สยามแก๊สบูมค้าส่งประตูน้ำรอบใหม่

ทุนสยามแก๊สไล่เทคตึกเก่า ลุยค้าปลีก ค้าส่ง โรงแรม ปลายปี พร้อมเปิด 2 โครงการยักษ์ ย่านประตูน้ำ ย่านวังบูรพา มูลค่ารวมกว่า 1.2 หมื่นล.  

นายเกริกเกียรติ ภูริมาภรณ์ รองประธานกรรมการ บริษัท บวรพงศ์ ในเครือพรหมมหาราช พัฒนาที่ดิน และกลุ่มสยามแก๊ส เปิดเผยว่า นับจากนี้บริษัทจะมีแผนที่จะกลับมาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่อง โดยไม่จำกัดรูปแบบการลงทุน ขึ้นอยู่กับทำเลที่หาได้ว่าเหมาะกับอสังหาริมทรัพย์ประเภทใด โดยประเดิมเปิดตัว 2 โครงการขนาดใหญ่ในช่วงปลายปีนี้ ที่บริษัทได้ซื้ออาคารเก่ามาปรับปรุง มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท

จากก่อนหน้านี้บริษัทได้เคยลงทุนพัฒนาโครงการศูนย์ค้าส่งโบ๊เบ๊ ทาวเวอร์ และโรงแรมปริ้นท์ พาเลซมาตั้งแต่ก่อนปี 2540 และลงทุนต่อเนื่องในสัดส่วน 50% ในโครงการประตูน้ำ เซ็นเตอร์ ซึ่งโครงการขนาดใหญ่พื้นที่กว่า 2 แสนตารางเมตร บนพื้นที่ 14 ไร่ บริเวณแยกประตูน้ำ แต่ยอมรับว่าโครงการดังกล่าวประสบปัญหาหลายด้าน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องชะลอการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่วิกฤติปี 2540

ปัจจุบันบริษัทจัดการปัญหาให้กับโครงการประตูน้ำ เซ็นเตอร์ได้แล้วเสร็จ โดยได้ซื้อหุ้นโครงการดังกล่าวคืนทั้งหมด ด้วยเม็ดเงินลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็นพาราเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง และปรับรูปแบบใหม่ทั้งหมด และเป็นโครงการที่จะเปิดให้บริการอีกครั้งในปลายปีนี้ แบ่งเป็น ศูนย์ค้าส่งเสื้อผ้าและแฟชั่น อาคารสำนักงาน และโรงแรม 4 ดาวจำนวน 800 ห้อง คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท

สำหรับส่วนที่เป็นคอนโดมิเนียมเดิม ได้ยกเลิกการขาย และคืนเงินให้กับลูกค้าที่ได้จองห้องชุดในโครงการนี้แล้ว เนื่องจากโครงการนี้อยู่บนพื้นที่เช่าของกรมศาสนา จึงมองว่าคอนโดฯ ลักษณะขายสิทธิการเช่าไม่เหมาะกับตลาดในไทย

นอกจากนี้ บริษัทยังลงทุนต่อเนื่องด้วยการซื้อห้างสรรพสินค้าเมอรี่คิงส์ วังบูรพาเก่าจากเจ้าของเดิม 1,000 ล้านบาทมาเมื่อปีที่แล้ว เพื่อปรับปรุงเป็นศูนย์การค้าไอที ภายใต้ชื่อ เมก้าเพลย์ วังบูรพา และใช้เม็ดเงินในการปรับปรุง 400-500 ล้านบาท ซึ่งหลังจากปรับปรุงแล้วโครงการนี้จะมีมูลค่าอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดจองพื้นที่ขายแล้ว 15% คาดว่าก่อนศูนย์การค้าเปิดจะมียอดจองพื้นที่ 80%

บริษัทได้เตรียมเม็ดเงินประมาณ 600 ล้านบาทในการทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์ให้กับ 2 ค้าปลีกที่กำลังจะเปิดตัวต่อเนื่อง 3 ปี แบ่งเป็น พาราเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง จะใช้งบการตลาด 550 ล้านบาท และเมก้าเพลย์ วังบูรพา ใช้งบการตลาด 40 ล้านบาท

ในปีหน้าบริษัทจะเริ่มมีรายได้จากการปล่อยเช่าพื้นที่ค้าปลีกทั้ง 2 ศูนย์การค้า และเตรียมลงทุนต่อเนื่องในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท โดยตั้งเป้าจะมีรายได้จากการปล่อยเช่าพื้นที่ค้าปลีก 60% และรายได้จากโรงแรม 40%

สำหรับภาพรวมตลาดค้าส่ง และค้าปลีกต่างๆ บริษัทมั่นใจว่ายังมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่อง หากเลือกเซกเมนท์ตลาดให้ดี ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์ค้าส่ง ค้าปลีกเสื้อผ้า แฟชั่น หรือไอที และต้องเหมาะกับทำเลนั้นๆ ซึ่งทำเลในย่านการค้าเก่าทุกแห่ง มีโอกาสที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์การค้าสมัยใหม่ทั้งสิ้น