posttoday

10 เทรนด์เทคโนโลยีพลังงานสะอาดยอดนิยมในปี 2024

09 มีนาคม 2567

S&P Global Commodity Insights ผู้ให้บริการชั้นนำในด้านข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลตลาดสินค้าและพลังงาน ได้ออกรายงานล่าสุดเกี่ยวกับ 10 เทรนด์เทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่น่าจับตามองทั่วโลกในปี 2024

1. การลงทุนด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาดจะมีมูลค่าเกือบ 800พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี2030

S&P Global Commodity Insights ได้ทำการคาดการณ์การลงทุนประมาณ 800 พันล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยีพลังงานสะอาด (Clean Energy Technology, CET) ในปี 2024 ซึ่งอาจเพิ่มขึ้น10-20% จากระดับการใช้จ่ายในปี 2023 โดยสัดส่วนการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ55% ของการลงทุนใน CET ทั้งหมด ขณะที่พลังงานลมบนบก(Onshore Wind) จะเป็นสัดส่วนที่ใหญ่เป็นอันดับสอง ส่วนการลงทุนที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดดคือ การลงทุนด้านแบตเตอรี่การจัดเก็บพลังงาน (Battery Storage System, BSS)

 

2. ค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนโดยเฉลี่ยของเทคโนโลยีพลังงานสะอาดจะมีแนวโน้มลดลง 15-20% ภายในปี 2030

แม้ว่าต้นทุนพลังงานลมนอกชายฝั่ง (Offshore Wind) และพลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen) จะเพิ่มขึ้น แต่อุปทานส่วนเกินและราคาวัสดุอุปกรณ์ที่ลดลงจะช่วยให้ต้นทุนเฉลี่ยของเทคโนโลยีพลังงานสะอาดยังคงลดลงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2030 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคาต้นทุนของเทคโนโลยีพลังงานโซล่าเซลส์และแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานมีการลดลงอย่างรวดเร็ว ส่วนเทคโนโลยีเกิดใหม่อื่นๆ เช่น ไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen)และ CCUS (Carbon Capture, Utilization and Storage) กลับพบว่ามีต้นทุนที่สูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่เป็นสัดส่วนที่เล็กน้อยต่อการลงทุนในด้านเทคโนโลยีพลังงานในภาพรวม

 

10 เทรนด์เทคโนโลยีพลังงานสะอาดยอดนิยมในปี 2024

 

3. ผู้ผลิตเทคโนโลยีพลังงานสะอาดกำลังสร้างแกนหลักในการลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonization Core) ทั้งในด้านทั้งผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ทางธุรกิจ

อุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนที่กำลังเผชิญกับการตรวจสอบอย่างละเอียดในด้านการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบของวัสดุอุปกรณ์พลังงานทดแทน ในขณะที่ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การลด carbon footprint ของชิ้นส่วนอุปกรณ์ในห่วงโซ่อุปทาน แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์พลังงานหมุนเวียนไม่เพียงแต่พัฒนากลยุทธ์ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นแกนหลักของผลิตภัณฑ์ของตนมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีความตั้งใจสูงที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก่อนปี 2030 ในทุกภาคส่วนของกิจกรรมการผลิตชิ้นส่วนพลังงานทดแทน เพื่อเป็นการช่วยการันตีความโปร่งใสของการประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ โดยเน้นไปที่ 2 ประเด็นหลัก คือ 1.) การใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานน้ำ และ 2.) การลดการใช้วัตถุดิบลงอย่างต่อเนื่อง (เช่น โพลีซิลิคอน หรือซิลเวอร์) พร้อมทั้งการสนับสนุนในด้าน R&D เทคโนโลยีการผลิตใหม่ที่สามารถใช้วัสดุที่มีคาร์บอนฟุตปริ้นต่ำได้

 

4. อุปทานล้นตลาด (Oversupply) กำลังผลักดันผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์เข้าสู่สงครามราคา (price war)

