'พิมพ์ภัทรา'สั่งสืบหาข้อเท็จจริงไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมีระยอง
พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม สั่งเกาะติดไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมีระยอง กำชับ อธิบดีกรมโรงงาน สืบหาข้อเท็จจริง เพราะมีคำสั่งปิดโรงงานมาก่อนหนี้แต่ยังเก็บสารเคมีอันตรายไว้
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมีของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด บ้านหนองพะวา อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งจนถึงช่วงบ่ายก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ว่า ได้สั่งการไปยังปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจ.ระยอง ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานให้ทราบเป็นระยะ
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการไปยังอธิบกรมโรงงานอุตสาหกรรม ให้สืบสวนข้อเท็จจริง เนื่องจากบริษัทดังกล่าว ได้สั่งปิดไปแล้ว แต่ยังมีการเก็บสารเคมีอันตรายไว้ในบริเวณโรงงาน เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ จึงลุกลามเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงขอให้เร่งหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ
“เรื่องนี้ส่งผลกระทบกับประชาชนในวงกว้างดิฉันได้สั่งการให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนแล้วพร้อมย้ำ ให้ดูแลประชาชนบริเวณโดยรอบ ให้เรียบร้อยด้วย‘‘รมว.อุตสาหกรรม กล่าว
เพลิงลุกไหม้ ภายในโกดังจัดเก็บกากสารเคมี ของ บริษัท วิน โพรเสส จำกัด (ประกอบกิจการขยะรีไซเคิล) ตั้งอยู่เลขที่ 84/1 หมู่ที่ 4 ตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ตั้งแต่เมื่อเวลา 09.00น. สาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบและจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปกว่า6ชม.สำนักงาน ปภ. จังหวัดระยอง รายงานว่าเพลิงยังคงลุกไหม้ แต่ได้ควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดมีหน่วยงานต่างๆนำรถดับเพลิงโฟม จำนวน 8 คัน รถบรรทุกน้ำ 8 คัน และรถกู้ชีพ กู้ภัย จำนวน 5 คัน รวมจำนวน 21 คัน เจ้าหน้าที่รวมจำนวน 50 คน เข้าทำการระงับเหตุ
ศูนย์ควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ได้ติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศโดยรอบบริเวณพื้นที่โรงงานดังนี้
1. ชุมชนโดยรอบโดยเฉพาะบริเวณทางด้านท้ายลม ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศเหนือของพื้นที่โรงงาน ปรากฎว่า ผลการตรวจสอบคุณภาพอากาศเบื้องต้นคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ มีการตรวจสอบพบไอระเหยสารเคมีเล็กน้อย บริเวณห่างจากโรงงานไปทางด้านทิศเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้มีการติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง จนกว่าเหตุการณ์จะยุติ และได้มีการแจ้งผลการตรวจสอบให้หน่วยงานท้องถิ่น ได้แก่ อบต.บางบุตร และพื้นที่ข้างเคียงได้รับทราบเพื่อประสานและแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์จนกว่าเหตุการณ์จะยุติ
2. ดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ในการจัดการเหตุฉุกเฉินด้านสารเคมีดังกล่าว โดยมีการให้การสนับสนุนเข้าร่วมตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ตรวจสอบการตกค้างของสารเคมีในสิ่งแวดล้อมและประมวลผลเทียบกับมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม แจ้งผลการตรวจสอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแนะนำในการจัดการมลพิษอันเกิดจากเหตุฉุกเฉินสารเคมีและวัตถุอันตราย