้างแค่แหล่งท่องเที่ยว แต่คือพื้นที่ที่เปลี่ยนความอยากรู้ให้กลายเป็นความรู้ และเปลี่ยนความรู้ให้กลายเป็นการลงมือปฏิบัติจริง”
ขณะที่ Lam Xue Ying รองประธานของ Oceanarium เสริมว่า
“เราตั้งใจให้สถานที่นี้เป็นสถาบันที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าและร่วมกันปกป้องท้องทะเล ผ่านนิทรรศการที่ผสมผสานเทคโนโลยีกับธรรมชาติอย่างลงตัว”


