posttoday

เจาะ 5 อุปสรรคใหญ่ จุดตัดอนาคต “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไทย”

30 เมษายน 2568

IAG ชี้ 5 ความท้าทายใหญ่ ฉุดนักลงทุนลังเลลงทุน Entertainment Complex ไทย ทั้งข้อจำกัดต่างชาติ การเมืองไม่แน่นอน และกฎหมายไร้ประสิทธิภาพ

เจาะลึก 5 อุปสรรคสำคัญ จุดตัดสินใจนักลงทุนต่างชาติ กับอนาคต “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ในไทย

 

ท่ามกลางความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของรัฐบาลไทยในการผลักดันร่างกฎหมาย “สถานบันเทิงครบวงจร” สู่การพิจารณาของรัฐสภา ซึ่งจะเป็นก้าวประวัติศาสตร์ในการเปิดประตูสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมเอนเตอร์เทนเมนต์ขนาดใหญ่ของประเทศ รวมถึงการอนุญาตให้มีพื้นที่กาสิโนอย่างถูกกฎหมายไม่เกิน 10% ของโครงการ แต่การดึงดูดเม็ดเงินลงทุนหลายแสนล้านบาทจากผู้เล่นระดับโลก ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่เจตจำนงของภาครัฐเท่านั้น

 

บทวิเคราะห์ล่าสุดจาก Inside Asian Gaming (IAG) ชี้ให้เห็น “5 ความท้าทายหลัก” ที่กำลังกลายเป็นจุดลังเลสำคัญสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่กำลังประเมินความเป็นไปได้ของการเข้าร่วมในตลาดไทย ซึ่งหากไม่เร่งคลี่คลาย อาจกลายเป็นอุปสรรคที่ฉุดรั้งโอกาสมหาศาลของประเทศไทยเอง

 

1. ข้อจำกัดด้านความเป็นเจ้าของของชาวต่างชาติ

จุดเริ่มต้นของความลังเลเกิดจากโครงสร้างกฎหมายที่ยังไม่เอื้อต่อการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ โดยเฉพาะ “พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว” ที่จำกัดการถือหุ้นของชาวต่างชาติไม่เกิน 49% ในธุรกิจไทย และไม่อนุญาตให้ถือครองที่ดินโดยตรง ซึ่งในมุมของนักลงทุนโครงการระดับพันล้านดอลลาร์ นี่คือข้อจำกัดเชิงโครงสร้างที่อาจลดทอนแรงจูงใจ และทำให้ไทยเสียเปรียบเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งในภูมิภาค

 

2. การร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น: เงื่อนไขแห่งความสำเร็จ

IAG ย้ำว่า หนทางสู่ความสำเร็จของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในไทยจำเป็นต้องผ่าน “โมเดลพันธมิตร” ระหว่างผู้เล่นระดับโลกกับนักลงทุนท้องถิ่น โดยนักลงทุนต่างชาติจะนำองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการกาสิโนและศูนย์รวมความบันเทิง ส่วนพันธมิตรไทยจะช่วยนำทางด้านกฎหมาย การเมือง และบริบทสังคมที่ซับซ้อน

 

นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ โมเดลเดียวกันนี้เคยถูกใช้ในโครงการกาสิโนญี่ปุ่น เช่น ความร่วมมือระหว่าง MGM กับ ORIX และในกรณีของไทยก็ยิ่งจำเป็นมากขึ้นเมื่อพิจารณาจากบริบททางการเมืองและกฎหมายที่ยังมีความคลุมเครือ

 

3. ความเสี่ยงด้านกฎหมายจากรัฐเนวาดา

หนึ่งในความท้าทายที่ซับซ้อนและเฉพาะทางที่สุดคือ “กฎระเบียบของรัฐเนวาดา” ซึ่งเป็นบ้านของผู้ประกอบการกาสิโนรายใหญ่ระดับโลกอย่าง MGM และ Wynn โดยกฎหมายของรัฐนี้กำหนดให้นักลงทุนต้องขออนุญาตเป็นพิเศษหากต้องการดำเนินกิจการในต่างประเทศ และต้องสามารถพิสูจน์ความโปร่งใส ปราศจากอาชญากรรมหรือการทุจริต

 

นักลงทุนที่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐเนวาดาอาจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการเข้าร่วมในตลาดไทยที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์การกำกับดูแลกาสิโนมาก่อน  จะเสี่ยงต่อใบอนุญาตเดิมของพวกเขาหรือไม่ จุดนี้จึงกลายเป็นอุปสรรคเชิงจิตวิทยาและเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ

 

4. ความไม่แน่นอนทางการเมือง: เงื่อนไขที่ลงทุนไม่ได้ควบคุม

สถานการณ์ทางการเมืองของไทยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นักลงทุนไม่สามารถมองข้าม ความเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลหรือความเสี่ยงต่อเหตุการณ์ทางการเมือง เช่น การรัฐประหารในอดีต คือปัจจัยที่ทำให้การลงทุนในโครงการระยะยาว เช่น เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีความไม่แน่นอนสูง

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมกาสิโนหลายรายแนะนำว่า นักลงทุนควรจับคู่กับนิติบุคคลไทยที่มีเครือข่ายทางการเมืองมั่นคง โดยเฉพาะในภาวะที่ความมั่นคงยังเป็นเครื่องหมายคำถาม

 

5. คำถามเรื่องประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย

แม้จะมีการร่างกฎหมายขึ้นมาอย่างเข้มงวดเพียงใด แต่ปัญหาการบังคับใช้ยังเป็นข้อกังวลที่จริงจัง โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยยังเผชิญปัญหาการบังคับใช้กฎหมายในชีวิตประจำวัน เช่น กฎหมายเรื่องหมวกนิรภัย หรือการควบคุมการละเมิดกฎหมายในระดับท้องถิ่น

 

นักวิเคราะห์หลายรายเตือนว่า หากรัฐบาลเร่งเดินหน้าโดยไม่ฟังเสียงจากผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม และไม่สร้างกลไกการบังคับใช้ที่โปร่งใสและน่าเชื่อถือ ความน่าเชื่อถือของระบบทั้งหมดอาจสั่นคลอนได้ง่าย

 

บทส่งท้าย: โอกาสที่ยังเปิดกว้าง…แต่ต้องกล้าปรับโครงสร้าง

โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของไทยถือเป็น “จุดเปลี่ยน” ครั้งสำคัญที่อาจยกระดับเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมบริการของประเทศ แต่โอกาสนี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ อยู่ที่ความกล้าของรัฐบาลไทยในการเผชิญหน้ากับความท้าทายโครงสร้างทั้งด้านกฎหมาย การเมือง และการกำกับดูแล

 

ประเทศไทยสามารถเป็น “จุดหมายใหม่” ที่นักลงทุนระดับโลกอยากเข้ามา หากสามารถสร้างระบบที่มั่นคง โปร่งใส และเอื้อต่อการลงทุนระยะยาวอย่างแท้จริง