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์และแบตเตอรี่มีอัตรากำไรที่ค่อนข้างมั่นคง แต่กำลังเผชิญอัตรากำไรที่ลดลงในปี 2024 โดยทางผู้จัดจำหน่ายและผู้ติดตั้งโซล่าเซลส์อาจต้องรับภาระจากสินค้าคงคลังในสต็อคที่สูงกว่าราคา ณปัจจุบัน และอาจเผชิญกับการตัดราคาจากคู่แข่งจนอาจมีผลต่อความเสี่ยงด้านการเงินอุปทานส่วนเกินและราคาวัตถุดิบที่ลดลงในตลาดโมดูลโซล่าเซลส์และตลาดแบตเตอรี่ทำให้เกิดสงครามราคาในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 และลากยาวมาจนถึงปีนี้ ซึ่งอาจสร้างความท้าทายให้กับผู้ผลิตรายเล็กและรายย่อยที่ไม่ได้มีต้นทุนแบกรับความเสี่ยงได้นาน



10 เทรนด์เทคโนโลยีพลังงานสะอาดยอดนิยมในปี 2024

 

5. มีการคาดการณ์ว่าการประมูลกำลังการผลิตพลังงานลมนอกชายฝั่ง (Offshore Wind) จะสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2024 ถึงแม้ว่าต้นทุนการผลิตจะสูงขึ้นก็ตาม

ถึงแม้ว่าต้นทุนการผลิตพลังงานลมนอกชายฝั่ง (Offshore Wind) มีแนวโน้มสูงขึ้นเนื่องจากปัญหาคอขวดในระบบ ห่วงโซ่อุปทาน(supply chain) และต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากการประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความสนใจในการลงทุนในด้านพลังงานลมนอกชายฝั่งที่พุ่งสูงขึ้นอย่างล้นหลามได้เลย จากข้อมูลระบุว่ามีกำลังการผลิตใหม่มากกว่า 60 GW ได้ถูกประมูลในหลายๆตลาดอย่างน้อย 17 แห่ง ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลในขอบเขตของพลังงานลมนอกชายฝั่ง (Offshore Wind) ซึ่งเทียบได้ว่าเพียงพอที่จะครอบคลุมความต้องการการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของประเทศโปแลนด์เลยก็ว่าได้ ความสามารถในการประมูลที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์นี้ถือเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงความทุ่มเทอย่างแน่วแน่ของตลาดพลังงานทดแทนเพื่อเป็นการพัฒนาและยอมรับเทคโนโลยีที่สำคัญนี้ในอนาคตอันใกล้

 

6. บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตกังหันพลังงานลมจากชาติตะวันตกกำลังเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นจากชาติตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศจีน

ในอดีต ตลาดการผลิต/จำหน่ายวัสดุอุปกรณ์กังหันลมทั่วโลกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆได้แก่ ผู้ผลิตในจีนประมาณ 15 รายที่ขายภายในประเทศและบริษัทจากชาติตะวันตกประมาณ 4 รายที่ขายทั่วโลก แต่งบดุลการเงินของชาติตะวันตกอ่อนตัวลงเนื่องจากปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นมาก, ตลาดห่วงโซ่อุปทานแปรปรวนม และพันธสัญญาระหว่างประเทศที่ยุ่งเหยิงซับซ้อน แต่ในทางตรงกันข้าม ผู้ผลิตกังหันพลังงานลมจากประเทศจีนกำลังได้เปรียบในด้านการแข่งขันภายในตลาดต่างประเทศเนื่องจากการมีตุ้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า เทคโนโลยีการผลิตที่สูงกว่า และการลงทุนในด้านห่วงโซ่อุปทานใหม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับข่าวเมื่อไม่นานมานี้ในด้านความสำเร็จของประเทศจีนที่กำลังการผลิตกังหันลมแซงหน้าบริษัทจากชาติตะวันตกอย่างน้อย 30% ขณะที่ช่องว่างด้านราคาได้สูงขึ้นใกล้เคียง 70% ระหว่างบริษัทจากทั้งสองประเทศ สิ่งที่สามารถคาดการณ์ได้ในปีนี้ คือ การแข่งขันด้านเทคโนโลยีและการแข่งขันด้านราคาจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้นเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดกังหันพลังงานลม

 

