posttoday

ทายาทน้ำเมา "ปณต สิริวัฒนภักดี" คุม "ทีซีซี แลนด์"

17 พฤษภาคม 2554

ผ่าแนวคิดทายาทเบียร์ช้าง ได้ฤกษ์นั่งแท่นคุมอสังหาฯ

ผ่าแนวคิดทายาทเบียร์ช้าง ได้ฤกษ์นั่งแท่นคุมอสังหาฯ

โดย...วราพงษ์ ป่านแก้ว

ขึ้นชื่อเป็นแลนด์ลอร์ดตัวจริงเสียงจริงของเมืองไทย เพราะ เจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ บริษัท ทีซีซี กรุ๊ป เก็บสะสมที่ดินมาตลอด แม้จะไม่มีใครในตระกูลสิริวัฒนภักดี หรือคนในทีซีซี กรุ๊ป บอกจำนวนที่ชัดเจนถึงปริมาณแลนด์แบงก์ที่มีอยู่ แต่เชื่อเถอะว่าตระกูลสิริวัฒนภักดีมีที่ดินไม่เป็นสองรองใครในประเทศนี้แน่นอน

ที่ดินในมือของเจ้าสัวเบียร์ช้าง ถูกแปรสภาพสร้างมูลค่าเพิ่มในหลายๆ ทางในหลายปีที่ผ่านมา ผ่านบริษัท ทีซีซี แลนด์ และบริษัท ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ แม้ว่าจะไม่ถึงขนาดเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ถ้าลองทีซีซี แลนด์ ขยับทำอะไรขึ้นมาสักอย่าง ย่อมตกเป็นเป้าของความสนใจ เพราะทั้งที่ (ดิน) เยอะ ทั้งทุนหนัก ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน

ทายาทน้ำเมา "ปณต สิริวัฒนภักดี" คุม "ทีซีซี แลนด์" ปณต

ปณต สิริวัฒนภักดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท ทีซีซี แลนด์ หนึ่งในทายาทกลุ่มทุนเบียร์ช้าง ถูกขยับกระชับวงให้เข้ามาช่วยดูธุรกิจที่ดินของตระกูล บอกว่า หลักการพัฒนาที่ดินของบริษัทจะเน้นการเติบโตอย่างมั่นคงไปพร้อมกับเศรษฐกิจของประเทศ และมีส่วนช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจกับธุรกิจของเราโตไปพร้อมๆ กัน แต่กลุ่มทำธุรกิจที่ค่อนข้างจะเป็นเรื่องส่วนตัว ทำให้ไม่ต้องการพูดถึงเรื่องตัวเลขนัก

หลายๆ โครงการที่ทีซีซี แลนด์ ทำจะเน้นไปที่ประโยชน์ คุณค่าที่จะได้รับมากกว่าตัวเลขรายได้ หรือผลกำไร ตัวอย่างล่าสุดคือ การนำที่ดินทำเลทองริมแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 72 ไร่ มูลค่าแค่ราวๆ 6,000 ล้านบาท ย่านเจริญกรุง มาพัฒนาเป็นโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ในแนวคิด ธีม รีเทล ทั้งๆ ที่ที่ดินแปลงนี้มีศักยภาพสูง เพียงพอที่จะพัฒนาโครงการระดับไฮเอนด์ ระดับหลายหมื่นล้านบาทได้อย่างสบายๆ

"ที่จริงมีคนเสนอให้ทำโครงการ HighRise ขนาดใหญ่ แต่ท่านประธาน (เจริญ สิริวัฒนภักดี) ต้องการจะให้คงคุณค่าของที่ดินแปลงนี้ไว้ เพราะเป็นท่าเรือและโกดังเก่าของบริษัท อี๊สต์เอเชียติ๊ก ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ถือเป็นประตูการค้าไทยยุโรปครั้งแรก การพัฒนาโครงการจึงต้องคำนึงถึงการรักษาคุณค่าของที่ดินที่มีอยู่มาอย่างยาวนานด้วย" ปณต บอกที่มาที่ไปของบิ๊กโปรเจกต์ล่าสุด

สำหรับโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ จะแบ่งการพัฒนาที่ดินที่มีอยู่ 72 ไร่ ที่อยู่ระหว่างซอยเจริญกรุง 72-76 มีที่ดินติดริมน้ำยาวประมาณ 300 เมตร เป็น 4 เฟส ในเฟสแรกที่จะเริ่มเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้จะเป็น ธีม รีเทล ที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยว และช็อปปิ้ง สำหรับคนไทยและต่างชาติ ภายใต้แนวคิด เฟสติวัล มาร์เก็ต แอนด์ ลิฟวิ่ง มิวเซียม ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีพื้นที่ค้าปลีกรวมกัน 3 หมื่น ตร.ม. ใช้เงินลงทุนเฉพาะการก่อสร้างปรับปรุงประมาณ 1,000 ล้านบาท

ส่วนเฟสที่ 2 ยังคงเป็นรีเทล ผสมผสานกับการเปิดพื้นที่สำหรับการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ เฟสที่ 3-4 คาดว่าจะเป็นโรงแรมซึ่งจะมีอย่างน้อย 2 โรงแรม และที่สำคัญ ทีซีซี แลนด์ ต้องการจะให้ที่ดินแปลงนี้มีแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ เหมือนที่อังกฤษมีลอนดอน อาย ฝรั่งเศสมีหอไอเฟล เป็นสิ่งที่ทีมงานและผู้บริหารคิดกันอยู่ เพราะโครงการนี้จะใช้เวลาพัฒนานานถึง 10 ปี
การพัฒนาพื้นที่ในเชิงพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกหลากหลายรูปแบบเป็นกลยุทธ์ที่ในระยะหลัง ทีซีซี แลนด์ ค่อนข้างเน้นเป็นพิเศษ เพราะที่ดินหลายๆ แปลงมีศักยภาพสูง จึงต้องยึดหลัก ขายแต่ไข่ไก่ แต่ไม่ยอมขายแม่ไก่ออกไป

นอกจากบิ๊กโปรเจกต์อย่างเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ในระยะ 12 ปีนี้ ทีซีซี แลนด์ จะมีศูนย์การค้าเพิ่มอีก 1 แห่ง คือ ดิจิตอล เกตเวย์ เอกมัย ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ มอลล์ กลางเมืองบริเวณหัวมุมถนนสุขุมวิท ตัดกับกล้วยน้ำไท เนื้อที่ 9 ไร่เศษ ใช้เงินลงทุน 2,000 ล้านบาท

"บริษัทจะพยายามขยายศักยภาพของรีเทลให้มากที่สุดด้วยแนวคิดใหม่ๆ ที่จะแตกต่างกันออกไป ใน 12 ปีนี้จะมีโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ และดิจิตอล เกตเวย์ เอกมัย เป็นหลัก ซึ่งเมื่อรวมพื้นที่ทั้งหมดบริษัทจะมีพื้นที่ค้าปลีกรวมกันถึง 7 แสน ตร.ม." ปณต เปรยถึงแผนรุกค้าปลีกระยะสั้น

นอกจากธุรกิจค้าปลีกแล้ว อีกขาธุรกิจหนึ่งของทีซีซี แลนด์ คือ การพัฒนาโรงแรม ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งแบรนด์โรงแรมที่ทีซีซี แลนด์ เป็นเจ้าของ และโรงแรมที่ใช้เชนเข้ามาบริหาร รวมกับโรงแรมของบริษัทในเครือ รวมแล้วกว่า 9,000 ห้อง

ปณต บอกว่า สำหรับธุรกิจโรงแรม บริษัทก็ยังพัฒนาต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างการรีแบรนด์โรงแรมอิมพีเรียล และอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงแรมฮิลตัน โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท และดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน ที่สุขุมวิท และโรงแรมที่สมุย มูลค่ารวมกันอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท

"ธุรกิจโรงแรมของบริษัทยังถือว่าไปได้ดีมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 60-70% ตลาดยังมีดีมานด์อยู่ตลอด จำนวนนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้ตกลง ขณะที่โรงแรมไทยถือว่ามีคุณภาพและบริการที่ดีกว่าในภูมิภาค แต่มูลค่าที่ได้กลับมายังถือว่าต่ำ"

ส่วนธุรกิจในเครือที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งมีบริษัท ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ เป็นขาหลัก วันนี้ ทีซีซี แลนด์ ได้เข้ามาถือหุ้นเต็มตัวอีกครั้งเมื่อทุนจากสิงคโปร์ แคปปิตาแลนด์ สิงคโปร์ ขายหุ้นมูลค่า 2,300 ล้านบาท คืนให้กับทีซีซี แลนด์ เรียบร้อยแล้ว

ปณต กล่าวถึงเบื้องหลังเล็กน้อยว่า ทางสิงคโปร์ต้องการให้บริษัทซื้อหุ้นคืน แต่ก็ยังทำงานร่วมกันอยู่ ยังคงปรึกษาให้ข้อมูลกันอยู่ เพราะยังถือเป็นพันธมิตรของบริษัทอยู่ แม้ว่าขณะนี้ทีซีซี แลนด์ จะถือหุ้นในทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ เต็ม 100% แล้วก็ตาม

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ากลุ่มทีซีซี แลนด์ จะเข้าไปซื้อหุ้นจาก ไรมอน แลนด์ เพื่อหวังจะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทางอ้อมนั้น ปณต พูดอย่างชัดเจนว่า บริษัทไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับไรมอน แลนด์ แต่อย่างใด

นี่คือมุมมองและความเคลื่อนไหวในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของผู้บริหารกลุ่มบริษัท ทีซีซี แลนด์ ทายาทเจ้าสัวเจริญที่ยังคงยึดคติ เล็กๆ ไม่ ต้องใหญ่ๆ เท่านั้น 

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