2 ทายาทดุสิตธานี คู่ขัดแย้ง โต้ 'ชนินทธ์' ปม“ศึกสายเลือด”
2 ทายาท “ชนัตถ์ ปิยะอุย” คู่ขัดแย้ง 'ชนินทธ์' แถลงปมดุสิตธานี แจงประชุมวิสามัญเพื่อกู้กำไร โต้ข่าว CPN ฮุบกิจการ ย้ำมรดกยังไม่ตกลง และศาลเคยยกฟ้องคดีหุ้นแล้ว
จากกรณีที่นายชนินทธ์ โทณวณิก แถลงข่าวเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องการบริหารบริษัทในเครือดุสิตธานี
ล่าสุด นางสินี เธียรประสิทธิ์ และนางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค ทายาทของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อโต้แย้งข้อกล่าวหาของนายชนินทร์ โดยระบุว่าไม่มีนโยบายให้คนนอกเข้ามายึดอำนาจการบริหาร และการจัดการมรดกเป็นเรื่องภายในครอบครัว
แจงเหตุเรียกประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญ
แถลงการณ์ระบุว่า การยื่นขอให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) (DTC) เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายอย่างมีเหตุผลและมีเจตนาที่ดี เพื่อประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้น เนื่องจากบริษัทไม่ได้จ่ายเงินปันผลมานานกว่า 5 ปี และมียอดขาดทุนสะสมกว่า 1,254 ล้านบาท
บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ไม่สามารถนิ่งเฉยได้ จึงจำเป็นต้องเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการบริหารงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยจะเสนอเพิ่มจำนวนกรรมการเป็น 10 คน เพื่อให้ DTC กลับมามีกำไร ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้นโดยรวม
ยืนยันเซ็นทรัลพัฒนาไม่ได้เข้ามา "ฮุบกิจการ"
ส่วนกรณีที่นายชนินทร์กล่าวอ้างว่าการเสนอชื่อกรรมการใหม่บางคนที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเซ็นทรัล จะเป็นการเปิดทางให้คนนอกเข้ามาควบคุมกิจการนั้น แถลงการณ์ระบุว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ DTC มีข้อบังคับที่ชัดเจนว่า ห้ามขายหุ้นให้กับบุคคลภายนอก ซึ่งนายชนินทร์เองก็ทราบเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว
นอกจากนี้ การเชิญบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN) ซึ่งถือหุ้น DTC อยู่ถึง 17.09% และเป็นพันธมิตรหลักในโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท ให้ส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นกรรมการนั้น เป็นไปตามหลักการมีส่วนร่วมตามสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติปกติในทางธุรกิจ
ทั้งนี้ CPN ได้เสนอชื่อกรรมการเพียง 2 คน จากกรรมการใหม่ทั้งหมด 10 คน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ CPN จะเข้ามาควบคุมอำนาจบริหารหรือเข้ายึดกิจการดุสิตธานีตามที่เป็นข่าว พร้อมย้ำว่า CPN เป็นบริษัทที่มีความเป็นมืออาชีพและดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล จึงไม่มีความคิดที่จะ Take Over กิจการของ DTC อย่างแน่นอน
โต้ปมมรดก: ยังตกลงกันไม่ได้ และศาลเคยยกฟ้องแล้ว
ในประเด็นเรื่องมรดกของท่านผู้หญิงชนัตถ์ แถลงการณ์ระบุว่า เป็นเรื่องภายในครอบครัวและไม่เหมาะสมที่จะนำมาเผยแพร่สู่สาธารณะ พร้อมทั้งโต้แย้งข้อกล่าวหาของนายชนินทร์ที่ระบุว่าทายาททั้งสามได้ตกลงแบ่งทรัพย์มรดกกันเรียบร้อยแล้ว และตกลงให้นายชนินทร์ได้หุ้นทั้งหมดในบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด นั้น ไม่เป็นความจริง
แถลงการณ์ระบุว่า ทายาทยังตกลงกันไม่ได้ และข้อตกลงที่อ้างถึงก็ยังไม่เกิดขึ้น อีกทั้งในปี 2566 นายชนินทร์ได้ยื่นฟ้องนางสินีและนางสุนงค์ต่อศาลเพื่อบังคับให้โอนหุ้นบริษัทฯ ให้ตนเองแต่เพียงผู้เดียว แต่ในภายหลังศาลได้มีคำพิพากษา ยกฟ้อง โดยวินิจฉัยไว้อย่างชัดเจนว่าข้อตกลงดังกล่าว ยังไม่เกิดขึ้น
แถลงการณ์ยังยืนยันอีกว่า การดำเนินการในเรื่องของดุสิตธานีและการขอให้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญนั้น เป็นไปเพื่อประโยชน์ของ DTC และผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง และในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัทฯ จะไม่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ามา ยึดกิจการและควบคุมอำนาจบริหารของดุสิตธานีอย่างแน่นอน