10 เทรนด์เทคโนโลยีพลังงานสะอาดยอดนิยมในปี 2024

 

7. มีการคาดการณ์ว่าทั่วโลกจะให้ความสนใจพลังงานไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำมากขึ้นเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นสำหรับแอมโมเนียมีเทนสังเคราะห์ และของเหลวสังเคราะห์

ด้วยความช่วยเหลือจากเงินอุดหนุนและแรงผลักดันจากข้อบังคับการลงทุนในพลังงานไฮโดรเจนในฐานะวัตถุดิบตั้งต้นกำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ในขณะนี้ ดังเช่นตัวอย่างประเทศเดนมาร์กที่มีการประมูลพลังงานไฮโดรเจนสีเขียวเพื่อเป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงงานผลิตอิเล็กทรอนิกส์และเมทานอลอย่างแพร่หลาย ผลตอบรับที่ดีของประเทศเดนมาร์กสะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ในทิศทางการประมูลพลังงานไฮโดรเจนในสหภาพยุโรปผ่านทางธนาคารไฮโดรเจนยุโรป (European Hydrogen Bank) ซึ่งมีเป้าหมายให้การสนับสนุนด้านการเงินสูงถึง800 ล้านยูโรแก่ผู้ผลิตพลังงานไฮโดรเจนหมุนเวียน ส่วนประเทศในตะวันออกกลาง โรงงานไฮโดรเจนสีน้ำเงินและไฮโดรเจนสีเขียวหลายแห่งกำลังดำเนินการอยู่ โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการการใช้พลังงานจากสหภาพยุโรปและประเทศญี่ปุ่น

 

8. ปี 2024 จะเป็นปีสำคัญในการกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(Carbon Dioxide Removal, CDR) โดยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุดในปัจจุบัน

การพัฒนากรรมวิธีอย่างรวดเร็วในการตรวจสอบการให้ Carbon Credits และการรับรองเทคโนโลยี CDR พร้อมด้วยเงินทุนจำนวนมากสำหรับการรองรับ CDR Technology เป็นตัวผลักดันที่ดีเยี่ยมสำหรับโครงการ (ประมาณการว่าคาร์บอนจำนวน 88 ล้านเมตริกตันต่อปีจะได้รับการดักจับได้ภายในปีนี้ ผ่านทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน เช่น Carbon Capture, Utilization, and Storage or CCUS) ดังนนั้น กรรมวิธีต่างๆในการกำจัดคาร์บอนถูกยกให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ ด้วยคุณสมบัติทางเทคโนโลยีที่คงทนและเป็นกรรมวิธีที่สามารถติดตามผลการดำเนินการของโครงการได้เป็นอย่างดี


10 เทรนด์เทคโนโลยีพลังงานสะอาดยอดนิยมในปี 2024

 

9. ความพยายามในการบรรเทาความแออัดของโครงข่ายระบบส่งไฟฟ้าและข้อจำกัดด้านใบอนุญาติต่างๆ จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนต่อไป

หนึ่งในสองพันธกิจหลักที่จะออกมาในการประชุม COP ครั้งที่ 28 คือ การเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานทดแทนเป็นสามเท่าภายในปี2030 ให้สูงถึง 11 Terawatt ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มที่คาดการณ์พลังงานหมุนเวียนจาก S&P Global Commodity Insights เป็นที่คาดการณ์ว่าสัดส่วนกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสะอาดที่ติดตั้งได้รวดเร็วที่สุด

แต่อย่างไรก็ตาม ความล่าช้าในการเชื่อมต่อโครงข่ายระบบไฟฟ้าและความแออัดของโครงข่ายกำลังเป็นปัญหาคอขวดที่สำคัญในการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลก รวมไปถึงการชะลอการสร้างแหล่งกักเก็บพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตได้ ซึ่งในปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกก็กำลังพยายามแก้ปัญหาเหล่านี้อยู่

 

10. ผู้ปฏิบัติงานระบบส่งและควบคุมกำลังระบบไฟฟ้า(Transmission System Operator, TSO) จำเป็นต้องประเมินความยืดหยุ่นของการใช้พลังงานตั้งแต่ปี 2025 ซึ่งจะมีผลต่อแรงขับเคลื่อนในการจัดซื้อการจัดเก็บพลังงานขนาดใหญ่ในอนาคต

พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์มากกว่า 1 TW จะถูกติดตั้งทั่วโลกในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้การติดตั้งพลังงานหมุนเวียนโดยรวมทั่วโลกเพิ่มเป็นจำนวน 3.5 TW ซึ่งจะส่งผลในการไปกดดันให้เกิดความต้องการเร่งด่วนสำหรับระบบไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ระบบไฟฟ้าที่ต้องพึ่งพาการผลิตพลังงานหมุนเวียนเป็นระยะๆ (intermittency issues เช่น พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์) จำเป็นต้องมี 'ความยืดหยุ่น' เพิ่มขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าการจำหน่ายไฟฟ้าจะสมดุลกับความต้องการการใช้ไฟฟ้า ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานระบบส่งและควบคุมกำลังระบบไฟฟ้า(TSO) มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า เช่น การจัดเก็บพลังงานและการตอบสนองความต้องการการใช้พลังงาน (Demand-Side Response, DSR) จะพร้อมใช้งานเมื่อจำเป็น แนวโน้มนี้ได้รับการส่งเสริมในเดือนมีนาคมปี 2023 ในช่วงที่มีข้อเสนอการออกแบบตลาดซื้อขายไฟฟ้าโดยระบุว่าประเทศต่างๆในสหภาพยุโรปจะต้องประเมินข้อกำหนดด้านความยืดหยุ่นของระบบไฟฟ้าของประเทศตนเองทุกๆ 2 ครั้งต่อปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2025 เป็นต้นไป


10 เทรนด์เทคโนโลยีพลังงานสะอาดยอดนิยมในปี 2024

 

โดยสรุปแล้ว การลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานสะอาดถูกคาดการณ์ไว้ว่าจะโตประมาณ 15% ภายในปี 2024 ซึ่งอาจมีมูลค่าสูงถึง 8 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีเทคโนโลยีหลักคือพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนในด้านนโยบายหลักๆคือการขับเคลื่อนเทคโนโลยีการดักจับและการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) การกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CDR) และการลงทุนในด้านพลังงานไฮโดรเจน ในรายงานได้เน้นย้ำถึงการลดลงอย่างต่อเนื่องของต้นทุนเฉลี่ยในการเพิ่มจำนวนพลังงานสะอาด โดยมีอัตราลดลงของต้นทุนประมาณ 15-20% ภายในปี 2030 และยังส่งผลไปถึงการจับตาเกี่ยวกับเทคโนโลยีการจัดเก็บพลังงานในแบตเตอรี่(Battery Energy Storage System) 

 

การติดตั้งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลกจะมีแนวโน้มพุ่งสูงถึง 1 เทราวัตต์ (TW) ภายใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้กำลังการติดตั้งทั่วโลกเป็น 3.5 TW และจะไปเพิ่มความกดดันต่อความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับระบบไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น การพึ่งพิงพลังงานหมุนเวียนจำเป็นที่จะต้องนำเทคโนโลยีอื่นๆเข้ามาร่วมด้วย เช่น Battery Energy Storage System (BESS) หรือ Demand-Side Response (DSR) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับระบบไฟฟ้า แต่อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมพลังงานกังหันลมนอกชายฝั่ง(Offshore Wind) ได้ถูกกำหนดให้ปีนี้เป็นปีแห่งปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากมีการประมูลกำลังผลิตพลังงานลมใหม่มากถึง 60 Gigawatt (GW) ภายในอย่างน้อย 17 แห่ง ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เราคงต้องจับตาดูการแข่งขันอย่างรุนแรงในด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาดต่อไป และบทบาทที่ประเทศไทยสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการแข่งขันนี้ได้อย่างไรต่อไปในปี 2024


 

 

 

10 เทรนด์เทคโนโลยีพลังงานสะอาดยอดนิยมในปี 2024

 

 

 

 

 

 

ดร.ณัทกฤช อภิภูชยะกุล

ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร