"ทรัมป์เอฟเฟ็กต์" NOAA ยุติฐานข้อมูลภัยพิบัติพันล้านดอลลาร์หลังปี 2024
NOAA เตรียมหยุดอัปเดตฐานข้อมูลภัยพิบัติพันล้านดอลลาร์ นักวิทยาศาสตร์เตือนผลกระทบต่อความมั่นคงสาธารณะและการต่อสู้กับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
สำนักงานบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (NOAA) ประกาศว่าจะยุติการรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลในฐานข้อมูลภัยพิบัติที่ก่อให้เกิดความเสียหายมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ หลังสิ้นปี 2024 ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ธรรมชาติรุนแรงอย่างพายุเฮอริเคน ไฟป่า น้ำท่วม และคลื่นความร้อน
โดยการตัดสินใจครั้งนี้เป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวล่าสุดภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าได้ลดบทบาทและทรัพยากรของรัฐบาลกลางในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ฐานข้อมูลสำคัญที่มีมานานกว่า 4 ทศวรรษ
ฐานข้อมูล Billion-Dollar Weather and Climate Disasters ของ NOAA เริ่มต้นเมื่อปี 1980 โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดเก็บและประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากภัยพิบัติขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างอิงข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น สำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินกลาง (FEMA) บริษัทประกันภัย และหน่วยงานรัฐท้องถิ่น เพื่อประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง
ตลอดระยะเวลา 40 กว่าปี ฐานข้อมูลนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือสำคัญของนักวิทยาศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ หน่วยงานรัฐ และสื่อมวลชน ในการวิเคราะห์แนวโน้มของภัยพิบัติ ตลอดจนเชื่อมโยงเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลก
การหยุดชะงักที่น่ากังวล
โฆษกของ NOAA ระบุว่าการตัดสินใจยุติฐานข้อมูลดังกล่าว “สอดคล้องกับลำดับความสำคัญ กฎหมาย และโครงสร้างบุคลากรที่เปลี่ยนแปลงไป” อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากแสดงความวิตกว่าการหยุดการเก็บข้อมูลนี้จะกระทบต่อความสามารถของประเทศในการประเมินและรับมือกับผลกระทบของวิกฤตภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมประกันภัยกำลังเผชิญกับการขาดทุนหนัก และประชาชนต้องจ่ายเบี้ยประกันสูงขึ้น
เจฟ มาสเตอร์ส (Jeff Masters) นักอุตุนิยมวิทยาจาก Yale Climate Connections กล่าวว่าฐานข้อมูลของ NOAA ถือเป็น "มาตรฐานชั้นยอด" สำหรับการประเมินความเสียหายจากภัยพิบัติ และไม่มีแหล่งข้อมูลอื่นใดในสหรัฐฯ ที่มีความครอบคลุมและน่าเชื่อถือเทียบเท่าได้ แม้ว่าจะยังมีฐานข้อมูลจากภาคเอกชนหรือหน่วยงานระหว่างประเทศอยู่ก็ตาม
สัญญาณเตือนจากการเปลี่ยนแปลงภายในรัฐบาล
ในวันเดียวกับที่มีประกาศเรื่องฐานข้อมูล NOAA ยังมีรายงานว่ารักษาการผู้อำนวยการของ FEMA ถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากแสดงความไม่เห็นด้วยกับแผนของรัฐบาลทรัมป์ที่จะยุบหน่วยงานดังกล่าว ทั้งนี้ รัฐบาลยังมีแผนจะลดจำนวนบุคลากรของ NOAA ลงมากกว่า 1,000 ตำแหน่ง หรือคิดเป็นกว่า 10% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการพยากรณ์อากาศและความปลอดภัยของประชาชนโดยตรง
คริสตินา ดาห์ล (Kristina Dahl) นักวิทยาศาสตร์อาวุโสจากองค์กร Climate Central กล่าวว่า “เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง ถือเป็นหนึ่งในวิธีสำคัญที่ทำให้สาธารณชนตระหนักถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หากไม่มีการติดตามและรายงานข้อมูลเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้ประชาชนอเมริกันตกอยู่ในความเสี่ยงที่สูงขึ้น โดยขาดข้อมูลสำคัญในการเตรียมความพร้อมและรับมือกับภัยคุกคามที่กำลังเพิ่มขึ้น”
ที่มา:
The Guardian – NOAA to stop updating billion-dollar climate disaster database amid Trump cuts


