ท่าเรือระนองบูม รับสินค้าทะลัก 'มนพร' สั่งขยายพื้นที่ เชื่อมเศรษฐกิจภาคใต้
ท่าเรือระนองกลายเป็นประตูการค้าทางทะเลฝั่งอันดามันที่คึกคักอย่างไม่เคยมีมาก่อน หลังยอดนำเข้า-ส่งออกสินค้าพุ่ง 200% 'มนพร เจริญศรี' ขานรับนโยบายรัฐบาล สั่งการท่าเรือฯ เร่งขยายพื้นที่ เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) หวังยกระดับโลจิสติกส์ไทยสู่สากล
KEY
POINTS
- ท่าเรือระนองโตก้าวกระโดด: ยอดนำเข้า-ส่งออกพุ่ง 200% จากปัญหาชายแดนเมียนมา สินค้าทะลัก ดันระนองฮับใหม่ขนส่งทางทะเลฝั่งอันดามัน
- รัฐบาลเร่งขยายท่าเรือ รับ SEC: 'มนพร' สั่งการท่าเรือฯ ขยายพื้นที่-สิ่งอำนวยความสะดวก รองรับสินค้าเพิ่ม เสริมศักยภาพระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ยกระดับโลจิสติกส์ไทย
ท่าเรือระนองกลายเป็นประตูการค้าทางทะเลฝั่งอันดามันที่คึกคักอย่างไม่เคยมีมาก่อน หลังยอดนำเข้า-ส่งออกสินค้าพุ่ง 200%
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม 'มนพร เจริญศรี' ขานรับนโยบายรัฐบาล สั่งการท่าเรือฯ เร่งขยายพื้นที่รองรับสินค้า พร้อมเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) หวังยกระดับโลจิสติกส์ไทยสู่สากล
สถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา และปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมืองเมียวดีและท่าขี้เหล็ก ซึ่งยืดเยื้อมาตั้งแต่ต้นปี 2567 ส่งผลกระทบต่อเส้นทางการค้าชายแดนไทย-เมียนมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ด่านแม่สอด จ.ตาก และด่านแม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเคยเป็นเส้นทางหลักในการนำเข้า-ส่งออกสินค้าไปยังเมียนมา และสินค้าผ่านแดน
ต้องเผชิญกับความท้าทาย ทำให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าหันมาใช้บริการท่าเรือระนองในจังหวัดระนองเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
"ปัจจุบันท่าเรือระนองมียอดการนำเข้า ส่งออกสินค้าพุ่งสูงขึ้น 200% เป็นผลมาจากสถานการณ์ความไม่สงบและปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองเมียวดี ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2567"
"ทำให้การนำเข้า ส่งออกไปประเทศเมียนมาและสินค้าผ่านแดนที่ปกติต้องผ่านด่านแม่สอด จังหวัดตาก และด่านแม่สาย จังหวัดเชียงราย ย้ายมาใช้บริการผ่านด่านจังหวัดระนองเพิ่มมากขึ้น" -
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมได้เห็นถึงโอกาสทางเศรษฐกิจการขนส่งสินค้าทางทะเลฝั่งอันดามัน สอดคล้องกับนโยบาย
“คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” ที่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและพัฒนาการบริการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
จึงได้กำชับให้ท่าเรือระนอง ภายใต้การกำกับดูแลของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เตรียมความพร้อมท่าเทียบเรือ พื้นที่ลานวางตู้สินค้า
รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกในการให้บริการขนส่งสินค้า เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าจากประเทศเมียนมา
อีกทั้งเป็นการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจและเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศในระยะยาว
พร้อมรองรับการเป็นระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC)
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของท่าเรือระนองในการพัฒนาศักยภาพการให้บริการด้านการขนส่งโลจิสติกส์ของภาคใต้ให้มีศักยภาพและเติบโตมากยิ่งขึ้นต่อไป
ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 เป็นต้นมา ท่าเรือระนองมีสินค้านำเข้า – ส่งออกเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และการส่งออกผลิตภัณฑ์สุขภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค และกระดาษม้วน
การดำเนินงานในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 – กันยายน 2567)
- มีเรือเทียบท่าทั้งสิ้น 281 เที่ยว เพิ่มขึ้น 69%
- ตู้สินค้าผ่านท่า 2,796 ตู้ เพิ่มขึ้น 111%
- สินค้าผ่านท่า 324,933 ตัน เพิ่มขึ้น 251%
เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม – ธันวาคม 2567)
- มีเรือเทียบท่า 61 เที่ยว เพิ่มขึ้น 91%
- ตู้สินค้าผ่านท่า 2,002 ตู้ เพิ่มขึ้น 458%
- สินค้าผ่านท่า 21,294 ตัน เพิ่มขึ้น 26%
“การเติบโตของท่าเรือระนอง สะท้อนถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยและอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นตลาดสำคัญสำหรับสินค้าส่งออกของไทย ” - นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท.
ขณะที่การนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สะท้อนถึงความต้องการวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ที่เติบโตขึ้น
นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของปริมาณเรือและตู้สินค้าชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของท่าเรือระนองในการเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลฝั่งอันดามัน
ที่ช่วยสนับสนุนเป้าหมายของ กทท. ในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของระบบโลจิสติกส์ไทยในระดับภูมิภาค
ทั้งนี้ กทท. พร้อมพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกในท่าเรือทั้ง 5 แห่ง ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
ปัจจุบันท่าเรือระนองมีท่าเทียบเรือทั้งหมด 2 ท่า ได้แก่
- ท่าเทียบเรืออเนกประสงค์ รองรับเรือสินค้าขนาด 500 ตันกรอส
- ท่าเทียบเรือตู้สินค้า รองรับเรือได้ไม่เกิน 12,000 เดทเวทตัน
มีพื้นที่ฝากเก็บสินค้า ประกอบด้วย
- โรงพักสินค้าขนาด 1,500 ตารางเมตร
- ลานวางสินค้าทั่วไปขนาด 7,200 ตารางเมตร
- ลานวางตู้สินค้าขนาด 11,000 ตารางเมตร สามารถวางตู้สินค้าได้ประมาณ 800 ทีอียู


